ปัญหาซ้ำซาก ! ชาวนาตากข้าวบนถนน ปิดทางสัญจร จ.บุรีรัมย์ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

347 ครั้ง

10 พ.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เรื่องนี้เป็นปัญหาของชาวนา เป็นปัญหาซ้ำซาก ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร คือเรื่องการเอาข้าวเปลือกมาตากบนถนน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้ บางทีถึงขั้นมีปากมีเสียงกัน บางรายถึงขั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทางด้านเจ้าหน้าที่รัฐก็ลำบากใจ จะดำเนินคดีก็ดูจะลังแกชาวบ้านเกินไป วอนนายกช่วยลงมาแก้ไขเรื่องนี้โดยด่วน

ปัญหาการตากข้าวเปลือกตามท้องถนนของชาวนา ถือเป็นปัญหามายาวนานหลายปี และเป็นแบบนี้อยู่หลายพื้นที่ หลังจากเกษตรกรเริ่มใช้รถเกี่ยวข้าวแทนการเกี่ยวมือ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว แต่มีปัญหาเรื่องข้าวยังไม่แห้ง

วิธีปฏิบัติของเกษตรกรมี 2 แนวทาง คือการนำข้าวที่เกี่ยวใส่รถไปขายให้กับโรงสีในทันที แต่ถูกหักค่าความชื้น ทำให้ขายข้าวได้ราคาลดลง อีกทางหนึ่งคือการเอาข้าวไปไล่ความชื้น การนำไปตากแดดบนพื้นปูนหรือถนนลาดยางเท่านั้น เพราะตากบนดินไม่สามารถดูดความชื้นได้

ช่วงนี้เป็นฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ชาวบ้านจะนำข้าวไปตากบนถนนจำนวนมาก ทำให้มีผู้ใช้รถใช้ถนนออกร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการกับผู้กระทำความผิด แต่ตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้มาก ทำได้เพียงว่ากล่าวตักเตือน เพราะสงสารชาวนาตาดำ ๆ ที่หาเช้ากินค่ำ ไปดูชาวนารายนี้ที่นำข้าวเปลือกมาตากเต็มถนน จนรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้

นายสำราญ ชูคะเรรัมย์ ชาวบ้านบ้านหนองสระ ตำบลโนนขวาง อำเภอบ้านด่าน จังหวัดบุรีรัมย์ ชาวบ้านที่ตากข้าวบนถนน บอกว่าสาเหตุที่ตากเต็มถนนว่า ชาวบ้านเข้าใจดี เพราะใช้เวลาไม่นาน ประกอบกับดูแล้วหมู่บ้านของตนเป็นหมู่บ้านทางตัน และใช้เวลาไม่นาน เพียง 2-3 วันเท่านั้น

ขณะที่ นางสาวจำปา ชูคะรัมย์ ชาวบ้านที่ตากข้าวบนถนน กล่าวว่า ตนเข้าใจดีว่าตากข้าวบนถนนมันผิดกฎหมาย และสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ที่ใช้ถนน แต่การตากข้าวมีความจำเป็นจริง ๆ ตนไม่รู้จะแก้ไขยังไง บ้างครั้งรถส่งน้ำแข็งจะเข้าส่งร้านค้าในหมู่บ้าน แต่ก็เข้าไม่ได้ ตนเองก็ต้องแบกน้ำแข็งเดินเท้าเข้าไปส่งให้ร้านค้าแทน เพื่อไม่อยากให้คนใช้ถนนเดือดร้อน โดยปัญหาการไม่มีที่ตากข้าวมีทุกปี แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดมาแก้ไขปัญหานี้แบบเป็นรูปธรรม ส่วนตัวก็อยากให้นายกฯ เศรษฐา นำปัญหาของเกษตรกรทางภาคอีสานไปวิเคราะห์ดูว่าจะแก้ไขปัญหาของเกษตรกรทำนาได้อย่างไร

ด้าน พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จริง ๆ การนำสิ่งของไปกีดขวางถนนก็ถือว่ามีความผิด แต่ทางออกของเกษตรกรไม่มี ตอนนี้ได้กำชับให้ตำรวจทุก สภ.ออกประชาสัมพันธ์ ให้เกษตรกรที่ตากข้าวบนท้องถนนให้ระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น คือการเกิดอุบัติเหตุ ควรจะหาสัญลักษณ์เช่นกรวยมาตั้งให้ผู้ใช้รถมองเห็นตั้งแต่ระยะไกล

นอกจากนี้ยังกำชับตำรวจทุกพื้นที่เฝ้าระวังการโจรกรรมข้าวของชาวนาที่ตากไว้ข้างถนน ให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการแจ้งเหตุ ส่วนหนึ่งก็อยากจะฝากถึงคนร้ายที่คิดจะมาขโมยข้าวของเกษตรกรให้เห็นใจ เพราะการทำนาเป็นอาชีพที่ลำบากกว่าจะได้ข้าวมา แต่หากถูกจับก็จะได้รับโทษอาญา ยอมความไม่ได้

ลองไปย้อนดูปัญหาที่เกิดจากการตากข้าวบนถนนกันบ้าง วันนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เกิดเหตุการณ์สลดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีรถยนต์ 3 คัน หักหลบกองข้าวที่ตากอยู่บนถนน ทำให้เกิดอุบัติเหตุชนกัน 3 คันรวด มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย

ไปดูเรื่องกฎหมายกันบ้างว่า มีความผิดมาตราอะไรบ้าง

- การนำสิ่งของมาวางบนทางหลวงในลักษณะที่อาจเกิดอันตรายแก่บุคคล ถือว่าผิดกฎหมาย พ.ร.บ.ทางหลวง 2535 มาตรา 39 มาตรา 72 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

- พ.ร.บ.จราจรทางบก 2522 มาตรา 114 ระบุว่า ห้ามวางสิ่งใด หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ที่เป็นการกีดขวางทางจราจร เว้นแต่ได้รับอนุญาต ซึ่งตามมาตรา 148 หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท

- พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 มาตรา 19 มาตรา 57 ระบุว่า ห้ามวางวัตถุใด ๆ บนถนน หากฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 10,000 บาท

- ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 ผู้ใดกีดขวางทางสาธารณะจนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัย หรือความสะดวกในการจราจร โดยวางหรือทอดทิ้งสิ่งของหรือกระทำด้วยประการอื่นใด ถ้าการกระทำนั้นเป็นการกระทำโดยไม่จำเป็น ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35