ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มทำงานกองถ่ายละคร ขี่รถจักรยานยนต์กำลังจะกลับบ้าน ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบ ขับรถจักรยานยนต์ตราโล่เรียกตรวจค้น แต่ไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย จากนั้นถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือ ทำร้ายร่างกาย ใช้ไฟฟ้าช็อต เรื่องนี้ผู้เสียหาย ขอความช่วยเหลือไปยังเพจสายไหมต้องรอด
เมื่อวานนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานายเดี่ยว (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายเข้าพบ พันตำรวจเอก ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจจู่โจม สน.โคกคราม ที่ทำร้ายผู้เสียหาย
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนวันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. ผู้เสียหายขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านย่านบางเขน ได้ถูกชายสองคนสวมเสื้อกั๊กสีดำ ขับรถจักรยานยนต์ตราโล่ของตำรวจ ขับมารถปาดหน้ารถผู้เสียหาย แล้วเรียกให้หยุดรถ จากนั้นได้ตรวจค้นตามร่างกาย และในรถจักรยานยนต์ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย
ต่อมาตำรวจทั้ง 2 คนได้แจ้งผู้เสียหายว่า จะพาไปสถานีตำรวจ ผู้เสียหายจึงถามว่าไปทำไม ไม่ได้ทำอะไรผิด ตำรวจจึงถามว่าเสพยามาหรือเปล่า ผู้เสียหายบอกไม่เคยเสพยา ตำรวจจึงเดินมาดูที่รถจักรยานยนต์ และแจ้งกับผู้เสียหายว่า จากการตรวจสอบทะเบียนรถกับชื่อเจ้าของรถ ไม่ตรงกับผู้เสียหาย และก็ไม่มีสำเนารถด้วย จึงต้องเอาตัวไปสถานีตำรวจ ผู้เสียหายจึงตอบไปว่ารถจักรยานยนต์เป็นของน้องตน เอกสารสำเนารถมีครบ ถ้าจะขอดูตนจะให้น้องถ่ายรูปส่งมาให้ดู แต่ตำรวจปฏิเสธที่จะดู บอกจะต้องดูเอกสารตัวจริง จากนั้นโต้เถียงกัน ทำให้ตำรวจไม่พอใจมาก จึงจับตนล็อคแขนและพยายามใส่กุญแจมือ และตีด้วยกระบองบริเวณขา 4-5 ครั้ง และใช้ปืนไฟฟ้ามาช็อตบริเวณด้านหลังอีกหลายครั้ง จนผู้เสียหายรู้สึกชาไปทั้งตัว
จากนั้นสักพักได้มี ตำรวจนอกเครื่องแบบตามมาสมทบอีกหลายคน ก่อนจะบังคับจับตนกดกับพื้นให้นั่งคุกเข่าเหมือนนักโทษรายสำคัญ และพากันควบคุมตัวตนมายัง สน.โคกคราม เมื่อมาถึงตำรวจได้ตรวจปัสสาวะตน ไม่พบว่ามีสารเสพติด ตำรวจจึงนำมีดพับขนาดเล็กของตนที่ไว้ใช้ตัดสายเคเบิลไทด์ตอนทำงาน มาบอกว่าจะดำเนินคดีข้อหาพกพามีด ตนจึงบอกไปว่า นี่มันมีดพับขนาดเล็กนิดเดียว ตนซื้อมาไว้ใช้ทำงานตัดสายเคเบิลไทด์ มันผิดกฎหมายตรงไหน จากนั้นตำรวจได้ยึดมีดพับไป และได้ไปหยิบมีดอันใหม่เปลี่ยนให้ เอามาให้ผู้เสียหายชี้และถือถ่ายรูป ผู้เสียหายได้ปฏิเสธ เพราะว่าไม่ใช่มีดของตน แต่ตำรวจขู่ว่า มึงอยากกลับบ้านไหม ถ้าอยากกลับก็ทำตามที่กูบอก ถ้าไม่ทำเดี๋ยวกูจะเอาข้อหาอื่นให้ ผู้เสียหายจึงยอมทำตามที่ตำรวจบอก
ต่อมาน้องสาวผู้เสียหายได้นำเอกสารสำเนารถจักรยานยนต์มาให้ตำรวจดู พาตำรวจดูเสร็จได้เรียกน้องผู้เสียหายออกไปคุยนอกห้อง บอกเสียค่าปรับ 100 บาท ข้อหาพกอาวุธมีด และต้องจ่ายค่าทำขวัญให้ตำรวจอีก 500 บาท บอกเป็นค่าที่ขัดขืนไม่ยอมให้จับแต่โดยดี
ด้าน พันตำรวจเอก ประภาส แก้วฉีด ผู้กำกับสน.โคกคราม กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำผิดก็จะดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้นแน่นอน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม