หนุ่มสุดงง ขี่ จยย. จอดรถบนฟุตบาท กลับมาโดนเก๋งพุ่งเสยอัดชนเสาไฟหัก ซวยหนักมาโดนการไฟฟ้าฯ ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 8 หมื่น ซ้ำยังถูกตำรวจไถเงิน !?
วันที่ 15 พ.ย. 2566 กิตติชัย กนกกิจเจริญพร (บูม) ผู้เสียหาย เล่าว่า วันที่เกิดเหตุวันที่ 28 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 02.30 น. ตนกับแฟนได้ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรขึ้นฟุตบาท พาสุนัขไปหาหมอ และได้จอดโทรศัพท์หาน้องหญิง เพื่อยืมเงินค่ารักษา แต่ยังไม่ทันได้วางสายดี ก็มีรถเก๋งเสยฟุตบาทขึ้นมาชนรถจักรยานยนต์ของตนอัดเสาไฟฟ้าหัก ส่วนตนกับแฟนกระโดดหลบคนละทาง และหมดสติไป
จากนั้นตนได้เข้าโรงพยาบาล ทางฝั่งคู่กรณีได้เข้ามาตกลงค่าเสียหาย ว่าเขาจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเสาไฟฟ้า และจะซื้อรถจักรยานยนต์มือ 2 ให้ตน 1 คัน รวมถึงโทรศัพท์ใหม่ 1 เครื่อง และจะให้เงินอีกจำนวน 30,000 บาท โดยขอผ่อนเดือนละ 5,000 บาท ทว่าหลังจากนั้นตนติดต่อไปทวงเงินก็โดนขู่กลับมา จึงไปแจ้งความ ตำรวจกลับบอกว่าแจ้งความเรียกค่าเสียหายไม่ได้เพราะประมาทร่วมกัน ขณะเดียวกันก็มีตำรวจมาบอกตนว่าให้โอนเงินให้เขา 3,000 บาท เป็นค่ากระเช้า แลกกับการทำคดี ตนได้โอนไป 1,000 บาท แต่คดีก็ไม่เดิน
ต่อมาไม่นาน คนขับรถเก๋งก็มาโดนตำรวจจับ จากนั้น 1 ปี การไฟฟ้าฯ จึงมาฟ้องเรียกค่าเสียหายตนที่ทำเสาไฟฟ้าหักเป็นเงิน 34,000 กว่าบาท โดยมีคนขับรถเก๋งเป็นจำเลยที่ 1 ส่วนตัวเขาเป็นจำเลยที่ 2 โดยในหมายศาลเขียนว่า ตนขับรถแข่งกับรถเก๋งมา และระหว่างขึ้นศาลสืบพยาน ก็ได้เรียกค่าแรงติดตั้งเสาไฟฟ้าเพิ่มอีก 30,000-40,000 บาท ทว่า ตนได้ตั้งข้อสังเกตุ เนื่องจากเสาไฟฟ้าใหม่ที่หัก เหมือนเขาไม่ได้ซ่อม เหมือนเป็นอันเดิมที่เขาเอามาใช้ เพราะมันสั้นกว่าต้นอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ตนเดือดร้อนหนัก ตอนนี้ไม่มีเงินสู้คดี แถมโดนไล่ออกจากงาน เพราะตนลางานไปหาหลักฐานบ่อย
ด้าน กุลฐิรัสมิ์ ถนอมศักดิ์โกศล (หญิง) พยานที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุตนเห็นอาการของคนขับรถเก๋งมีอาการคล้ายเมายาเสพติด จึงได้ให้ตำรวจส่งเรื่องตรวจปัสสาวะ ซึ่งเขาก็บอกว่าจะส่งให้ อีกทั้งตนยังได้แอบถามกับคนขับรถเก๋งมาว่าเมาอะไรมา เขาตอบตนว่า "เมาไฟว์" ซึ่งเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่ได้มีการตรวจปัสสาวะขึ้น
ฟาก รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า กระประมาทร่วมนั้นไม่มี เคสนี้เป็นการต่างคนต่างประมาท ความเสียหายจากการเฉี่ยวชนไม่ได้เกิดจากฝั่งจักรยานยนต์ เป็นรถยนต์ที่พุ่งขึ้นมาชนเขา ส่วนเรื่องแข่งรถ ถ้าเขาพิสูจน์ไม่ได้ว่าแข่งยังไง ก็ต้องฟ้องกลับ ส่วนค่าเสียหายของเสาไฟฟ้านั้น การจะไปเปรียบเทียบราคานั้นยาก เพราะเสาไฟแบบนี้ไม่มีที่อื่นทำ เราต้องพิสูจน์เอง
ขณะที่ พ.ต.ท. สมพล บุญทา สว.สอบสวน สน.ท่าข้าม กล่าวว่า ฝั่งรถยนต์ เขาให้การว่า เขาวูบหมดสติรถเลยเสียหลักขึ้นไปบนฟุตบาท และยังพบว่าทั้ง 2 คู่กรณี ไม่ได้มีการขับแข่งกันมา ขณะที่ฝั่งรถจักรยานยนต์ ก็ให้การว่า ขับรถย้อนศรสวนทางมา แล้วพอเห็นรถยนต์จึงชะลอ พอจะชนแล้วเขาก็กระโดดหลบ ส่วนเรื่องการตรวจหาสารเสพติด เราได้แจ้งเรื่องให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตรวจแล้ว ทว่า ตัวของจำเลยปฏิเสธการตรวจ แล้วออกจากโรงพยาบาลไป ขณะที่ประเด็นของตำรวจมาเรียกเงินนั้น ตนไม่ทราบเรื่องเลย แต่เดี๋ยวตนจะทำการจัดการให้ อย่างไรก็ตามตนจะให้ความเป็นธรรมกับฝั่งรถจักรยานยนต์
ด้าน กิตติชัย กล่าวเพิ่มว่า วันที่ให้ปากคำทางสารวัตรพยายามบอกให้ตนยอมรับว่า ว่าขี่รถมาแหละ เขียนแบบไหนก็เหมือนกันแหละ ซึ่งตนก็ได้ยืนยันกับเขาแล้วว่า ตนจอดรถอยู่จริง ๆ
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35