ดีเจภูมิ ไม่ทน ! พาผู้เสียหายร้องตำรวจ หลังถูกมิจฉาชีพหลอกขายนาฬิกาหรู สูญเงินนับล้านบาท โดยมิจฉาชีพได้หลอกทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ให้โอนเป็นเงินคริปโต จากนั้นตุ๋นเงินหายเข้ากลีบเมฆ
วันที่ 17 พ.ย. 66 ดีเจภูมิ ภูมิใจ ตั้งสง่า ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า คุณหมีเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของตน อยากที่จะนำเงินกำไรไปลงทุนต่อยอด โดยคุณหมีสนใจที่จะซื้อนาฬิกา Rolex Daytona Yellow Gold Green Dial แบบเดียวกับที่ตนสวมใส่อยู่ เนื่องจากขณะนี้เป็นช่วงที่ราคากำลังปรับลง ซึ่งจะทำให้สามารถซื้อมาเก็งกำไรได้ในอนาคต และตนเห็นว่ามีผู้โพสต์ขายนาฬิกาดังกล่าวในโซเชียลในราคาที่ถูกกว่าปกติ จึงส่งช่องทางติดต่อไปให้กับคุณหมี
คุณเพ็ญพร วงศ์นพรัตน์เลิศ (หมี) ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนได้รับช่องทางติดต่อกับมิจฉาชีพจากดีเจภูมิ ที่เห็นว่ามีการประกาศขายนาฬิกา Rolex Daytona Yellow Gold Green Dial ที่ตนอยากได้ในราคาถูกกว่าปกติ จึงตัดสินใจติดต่อไปพบว่าอีกฝ่ายเป็นชาวฮ่องกง จากนั้นได้นัดตรวจเช็กนาฬิกาที่ร้าน Expert Watch อีกฝ่ายอ้างว่าพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง จึงให้เพื่อนที่พูดไทยได้นำนาฬิกามาให้ดู โดยขอให้โอนเงินค่านาฬิกาเป็นเงินคริปโต ก่อนซื้อขายได้ระมัดระวังเรื่องการโอนมัดจำให้ผู้ขายก่อนแล้ว เมื่อไปพบกับผู้ที่นำนาฬิกามาให้ดูตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นของแท้ ตนเข้าใจว่าคนที่ตนไปพบไม่ใช่เจ้าของนาฬิกา และได้ถามว่าทำไมถึงใช้การทำธุรกรรมด้วยเงินคริปโต แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ
จากนั้นตนได้ให้เงินสดกับอีกฝ่าย 300,000 บาท และโอนเงินคริปโตเพิ่มอีก 1,500,000 บาท แต่ปรากฏว่าคนที่นำนาฬิกามาให้ถามว่าแล้วจะส่งนาฬิกาไปฮ่องกงอย่างไร และได้บอกอีกว่าเงินยังไม่เข้า สุดท้ายพบว่าทั้งสองฝ่ายถูกมิจฉาชีพหลอกจึงเกิดเหตุชุลมุนขึ้น อีกฝ่ายได้นำนาฬิกากลับไปและคืนเงินสดให้แต่พบว่าได้เงินคืนมาไม่ครบ จากนั้นได้แจ้งตำรวจและไปที่โรงพักพร้อมกันทั้งสองฝ่าย จากนั้นทางตำรวจได้คืนนาฬิกาให้แก่อีกฝ่ายไป จึงได้ไปร้องกับกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
คุณวรินทร มิชาส์ (เควิน) ผู้เสียหาย เล่าต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนคล้ายกับของคุณหมีมาก ตนต้องการซื้อนาฬิกา Rolex Daytona ผ่านทางออนไลน์ มิจฉาชีพเป็นชาวฮ่องกงที่ล่อลวงให้ไปพบกับคนที่นำนาฬิกามาให้ ที่ร้าน Expert Watch เช่นกัน แต่ของตนได้ไปพบกับคนพูดภาษาจีน ตรวจสอบแล้วนาฬิกาเป็นของแท้ จึงตัดสินใจโอนเงินผ่านระบบคริปโตโดยที่ให้อีกฝ่ายตรวจเช็กแล้วว่าบัญชีรับเงินถูกต้อง แต่อีกฝ่ายอ้างว่าพี่ชายที่เป็นเจ้าของนาฬิกาไม่ได้รับเงิน จึงตัดสินใจไปโรงพักแต่กลับพบคนที่อ้างว่าเป็นพี่ชายรออยู่ก่อนแล้วจึงรู้สึกสงสัยในกรณีนี้ ส่วนนาฬิกาทางตำรวจได้เก็บไว้ ไม่ได้คืนให้เจ้าของนาฬิกาเหมือนกับคุณหมี ตนได้ตรวจสอบกับคุณหมีพบว่าเป็นมิจฉาชีพคนเดียวกัน
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นในมุมกฎหมาย การคืนนาฬิกาไม่สามารถทำได้ เนื่องจากในขณะนี้ไม่สามารถตัดสินว่าใครควรจะเป็นเจ้าของนาฬิกา เชื่อว่าการกระทำนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง การหลอกขายนาฬิกามีความผิดข้อหาฉ้อโกง และข้อหานำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เชื่อว่ามีการทำงานเป็นขบวนการ จึงอยากให้ไปแจ้งกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อสืบหาตัวคนร้ายผ่านเส้นทางการเงิน ซึ่งสามารถทำได้ไม่ยากเชื่อว่าจะสามารถจับตัวคนร้ายได้ ส่วนความเป็นเจ้าของนาฬิกา ตามหลักกฎหมายเมื่อซื้อขายแล้วกรรมสิทธิ์นาฬิกาต้องเป็นของผู้ซื้อ ส่วนผู้ขายที่ไม่ได้รับเงินตามจำนวนจะต้องฟ้องร้องเงินส่วนต่างในภายหลัง
พ.ต.ท. เกริกไกร วีระเชาวภาส รอง ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สอท.1 กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาเป็นรายเดียวกัน พบว่าเจ้าตัวอยู่ในต่างประเทศ จากนี้จะประสานงานกับผู้ที่นำนาฬิกามาให้ มาสอบสวนเพิ่มเติมว่าเป็นเจ้าของนาฬิกาตัวจริง หรือเป็นหนึ่งในขบวนการของมิจฉาชีพ โดยจะตรวจสอบโทรศัพท์มือถือและต้องให้อีกฝ่ายนำนาฬิกากลับมาด้วย ยืนยันว่าจะหาตัวผู้ทำผิดมาลงโทษให้ได้
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม