โรงเรียนไว้อาลัย “ครูเจี๊ยบ” เหยื่อกระสุนเด็กช่างกล | ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ครูและนักเรียนโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ร่วมจัดกิจกรรมวางดอกไม้ไว้อาลัยแด่ ครูเจี๊ยบ ที่ถูกยิงเสียชีวิต เพราะลูกหลงจากเหตุการณ์คนร้ายใช้ปืนยิงคู่อริต่างสถาบัน โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

 

ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีพิธีสวดภาวนา อุทิศดวงวิญญาณแด่ผู้ล่วงลับให้ครูเจี๊ยบ ซึ่งเป็นพิธีทางศาสนาคริสต์ หลังสวดเสร็จมีการนั่งสมาธิรำลึกถึงครูเจี๊ยบ โดย นางสาวชณัฐศิกาญน์ มณีอินทร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลและงบประมาณ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังกิจกรรมไว้อาลัยว่า ครูเจี๊ยบอยู่กับเรามาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 ประมาณ 27 ปี และปฎิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง รักเด็กนักเรียน ให้ความช่วยเหลือเพื่อนครู ผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว ซึ่งครูเจี๊ยบเป็นคนดีมาก และปกติครูและนักเรียนก็จะใช้ชีวิตประจำวันปกติแบบนี้ ออกไปซื้อของหน้าโรงเรียน และเหตุการณ์นี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด การสูญเสียครั้งนี้ทุกคนรู้สึกว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่

 

ส่วนความช่วยเหลือเบื้องต้น คณะผู้บริหารโรงเรียน สมาคมผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่า มีเงินช่วยเหลือ และจัดพิธีศพ โดยทางโรงเรียนดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนเงินที่ผู้ปกครองและเพื่อนครูร่วมทำบุญมา ทางโรงเรียนก็มีฝ่ายบัญชีบันทึกและรวบรวมข้อมูล คณะผู้บริหารก็จะส่งมอบให้คุณพ่อและคุณแม่ของครูเจี๊ยบ อย่างเป็นทางการ ซึ่งครูเจี๊ยบเป็นคนดูแลครอบครัวคนเดียวของบ้าน

 

สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยก่อนหน้านี้มีการคัดกรองอย่างเข้มงวดอยู่แล้ว รถที่จะเข้ามาในโรงเรียนก็จะต้องมีสติกเกอร์ของโรงเรียนถึงจะเข้าไปในโรงเรียนได้ ส่วนผู้ปกครองก็จะรอรับนักเรียนด้านนอกเป็นปกติ ซึ่งทางโรงเรียนมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในการเข้าออก มีประตูเข้าออกเพียงด้านเดียว ส่วนคนที่จะเข้ามาในโรงเรียนก็จะเข้ามาได้แค่เพียงประตูหน้าประตูเดียวเท่านั้น ส่วนการดูแลความปลอดภัยโดยรอบโรงเรียน ตอนนี้ สน.ท่าเรือ และ สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ประสานกับทางโรงเรียน ดูแลเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยตลอด และรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีอย่างต่อเนื่อง

 

ซึ่งเมื่อวานนี้ (12 พ.ย.) ก็มาดูแลประจำที่จุดตรวจหน้าโรงเรียน มีการคัดกรองอย่างละเอียด ติดสติกเกอร์ และมีคิวอาร์โค้ด ซึ่งในแต่ละวันก็จะเข้าเวรตั้งแต่ 06.00-17.00 น. ตำรวจก็จะดูแลแบบนี้ตลอด

 

ส่วนการดูแลเยียวยาจิตใจเด็กนักเรียน คุณครูก็จะค่อย ๆ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์นี้กระทบกระเทือนจิตใจของผู้บริหาร คุณครู และนักเรียนทุกคน ต้องยอมรับว่า ต้องใช้เวลาในการดูแลจิตใจ ซึ่งทุกคนก็หวาดกลัวกันมาก และรู้สึกเศร้าสลดมาก เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทันหัน

 

ขณะที่ผู้ปกครองของนักเรียน เผยว่า หลังเกิดเหตุรู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียครูน้ำดี และรู้สึกเป็นห่วงลูก ที่มาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันแบบนี้ขึ้น แม้ว่าหลังเกิดเหตุทางโรงเรียนจะมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น แต่ก็อดห่วงลูกไม่ได้ รู้สึกเป็นกังวลตลอดเวลา

 

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เดินทางมาร่วมประชุมกับชุดคลี่คลายคดี ทั้งชุดสืบสวนนครบาล ชุดสืบสวน บก.น.5 และชุดสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ โดยเผยก่อนการประชุมว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้า แต่ทุกอย่างอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ทั้งการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เส้นทางการหลบหนี และตัวผู้ก่อเหตุ รวมถึงประสานไปยังสถาบันการศึกษาของผู้ก่อเหตุเพื่อขอข้อมูลแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ได้เพราะอยู่ระหว่างการสืบสวนเช่นกัน ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้กำชับให้ดำเนินการโดยเร็วที่สุดและถูกต้องที่สุด

 

ด้านแม่ของนายธนสรณ์ หรือ น้องหยอด ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า ตั้งแต่เมื่อวานที่ไปพบแพทย์ก็ยังไม่ได้เจอหน้าลูกชาย และยังไม่ทราบรายละเอียดอาการลูกชายว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ภาวนาให้น้องหายดีและกลับมาใช้ชีวิตได้แบบเดิม โดยในวันนี้จะทราบอาการของน้องแบบชัดเจน เนื่องจากต้องเข้ามาคุยกับแพทย์ ส่วนความรู้สึกในวันนี้ยอมรับว่า ยังไม่โอเค ยิ่งได้เห็นข่าว ยิ่งรู้สึกย่ำแย่ เพราะลูกตนเจ็บขนาดนี้ แต่สังคมกลับด่าและต่อว่าลูกตนเป็นนักเลงบ้าง เป็นอันธพาลบ้าง และเป็นตัวก่อเรื่องที่ทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิต ทั้ง ๆ ที่ลูกตนก็เป็นเด็กทั่วไปที่ไปเรียนหนังสือ แล้วกลับถูกคนร้ายมาสุ่มยิงมั่ว ยิงส่งเดช ไม่รู้ใครเป็นใคร พร้อมยืนยันว่าลูกเป็นเด็กตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่มีอาวุธติดตัว และมีเพียงโทรศัพท์ 1 เครื่อง ปากกา 1 ด้าม ติดตัวไปเรียนเท่านั้น

 

เมื่อถามว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นคิดว่ามาจากความขัดแย้งของสถาบันหรือไม่ แม่ของนายธนสรณ์ ระบุยังไม่สามารถโทษใครได้ แม้ว่าจะมีข้อพิพาทเรื่องของสถาบันจริง จึงขอรอตำรวจทำงานก่อน ไม่อยากไปปรักปรำใคร ตอนนี้ขอภาวนาให้จับคนร้ายให้ได้เร็ว ๆ เพราะลูกตนเจ็บ แต่ตนเจ็บยิ่งกว่า

 

ขณะที่ พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และเชื่อว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้

 

รุ่นพี่อุเทนถวายเข้ายื่นหนังสือถึง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ และ ผบ.ตร.

 

ตัวแทน นักศึกษาอุเทนถวาย เข้ายื่นหนังสือ ถึง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ยัน เราคือผู้ถูกกระทำ แม่ผู้บาดเจ็บเผยอาการน่าเป็นห่วง

 

ช่วง 14.30 น. ผ่านมา ตัวแทนสโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย และ น.ส.พรพิมล แม่ของ นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือ น้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาอุเทนถวาย ที่ถูกลูกหลงจากกลุ่มเด็กช่างไล่ยิงกัน เข้ายื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ สารบุญ ผกก. สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อขอความเป็นธรรมและยืนยันความบริสุทธิ์ให้นายธนสรณ์ หลังถูกสังคมกล่าวหาว่า นายธนสรณ์เป็นคู่อริกลุ่มเด็กช่างจนเป็นเหตุให้ครูเจี๊ยบถูกยิงเสียชีวิต

 

โดยตัวแทนนักศึกษา ระบุว่า นายธนสรณ์ขึ้นรถเมล์มาจากพระราม 2 เดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเพื่อทำซุ้มรับปริญญาให้รุ่นพี่ แต่ระหว่างทางรถเมล์ยางระเบิดจึงต้องจอดเปลี่ยนยาง นายธนสรณ์จึงต้องลงเปลี่ยนรถที่จุดเกิดเหตุ แต่จังหวะที่กำลังจะขึ้นรถอีกคันก็เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ยืนยันว่าไม่ใช่การทะเลาะวิวาทหรือมีเรื่องกันมาก่อน และนายธนสรณ์ก็เป็นเด็กที่เรียนเก่ง ตั้งใจมาเรียนที่อุเทนถวาย ซึ่งไม่อยากพาดพิงถึงสถาบันอื่นเพราะยังไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร บางทีอาจจะเป็นมือที่สามก็ได้ ซึ่งตอนนี้ต้องรองตำรวจสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุก่อน

 

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องที่อุกอาจมาก และสำหรับครูเจี๊ยบก็เป็นผู้ถูกกระทำเช่นกัน จึงอยากมายื่นหนังสือเพื่อขอความเป็นธรรมและให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้ และตอนนี้ยอมรับว่ากังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนอุเทนถวายตอนนี้ก็ต่อสู้เรื่องที่ดินอยู่ด้วย ทางสโมสรนักศึกษาอาจารย์ และสมาคมศิษย์เก่าก็กำชับว่าจะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ส่วนตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยปิดเรียน 3 วัน ให้เรียนออนไลน์ไปก่อน

 

ด้าน นางสาวพรพิมล กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า ตอนนี้อาการของลูกยังน่าเป็นห่วง เพราะอาการหนักพอสมควร ซึ่งแพทย์อยู่ระหว่างเฝ้าติดตามอาการ โดยเฉพาะจุดอันตรายหรือจุดที่สำคัญอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะต้องรักษาตามลำดับเท่าที่จะทำได้ เบื้องต้นแพทย์ได้ทำการผ่าตัดไปแล้ว 3 รอบ แต่ยังต้องเฝ้าระวังอีกหลายอย่างในร่างกาย ส่วนกระสุนที่โดนบริเวณช่วงขา จุดนี้ยังไม่สามารถผ่าตัดได้ ตอนนี้สภาพจิตใจยังย่ำแย่ ทั้งจากข่าวที่ออกมาว่าลูกตนเป็นตัวต้นเหตุทำให้ครูเจี๊ยบถูกลูกหลงจนเสียชีวิต ซึ่งตนยืนยันเลยว่า ลูกตนโดนกระทำ ไม่ได้กระทำเขา และลูกตนไม่เกี่ยวข้องกับการตีกันระหว่างสถาบัน ลูกตนใช้ชีวิต ไปเรียนเป็นปกติทั่วไป แต่ปรากฎว่าสังคมกลับมาโจมตีลูกตนซ้ำ โดยวันเกิดเหตุลูกตนนั่งรถเมล์ไปเรียนตามปกติ แต่เกิดเกตุรถเมล์เสีย เลยลงมารอรถเมล์บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยที่ไม่ได้ระวังตัว

 

ที่ผ่านมาตนเลี้ยงลูกมาอย่างดี ตั้งแต่ช่วงอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา จึงขอท้าทุกคนให้ไปสืบเรื่องการเรียนของลูกได้เลยว่าลูกเป็นเด็กตั้งใจเรียน ได้เกรด 3.86 - 3.87 มาตลอด ไม่เคยต้องเข้าปกครองสักครั้ง ส่วนการเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายนั้น ก็ได้โควต้าจากมหาวิทยาลัยฯ โดยลูกบอกว่า อยากเรียนที่นี่ อยากมีอนาคตเลี้ยงพ่อแม่ได้ อยากมีงานทำที่ดี ซึ่งตนก็เพิ่งเข้าใจแล้วว่า ทำไมลูกถึงอยากเรียนที่นี่ ที่มหาวิทยาลัยฯ แห่งนี้ เพราะมีรุ่นพี่ที่สั่งสอนลูกดีมาก ตนอยากขอบคุณทางสถาบันฯ และเชื่อว่าที่นี่เป็นสถาบันที่ดี จบมาจะได้ทำงาน มีเงินเดือนสูง ๆ เพราะหลังเกิดเรื่อง ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องก็เข้ามาช่วยเหลือตนตลอด อาทิ ช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย และช่วยดูแลตน

 

ส่วนเรื่องทางคดีก็ขอให้เป็นหน้าที่ของทางตำรวจ ตอนนี้ไม่ได้อยากพาดพิงว่าเป็นสถาบันไหนที่เป็นผู้ก่อเหตุ เพราะคำนึงถึงการจับคนร้ายที่ก่อเหตุอุกอาจเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด โดยเชื่อว่าทางตำรวจเก่งและสามารถจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน