ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากมีเพจเฟซบุ๊กโพสต์ภาพยาบ้าที่ปั๊มเป็นรูปเศียรพระพุทธรูป จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เหมาะสมหรือไม่ เมื่อตรวจสอบกับหน่วยงานที่ปราบปรามยาเสพติดว่า เคยเจอยาบ้ารูปแบบนี้หรือไม่ ซึ่งมีคำตอบว่าไม่เคยเจอ แต่อาจเป็นไปได้ที่จะเป็นยาเสพติดอีกประเภทหนึ่งที่มักผลิตออกมาเป็นรูปแบบแปลก ๆ
เป็นภาพที่เพจเฟซบุ๊ก หลวงพี่มาแล้ว นำมาโพสต์ไว้ เป็นยาบ้าอัดเม็ดรูปแบบใหม่ จนมีคนแชร์และแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก จนข่าวเย็นประเด็นร้อนต้องไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่ปราบปรามยาเสพติด ว่า จากการปราบปราม จับกุม หรือการข่าวเท่าที่มี เคยมียาบ้าที่ปั๊มอัดเม็ดเป็นรูปเศียรพระพุทธรูปหรือไม่
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. บอกว่า ในการปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านมา ไม่เคยจับกุมยาบ้าที่มีรูปลักษณ์ ลักษณะเป็นเศียรพระพุทธรูปมาก่อน แต่ถ้ารูปที่นำมาโพสต์เป็นยาเสพติดจริง อาจจะเป็นยาอีมากกว่า ซึ่งหน่วยปราบปรามยาเสพติด เคยจับกุมยาอีได้ จะมีรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ รูปหน้าคน รูปหัวคน ซึ่งใกล้เคียงกับรูปภาพที่เพจดังกล่าวนำมาโพสต์ อีกทั้งการข่าวที่ผ่านมา ก็ยังไม่เคยเจอยาบ้ารูปเศียรพระพุทธรูป
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ ยังกล่าวถึงการปราบปรามยาเสพติดว่า เมื่อเช้านี้ ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงการจับกุมยาเสพติด 4 ล้านเม็ด ระหว่างที่ขบวนการค้ายาเสพติด ขนจากชายแดนด้านจังหวัดนครพนม เข้าสู่ภาคกลาง ซึ่งตำรวจจับกุมครั้งแรกได้ 1.6 ล้านเม็ด ที่จังหวัดสระบุรี และขยายผลจับกุมได้อีก 4 ล้านเม็ด ระหว่างขนจากนครพนม มาแวะพักที่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
รักษาราชการแทน เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า ปัจจุบันขบวนการขนยาเสพติด ขนจากประเทศเพื่อนบ้านทางเหนือ 57 เปอร์เซ็นต์ ผ่านทางเชียงรายและเชียงใหม่ ส่วนอีกเส้นทางขนจากประเทศเพื่อนบ้านทางเหนือ ผ่านเข้าลาว และเข้าไทยที่ภาคอีสาน 43 เปอร์เซ็นต์ ผ่านทางนครพนม ทำให้ตอนนี้ ต้องเร่งสกัดกั้นยาเสพติดทะลักเข้าประเทศ ด้วยการกำหนดเขตควบคุมพิเศษในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ใน 3 จังหวัดนี้ ซึ่งมีทั้งหมด 15 อำเภอ คือในจังหวัดเชียงราย 6 อำเภอ จังหวัดเชียงใหม่ 5 อำเภอ และจังหวัดนครพนม 4 อำเภอ ซึ่งล้วนเป็นอำเภอที่ยาเสพติดทะลักเข้า โดยจะมีการร่วมมือกันทุกหน่วย และมีหน่วยทหารในพื้นที่เป็นผู้กำกับดูแล เริ่มนโยบายนี้วันที่ 1 ธันวาคมเป็นต้นไป
พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ บอกด้วยว่า นโยบายนี้ จะทำให้ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านได้ง่ายขึ้น และขอตัวนักค้ายาเสพติดที่มักหนีกบดานในประเทศเพื่อนบ้านกลับมาดำเนินคดีได้ นอกจากการปราบปรามสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ทะลักเข้าประเทศแล้ว ที่จะทำควบคู่กันไปคือการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ที่เรียกว่านโยบาย Quick Win เพื่อลดความรุนแรงจากยาเสพติด ซึ่งตอนนี้มีผู้เสพที่เข้าข่ายผู้ป่วยจิตเวช 32,000 คน ซึ่งไม่สามารถใช้ชีวิตในชุมชนได้ สร้างความเดือดร้อนในชุมชน ก็จะนำมาบำบัดรักษา ส่วนผู้เสพทั่วไปที่มีตัวเลขอยู่ประมาณ 500,000 คน ก็จะอยู่ในโครงการบำบัดฟื้นฟูนี้เช่นกัน โดยจะเริ่มขับเคลื่อนนโยบาย 1 ธันวาคมนี้ เช่นเดียวกัน เป้าหมายลดยาเสพติด ลดคนเสพให้ได้
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม