คุมตัวสอบ ! 2 หนุ่มต่างชาติ ร่วมแก๊งฆ่าโหดชาวไต้หวันหมกโรงแรม | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจรวบ 2 ชายชาวต่างชาติ​ ฆ่าหนุ่มชาวไต้หวันหมกโรงแรม พบมีหญิงชาวไทยเอี่ยวด้วย ขณะนี้กำลังเร่งล่าชายที่ร่วมแก๊งอีกคนมาสอบสวน

 

ความคืบหน้ากรณีพบศพนายชู อายุ 48 ปี ชาวไต้หวัน สภาพศพนอนคว่ำหน้า ถูกของแข็งทุบตีที่ใบหน้า ลำคอถูกรัดด้วยเทปพลาสติกใส มัดมือมัดเท้าด้วยเข็มขัดและเชือกฟาง นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพักภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านอุดมสุข ในห้องมีร่องรอยการต่อสู้สิ่งของกระจายทั่วห้อง จากการสืบสวนพบพยานหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด มีชายต้องสงสัยเป็นชายชาวต่างชาติ เดินเข้าพักที่ห้องพักชั้น 5 ไปเคาะประตูห้องพัก 618 ซึ่งเป็นห้องของผู้เสียชีวิต ก่อนมีชายชาวเมียนมาเดินตามออกไปขึ้นลิฟต์ และต่อมามีชายผิวสี สวมเสื้อสีเหลืองอีกคน เดินตามออกไปขึ้นลิฟต์ด้วย

 

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ควบคุมตัวนายเจนซี่ ชาวเมียนมา อายุ 21 ปี และนายจอห์น ชาวแคเมอรูน อายุ 40 ปี เอาไว้ได้ จากการสอบสวนนายเจนซี่รับสารภาพว่า เป็นผู้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้จริง โดยมีหญิงไทยรายหนึ่งรู้จักกันผ่านเฟซบุ๊ก จ้างวานให้ตนคอยเฝ้าติดตามพฤติกรรมหนุ่มชาวไต้หวันรายนี้ โดยอ้างว่าหนุ่มไต้หวันเป็นผู้ต้องคดี และมีเงินให้ตนคอยติดตามความเคลื่อนไหว จนกระทั่งช่วง 01.00 น. เมื่อวานนี้ ได้เข้าไปในห้องพักของผู้ตาย โดยอ้างว่านายจอนห์ ผู้ต้องหาอีกคนเป็นผู้จับผู้ตาย ส่วนนายเจนซี่เป็นคนจับมัดด้วยเทป และเข็มขัด จากนั้นนายจอห์น ดูต้นทางด้านหน้าประตู ก่อนรื้อค้นหาทรัพย์สิน แต่ไม่พบเงิน จึงนำเอาโน๊ตบุ๊ก และโทรศัพท์มือถือหลบหนีไป โดยอ้างว่าก่อนออกจากห้องผู้ตายยังไม่เสียชีวิต ส่วนนายจอห์นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่าตนเองเป็นครูสอนภาษา ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น

 

ส่วนผู้ต้องหาอีกคนเป็นคนผิวขาว ไม่ทราบสัญชาติ ได้มีประกาศสืบจับหรือหมายจับไว้แล้วนอกจากนี้ มีหญิงไทยอีกราย ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นแล้ว

 

ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนขยายผลไทม์ไลน์กว่า 10 ชั่วโมง โดยเริ่มจากที่หนุ่มไต้หวันเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 พ.ย.66 เวลาประมาณ 01.00 น. และเข้าพักที่โรงแรมดังกล่าวเวลา 12.43 น. ซึ่งระยะเวลาที่หายไปกว่า 10 ชั่วโมงทราบว่าหนุ่มชาวไต้หวันรายนี้ เดินทางไปพบกับเพื่อน และพักอยู่ด้วยกันในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ก่อนที่ช่วง 10.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน จะมีคนไปพบศพ จากการสอบปากคำเพื่อนทราบว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยเดินทางเข้ามาในไทยและฝากตู้เซฟจำนวน 2 ตู้ไว้กับเพื่อนรายนี้ ซึ่งในครั้งนี้ที่ผู้ตายไปหาเพื่อน เพื่อไปเอาตู้เซฟกลับ

 

จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางเข้า-ออก ทราบว่านายชูมีการเข้าออกในประเทศหลายครั้ง เนื่องจากมีธุรกิจในประเทศไทย โดยเดินทางเข้า- ออกประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2565 ถึงปัจจุบันทั้งสิ้น 22 ครั้ง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายชู ผู้เสียชีวิตประกอบธุรกิจสีเทาและถูกดำเนินคดีในไต้หวันนั้น จะมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ แต่การสอบสวนพบว่ามีข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับการเสียชีวิตครั้งนี้