เศรษฐา มั่นใจ คนไทยได้ใช้ เงินหมื่น ย้ำคอนเซ็ปต์พรรคเพื่อไทย หาเงินได้ ใช้เงินเป็น
logo ข่าวอัพเดท

เศรษฐา มั่นใจ คนไทยได้ใช้ เงินหมื่น ย้ำคอนเซ็ปต์พรรคเพื่อไทย หาเงินได้ ใช้เงินเป็น

350 ครั้ง
|
13 พ.ย. 2566
        “เศรษฐา"  โต้กลับ “ศิริกัญญา” พร้อมแจงทุกข้อสงสัย  โดยมั่นใจ พรรคร่วมรัฐบาล 320 เสียง ดัน พ.ร.บ. กู้เงิน 5 แสนล้านผ่านสภาฯ เดินหน้า "อีรีฟันด์" เอาใจคนรวย ได้เงินหมื่นเหมือนกัน ก่อนย้ำ คอนเซ็ปต์พรรคเพื่อไทย "หาเงินได้ ใช้เงินเป็น"
 
         วันที่ 13 พ.ย.66 ตามเวลาไทย (12 พ.ย.66 เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น  ณ นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ช้ากว่าไทย 15 ชั่วโมง)  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.กระทรวงการคลัง กล่าวกับผู้สื่อข่าวในระหว่างอยู่บนเครื่องบิน  โดยมั่นใจโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้ไปต่อ หลัง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า อาจเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะกฎหมายกู้เงินจะไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ
 
       “ผมมั่นใจว่าเสียงของผม อย่างพรรคร่วมรัฐบาลมี 320 เสียง ผมว่าเสียงของผมมั่นคง และเราทำงานเป็นทีม เชื่อว่าผ่าน” นายเศรษฐา กล่าว
 
        เมื่อถามย้ำว่า คนไทยจะมีโอกาสได้ใช้เงิน 10,000บาท หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า  มั่นใจ เป็นหน้าที่ผู้นำรัฐบาลต้องรับฟังเสียงประชาชน  โครงการดีเลย์จากที่ประกาศไว้เพราะทีมงานต้องรับฟังความเห็นทั้งหมด
 
           เมื่อถามว่าโครงการนี้จะมีอุบัติเหตุที่จะทำให้สะดุดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า  มั่นใจว่านโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดี เหมาะสม และไม่เกี่ยวกับเรื่องเทคนิคหรือกฎหมาย รัฐบาลยืนยันว่าทำถูกต้องทั้งหมด
 
          นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตอนนี้มีจุดเดียว ที่ยังคงเป็นมีคำถามว่า เราอยู่ในวิกฤต หรือ ไม่ได้วิกฤต มีความจำเป็นเพียงพอที่จะกู้ตามเงื่อนไขหรือไม่ โดยยกเหตุผล อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ที่น้อยกว่าประเทศคู่แข่งของไทยถึง 2 เท่า เพราะถ้าไม่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจ วันหนึ่งอาจไม่มีใครอยากมาลงทุนที่ไทย รัฐบาลเชื่อว่า เราอยู่ในวิกฤตที่ต้องการการกระตุ้น แม้คนอื่นจะบอกว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องใช้เงินขนาดนี้ กระตุ้นแค่คนจนที่มีรายต่ำจริงๆก็พอ หากเถียงกันไปอย่างนี้ก็ไม่จบ
 
         ส่วนกรณีโหวตเตอร์พรรคเพื่อไทยบางส่วน รู้สึกผิดหวัง ที่ไม่เข้าเกณฑ์ได้รับเงิน เนื่องจากมีเงินเก็บเกิน5แสนบาท ทั้งที่เกิดจากวินัยการออม และมีรายรับไม่เกิน 7 หมื่นบาทนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า เข้าใจและเห็นใจ แต่รัฐบาลก็มีโครงการอีรีฟันด์ หากมีการใช้จ่ายจะได้เงินคืนประมาณ 10,000 บาท เทียบเท่ากับเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเช่นกัน
 
          กรณีที่ประชาชนมีข้อสงสัยว่า เงินฝาก 5 แสนบาท รวมไปถึงสลากออมสิน หุ้นกู้ กองทุนรวม และเงินเกษียณด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นับเฉพาะเงินฝากอย่างเดียว ไม่นับกองทุนรวม เพราะตรวจสอบไม่ได้ ส่วนเงินเกษียณ ถ้าอยู่ในบัญชีก็นับรวมด้วย ส่วนเงินสดที่เก็บอยู่ที่บ้านไม่นับ  โดยจะเริ่มนับยอดเงินฝาก ตั้งแต่เดือนก.ย.66
 
         นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า โครงการเติมเงินในแอปพลิเคชันเป๋าตังค์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมี่ผพบว่า มีครนไม่ใช้จ่ายถึง15 %
 
         นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงกับประชาชน ที่เริ่มไม่มั่นใจว่า โครงการที่รัฐบาลทำอีกหลายโครงการ จะหาเงินมาจากไหน หลังโครงการใหญ่อย่างการแจกเงินดิจิทัลยังต้องกู้มา  ทั้งที่ก่อนหน้านี้ประชาชนเชื่อว่า พรรคเพื่อไทย หาเงินได้ ใช้เงินเป็น
 
         “ผมเป็นนายกฯ ที่มาจากพรรคอะไร พรรคเพื่อไทย สื่อก็บอกว่าหาเงินได้ใช้เงินเป็น ผมก็มั่นใจว่า ผมหาเงินได้ใช้เงินเป็น ส่วนเรื่องที่มาของการออกจะเป็นพ.ร.บ.เงินกู้ ทางผู้ว่าฯ ธปท.ได้บอกเองว่า นายกฯ กู้ดีกว่า ตอนนี้จาก 61% เป็น 64% เพราะเพดานเงินกู้อยู่ที่ 70% ให้กู้เลย ถ้านำมาใส่โครงการฯ บวกกับโครงการอื่น และ หากยกระดับจีดีพีขึ้นไป สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะลดตามไป แม้หนี้จะเพิ่ม แต่ถ้าจีดีพีมากกว่า หนี้จะลดลง” นายเศรษฐา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง