หนุ่มสุดงง โดน ตร. ค้นตัว ไม่เจอความผิด แต่กลับจะยัดข้อหา พอไม่ยอมก็ทำร้ายร่างกาย โดยใช้กระบองทุบ และยังโดนปืนไฟฟ้า ช้ำหนัก มาโดนไถเงิน 500 บาท !
วันที่ 16 พ.ย. 2566 กฤษฎา พุกเจริญ (เดี่ยว) ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2566 ระหว่างตนขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน ได้ถูกชาย 2 คน สวมเสื้อกั๊กคล้ายตำรวจ ขับจักรยานยนต์มาปาดหน้าตน พร้อมเข้าตรวจค้นตามร่างกาย แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย อีกทั้งตรวจประวัติตนก็ไม่เจอคดีอะไร สุดท้ายเขาพยายามจะถามหาสำเนารถที่ตนขี่มา ว่าไม่ตรงกับชื่อตน แต่มันเป็นชื่อของน้องสาว พอตนจะเอาสำเนาให้ดู เขาก็ไม่ดู แล้วจับตนใส่กุญแจมือ พร้อมเอากระบองทุบ และปืนช็อตไฟฟ้า
จากนั้นเขาเลยวอเรียกตำรวจนอกเครื่องแบบอีกหลายคน เพื่อมาควบคุมตน เมื่อเขามาถึงเขาก็บังคับจับตนกดกับพื้นให้นั่งคุกเข่า และได้ค้นตัวตนอีกครั้ง ก็มาเจอมีดพับขนาดเล็กของตน ที่ตนเอาไว้ใช้ทำงาน แต่เขากลับยึดไป และนำมีดอีกอัน มาให้ตนชี้และถือถ่ายรูป จากนั้นก็ได้นำตัวตนไปโรงพัก และได้ปรับตน 100 บาท ข้อหาพกมีด และขออีก 500 บาท อ้างว่าเป็นค่าทำขวัญเพราะมีรอยแดงจากการจับกุมตน
ด้าน เอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนมาจึงได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม ซึ่งท่านก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เป็นคนรับเรื่องเอง และพาผู้เสียหายไปแจ้งความเอง ขณะเดียวกัน ท่านยังบอกอีกว่า ถ้าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัด ท่านไม่เอาไว้แน่นอน
ฟาก สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความเห็นว่า ตนอยากฝากบอกประชาชนว่า ถ้าเกิดโดนตรวจค้น ให้เอะอะโวยวายไว้ก่อนเลย ให้คนมามุงดู และเราสามารถขอให้ประชาชนที่มามุงดูเขาช่วยถ่ายคลิปไว้ได้ด้วย เพื่อเป็นหลักฐาน แต่อย่าไปขวางการทำงานของตำรวจ
ขณะเดียวกัน ตำรวจจะไปบังคับอุ้มเขาไปใส่กุญแจมือไม่ได้ เพราะเขาไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย และไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี สำหรับเคสนี้ผู้ก่อเหตุจะโดนข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง อีกทั้งยังจะโดนข้อหาร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และที่หนักที่สุดคือเป็นเจ้าพนักงาน แต่เรียกรับสินบน
ขณะที่ เกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เผยว่า ในเคสนี้ถ้าผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริง ตอนนี้มันมี พ.ร.บ.ควบคุมการจับกุมอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องปฏิบัติ และประชาชนควรรู้ คือ ถ้าประชาชนโดนเจ้าหน้าที่จับกุมตัว เจ้าหน้าที่ต้องถ่ายคลิป บันทึกภาพและเสียง ตลอดเวลาจนกระทั่งนำตัวส่งพนักงานสอบสวน โดยเราให้ตำรวจทุกคนมีกล้องแล้ว อีกทั้งจากเหตุการณ์ "ผกก.โจ้" จึงได้มีการออกกฎหมายว่า ห้ามมีการกระทำทรมาน โหดร้าย ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ต่อการจับกุม สำหรับการเยียวยาผู้เสียหาย เคสนี้เข้าข่ายการทำร้ายร่างกาย จึงสามารถได้รับการเยียวยา สามารถส่งเอกสารมมารับเงินเยียวยาที่กรมคุ้มครองสิทธิ์ได้เลย
ล่าสุดวันนี้ สน.โคกคราม ได้มีการทำหนังสือชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้น ผ่านรายการถกไม่เถียง ใจความว่า บุคคลที่ปรากฏตามข่าว เป็นเจ้าหน้าที่ของตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามของ สน.โคกคราม โดยในขณะที่เกิดเหตุได้ออกตรวจพื้นที่ จนมาพบผู้เสียหายเข้า ซึ่งมีพฤติการณ์น่าสงสัย จึงขอตรวจค้นตัว ก็ได้มาพบอาวุธมีด จำนวน 1 เล่ม เลยแจ้งข้อหาพกพาอาวุธมี และนำตัวมาที่สน.โคกคราม แต่ผู้เสียหายไม่ยอม ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์และยุทธวิธีทั้งหลาย เท่าที่จำเป็น เหมาะกับพฤติการณ์ จนสามารถส่งตัวให้เจ้าพนักงานสอบสวนได้ อีกทั้งได้เปรียบเทียบปรับเรียบร้อยแล้ว โดยยินยอมให้ปรับ ไม่ได้มีการโต้แย้งแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายมาแจ้งความเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งคำร้องทุกข์ไว้แล้ว และได้ส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ภูมิพลฯ แล้ว ขณะเดียวกัน ผกก.สน.โคกครามได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ของเจ้าหน้าที่สายตรวจดังกล่าวแล้ว โดยจะรวบรวมข้อเท็จจริงให้ครบทุกมิติ ให้ความเป็นธรรมแก่คู่กรณีทุกฝ่าย อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ หากพบว่ามีมูลกระทำความผิดจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35