วันที่ 13 พ.ย. 2566 เบญจมาศ แสงมณี (ปุ๋ย) แม่ผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 เล่าว่า ลูกสาวตนเกิดอาการปวดยอกบริเวณหลัง เกรงว่าจะเป็นอาการออฟฟิศซินโดรม จึงพาไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง ในอำเภอพระพุทธบาท จ.สระบุรี จากนั้นหมอก็ได้ทำการฉีดยาแก้ปวดให้ ลูกสาวมีอาการดีขึ้นก็กลับไปเรียน ใช้ชีวิตตามปกติ หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ก็ไปหาหมอด้วยอาการเดิม และหมอได้ฉีดยาให้อีกครั้ง ก็หายกลับมาใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ทว่าอาการก็กลับมาไม่ดีอีก เริ่มมีอาการหายใจไม่อิ่ม มีอาการเหนื่อย ลูกโทรมาบอกไม่ไหวให้ตนมารับที่โรงเรียน
ตนจึงรีบพาไปหาหมอ พอพาไปหาหมอ หมอตรวจที่บริเวณหน้าอกน้อง ก็พบว่า ลูกมีอาการหายใจเบา เขาเลยส่งตัวให้ไปเอกซเรย์ที่โรงพยาบาล ผลออกมาก็คือน้องปอดรั่ว ต้องผ่าตัด เจาะใส่ท่อ เพื่อระบายลมออก ต้องนอนแอดมิทรอดูอาการ รอให้ปอดมันฟื้นฟูตัวมันเอง ซึ่งตัวลูกสาวเองหลังจากเจาะต่อท่อแล้วนั้น เขาก็มีอาการดีขึ้น เพียงแต่จะเจ็บแผลที่เจาะ และเคลื่อนไหวลำบาก เพราะมีท่อติดอยู่ตลอดเวลา ทว่านอนดูอาการ 13 วัน ปอดน้องมันไม่ฟื้นฟูเลย หมอทำการซีทีแสกนก็พบว่าที่ปอดยังมีรอยรั่วกว่า 4 ซม. ต้องผ่าตัดเพื่อปิดรอยรั่ว ซึ่งต้องส่งตัวไปที่อีกโรงพยาบาลหนึ่ง เพราะที่นี่ไม่มีเครื่องมือ และแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านทรวงอก พอมาถึงที่โรงพยาบาลใหม่ หมอให้ลูกนอนดูอาการอยู่ 5 วัน ก่อนจะทำการผ่าตัด ซึ่งหลังจากผ่าตัดไม่นานน้องก็เสียชีวิตคาห้องผ่าตัด ในวันที่ 31 ก.ค. 2566
สิ่งที่ทำให้ตนงงหนัก คือ หมอ ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้ ระบุได้แค่ว่า เป็นโรคหัวใจเต้นช้ารุนแรง และแจ้งว่า ลูกตนขั้วหัวใจอ่อนแอ หมอพยายามช่วยกว่า 1 ชั่วโมงแต่น้องไม่กลับมา ซึ่งก่อนหน้านี้ ลูกสาวตนไม่มีประวัติเกี่ยวกับโรคหัวใจ และหมอก็ไม่เคยมาแจ้งครอบครัวว่าลูกมีปัญหาที่หัวใจ ถ้าตนรู้ ตนจะไม่ให้ทำการผ่าตัด ขณะเดียวกัน หลังจากตนนำร่างลูกไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ตนได้เข้าไปพบหมอ เขาแจ้งว่า สาเหตุการเสียชีวิตว่า ลิ่มเลือดอุดตัน ทำให้ตนเองคาใจ ไม่ยอมเผาร่างลูก ก่อนส่งศพไปชันสูตรใหม่อีกครั้งที่ สถาบันนิติเวช มศว องครักษ์ ผลปรากฎว่า ลูกสาวตนไม่ได้มีภาวะผิดปกติที่หัวใจแต่อย่างใด สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจาก ลมปอดรั่ว ซึ่งลูกสาวรักษาโรคนี้แต่แรกทำให้ตนสงสัยหมอที่ทำการรักษา
ด้าน อนุสรณ์ แสงมณี (โบ้ท) พี่ชายผู้เสียชีวิต กล่าวว่า น้องสาวตนที่เสียชีวิต ไม่เคยมีประวัติเกี่ยวกับโรคหัวใจ ไม่เคยมีอาการแต่อย่างใด ยังวิ่งเล่นกันมาตลอดตั้งแต่เด็ก อีกทั้งในครอบครัวก็ไม่เคยมีประวัติโรคหัวใจเช่นกัน
ฟาก รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มศว เผยว่า ตนเป็นผู้ผ่าพิสูจน์ศพของผู้เสียชีวิต ซึ่งจากฟิล์มเอกซเรย์ก็เห็นได้ว่าน้องผู้เสียชีวิตมีอาการปอดรั่วจริง ขณะที่ตัวศพนั้นหลังจากผ่าไปแล้ว พบว่า มีรอยผ่าตัด 2 บาดแผล บาดแผลบนเป็นบาดแผลประมาณ 2-3 ซม. ซึ่งก็คือการเจาะปอดรักษา และอีกบาดแผลหนึ่งที่ยาวกว่า ประมาณ 15-20 ซม. เป็นบาดแผลสำหรับการเปิดทรวงอกในการผ่าตัดรักษา ส่วนหัวใจนั้นเส้นเลือดปกติดี ลักษณะของกล้ามเนื้อหัวใจก็ไม่ตาย ขณะที่ลิ้นหัวใจก็อยู่ปกติ ทั้งนี้ตนดูไปถึงระดับเซลล์ก็พบว่าปกติ
ทั้งนี้ เราก็ได้ตรวจดูว่ามีลิ่มเลือดไปอุดตันที่ปอดไหม ก็ไม่พบ และในเรื่องของการที่ลมรั่วไปทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะจนเสียชีวิตนั้น เราตรวจแล้วก็ไม่เจอ ทว่า ในข้อนี้เป็นข้อจำกัดได้ เนื่องจากเราตรวจผู้เสียชีวิตหลังจากเสียชีวิตมาแล้ว 5 วัน เลยอาจทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน อย่างไรก็ตาม การที่หมอระบุสาเหตุการเสียชีวิต ว่าคือ ภาวะหัวใจเต้นช้ารุนแรง มันเป็นการกล่าวแบบกว้าง ๆ เพราะว่ามันสามารถเกิดได้หลายสาเหตุ เหมือนภาวะหัวใจเต้นก่อนเสียชีวิต ทั้งนี้ทั้งนั้น ส่วนตัวตนมองว่าสาเหตุการเสียชีวิตจริง ๆ ก็คือปอดรั่วนั่นแหละ เพียงแต่ว่าไปแทรกซ้อนทำให้ร่างกายส่วนอื่นล้มเหลวหรือไม่ก็ตาม
ขณะที่ ดร. พิมไหมทอง ศักดิพัฒโภคิน (มาดามส้ม) ประธานมูลนิธิดาวเหนือ กล่าวว่า พอได้ฟังเรื่องราวจากแม่ผู้เสียชีวิต ก็เกิดความสงสัยว่าทำไมไม่มีการแจ้งสาเหตุการเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ก็ยังสงสัยว่าเขาวางยาให้น้องนานเกินไปหรือเปล่าก่อนจะทำการรักษา อย่างไรก็ตาม เราจะทำการช่วยเหลือ คุณแม่ ให้ได้รับการชี้แจง จึงได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือกับ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็น่าสงสาร เขาอยากจะขายที่ดินที่อยู่ทั้งหมด เพราะ เสียชีวิตกันไปแล้ว 4 ราย
ส่วน นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี (สมศักดิ์ เทพสุทิน) กล่าวว่า ผู้เสียหายได้เข้ามาร้องทุกข์กับทาง ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล แล้ว ซึ่งเราได้นำเรื่องส่งไปยัง แพทยสภาแล้ว เพื่อให้ แพทยสภา เข้ามาตรวจสอบว่าขั้นตอนการรักษาของหมอเจ้าไข้ นั้นทำถูกต้องหรือไม่ ถ้ามีการข้ามขั้นตอน หรือทำผิดขั้นตอนอะไรก็ตามแต่ เป็นเหตุให้เกิดการเสียชีวิต ก็จะเข้าข่ายกระทำการโดยประมาท
ทั้งนี้สามารถไปแจ้งตำรวจได้ว่าเราอยากได้ความชัดเจน อาจจะให้ทาง แพทย์นิติเวชศาสตร์ เขาผ่าพิสูจน์ใหม่ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ควรไปยื่นเรื่องที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อรักษาสิทธิ์การเสียชีวิต หากเกิดการกระทำโดยประมาทจริง ก็จะได้รับเงินเยียวยา