ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หนุ่มคนหนึ่ง ขี่รถจักรยานยนต์ แล้วโดนรถเก๋งขับมาชนอัดกับเสาไฟฟ้า จนเสาไฟฟ้าหัก 1 ต้น แต่ว่าต่อมากลับโดนฟ้องร่วมกับคนขับรถเก๋ง ให้จ่ายค่าเสาไฟฟ้าที่เสียหายเกือบ 40,000 บาท และค่าแรงช่างอีกประมาณ 40,000 บาท ซึ่งเขาบอกว่า เขาน่าจะเป็นผู้เสียหาย แต่กลับต้องถูกฟ้องให้จ่ายค่าเสาไฟด้วย
นายกิตติชัย กนกกิจเจริญพร ร้องเข้ามายังรายการถกไม่เถียง ขอความช่วยเหลือ ว่าเขาถูกการไฟฟ้านครหลวง ฟ้องคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย 34,000 กว่าบาท เป็นค่าเสาไฟฟ้าที่เสียหาย จากอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้าจนหัก ทั้งที่ตัวเขาน่าจะเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ
นายกิตติชัย เล่าว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ เริ่มจากเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 02.30 น. เขากับแฟน ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากซอยถนนท่าข้าม ออกมาถนนพระราม 2 เพื่อพาสุนัขที่กำลังป่วยหนักไปหาหมอ แต่ว่าเขาขี่ย้อนศรบนฟุตบาท เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ บริเวณตรงข้ามศาลเจ้าแม่งู ได้หยุดรถบนฟุตบาท และทั้งตัวเขาและแฟนลงจากรถ คุยโทรศัพท์กับน้องอีกคน ที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ให้หยุดรอเพื่อนำเงินค่ารักษาสุนัขมาให้
แต่ว่าระหว่างนั้น มีรถเก๋งคันหนึ่ง ขับส่ายไปมาด้วยความเร็ว และปีนขึ้นบนฟุตบาทที่เขาและแฟนจอดรถยืนคุยโทรศัพท์อยู่ แล้วพุ่งเข้าชนรถจักรยานยนต์อย่างแรง จนรถจักรยานยนต์กระเด็นไปอัดกับเสาไฟฟ้า ทำให้เสาไฟฟ้าหัก ส่วนตัวเขาและแฟน กระโดดหลบไปคนละทิศละทาง และได้รับบาดเจ็บด้วย
นายกิตติชัย บอกว่า ตอนออกจากโรงพยาบาล ไปตามเรื่องคดีกับตำรวจ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่สามารถดำเนินคดีได้ เพราะประมาทกันทั้งคู่ โดยตัวเขา ถูกระบุว่า ขับรถด้วยความเร็วบนฟุตบาท
นายกิตติชัย เล่าอีกว่า หลังจากนั้น เขาคิดว่าคดีสิ้นสุดแค่นั้น จึงไปตามหาซากรถจักรยานยนต์ที่ถูกชนที่โรงพัก แต่ไม่เจอแล้ว จึงถือว่าฟาดเคราะห์ไม่คิดอะไร ส่วนเรื่องเสาไฟที่หัก ทราบว่า การไฟฟ้านครหลวง ได้เจรจากับคนขับรถเก๋ง ซึ่งคิดว่าเรื่องทุกอย่างจบแล้ว
แต่มาทราบภายหลังว่า หลังจากที่เขาโดนรถชนได้ 2-3 เดือน ปรากฏว่าคนขับรถเก๋งถูกตำรวจจับข้อหายาเสพติด ทำให้การไฟฟ้านครหลวงติดต่อผ่านเขา ถามว่า สามารถติดต่อคู่กรณีได้ไหม ซึ่งเขาก็บอกไปว่าติดต่อไม่ได้ กระทั่งเหตุการณ์รถชนผ่านไป 1 ปี เขาก็ถูกการไฟฟ้านครหลวงฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหายที่ทำเสาไฟฟ้าหักเป็นเงิน 34,000 กว่าบาท โดยมีคนขับรถเก๋งเป็นจำเลยที่ 1 ส่วนตัวเขาเป็นจำเลยที่ 2 และจากการขึ้นศาลสืบพยาน ทนายของการไฟฟ้านครหลวง ได้เรียกค่าเสียหาย เป็นค่าแรงติดตั้งเสาไฟฟ้าเพิ่มอีกประมาณ 30,000-40,000 บาท
นายกิตติชัย ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การซ่อมเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าว ไม่ได้เปลี่ยนเสาใหม่ทั้งต้น แต่ตัดส่วนที่หักออกและใช้เสาเดิม สังเกตจากเสาปกติ ตราสัญลักษณ์ของการไฟฟ้านครหลวงจะอยู่ระดับสายตา ส่วนเสาต้นนี้ ตราสัญลักษณ์อยู่เกือบติดดิน และเสาเตี้ยกว่าเสาต้นอื่น แต่ว่ามาฟ้องเรียกค่าเสาไฟฟ้าจากเขาราคาต้นใหม่ทั้งต้น
เรื่องนี้ ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อนโทรศัพท์สอบถามไปยัง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง ที่เป็นผู้ตรวจสอบเสาไฟฟ้าต้นดังกล่าวหลังจากถูกชนจนหัก ได้รับคำตอบว่า ตามระเบียบของการไฟฟ้านครหลวง เมื่อไปตรวจสอบแล้ว จะต้องแจ้งบันทึกรายงานอุบัติเหตุให้ฝ่ายกฎหมายไปดำเนินการต่อภายใน 7 วัน แต่ในช่วง 7 วันหลังเกิดอุบัติเหตุ ได้พยายามไปติดตามกรณีนี้กับตำรวจเข้าของคดีว่าใครผิด ใครถูก จะได้ไปเจรจาเรียกค่าเสียหายได้ แต่ว่าทางตำรวจเจ้าของคดีได้บอกในตอนนั้นว่า ยังไม่สามารถชี้ผิดชี้ถูกได้ จนเมื่อครบ 7 วัน จึงต้องส่งเรื่องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการต่อ
เมื่อฝ่ายกฎหมายรับเรื่องไปแล้ว ปรากฏว่า คู่กรณีที่เป็นคนขับรถเก๋งถูกจับคดียาเสพติด เข้าไปอยู่ในเรือนจำ เมื่อไปตามกับตำรวจ ตำรวจก็บอกกว้าง ๆ ว่ารถจักรยานยนต์ขับย้อนศรบนฟุตบาท ส่วนรถเก๋งก็ขับมาชนบนฟุตบาท แต่คดียังไม่คืบหน้า ฝ่ายกฎหมายของการไฟฟ้านครหลวง จึงต้องฟ้องคู่กรณีทั้งสองฝ่ายให้ร่วมกันรับผิดชอบ สำหรับเรื่องราวโดยละเอียดของกรณีนี้ ติดตามได้ในรายการถกไม่เถียง ช่วงถัดไป
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35