ผบ.ตร. ยัน ! “ทักษิณ” ไม่เข้าหลักเกณฑ์ ลบประวัติล้างความผิด | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

365 ครั้ง

16 พ.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผบ.ตร.แถลงเปิดโครงการ “ลบประวัติ ล้างความผิด” โดยมีการถอนประวัติอาชญากรกว่า 9.3 ล้านคน ส่วนกรณี “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่เข้าหลักเกณฑ์

ตร.ล้างประวัติอาชญากรกว่า 9.3 ล้านคน

วันนี้ (16 พ.ย.) พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.พร้อม พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ร่วมกันแถลงเปิดโครงการ ลบประวัติ ล้างความผิด คืนชีวิตให้ประชาชน ภายหลังมีประชาชนจำนวนมาก ที่เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีอาญา แต่ศาลพิพากษายกฟ้อง หรือพนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง ยังมีประวัติอาชญากรรมอยู่ ทำให้ถูกตัดสิทธิ ไม่ได้รับพิจารณาเข้าทำงาน ขาดรายได้ และอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาชญากรรมซ้ำซ้อน

โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์การถอนประวัติ ออกจากฐานข้อมูลของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ของกองทะเบียนประวัติอาชญากร ประกอบด้วย คดีมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง ยกฟ้อง มีกฎหมายยกเลิกความผิดนั้น เช่น ใบกระท่อม หรือกัญชา

ผู้เสพยาเสพติดที่ผ่านการฟื้นฟูสมรรถภาพ และผู้ติดยาเสพติดที่มีผลเป็นที่น่าพอใจ, ผู้ที่ได้รับการนิรโทษกรรม, มีกฎหมายล้างมลทิน, ได้รับการอภัยโทษ, ไม่มีการกระทำความผิดซ้ำภายใน 20 ปี, ผู้ต้องหาเป็นเด็กหรือเยาวชน, มีคำพิพากษาใหม่ว่า มิใช่ผู้กระทำความผิด และคดีขาดอายุความ

เบื้องต้นผลการแบ่งทะเบียน ในการจัดเก็บข้อมูล และหลักเกณฑ์การคัดแยกประวัติอาชญากรรมตามระเบียบนี้ ทำให้มีบุคคลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากรเพียง 3,729,173 ราย จากทั้งหมด 13,051,234 ราย สามารถคืนสิทธิให้ประชาชนจากโครงการนี้ได้ 9.3 ล้านคน

โดยประชาชนสามารถตรวจสอบคุณสมบัติว่า เป็นผู้ที่อยู่ในโครงการลบประวัติล้างความผิดหรือไม่ ผ่านเว็บไชต์ www.crd-check.com หากมีชื่ออยู่ในโครงการ แสดงว่าประวัติอาชญากรรมของท่าน ถูกคัดแยกและถอนประวัติเรียบร้อยแล้ว

ยัน ทักษิณ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ลบประวัติล้างความผิด

ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ระหว่างต้องโทษ และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เข้าข่ายได้ลบประวัติอาชญากรรมหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า โครงการนี้ไม่สามารถใช้ได้กับ นายทักษิณ เพราะมีโทษสูงกว่า 1 ปี และเป็นโทษหนัก รวมถึงกรณีนายทักษิณ ไม่ได้อยู่ในความดูแลของตำรวจ แต่อยู่ในการดูแลของกระบวนการยุติธรรม หรือกรมราชทัณฑ์ ส่วนจะมีการพระราชทานยศคืนให้หรือไม่ ก็ไม่ใช่หน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเช่นเดียวกัน

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35