หนุ่มคลั่ง ! ขับรถหรูไล่ชนรถนักร้อง อ้างป่วยทางจิต จ.นนทบุรี | ถกไม่เถียง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นักร้องหนุ่ม เลิกงานขับรถยนต์จะไปทำบุญต่อ ระหว่างทางถูกรถหรู กลับรถกลางสะพาน ขับย้อนศรมาพุ่งชนเต็ม ๆ

 

ในคลิป รถยนต์เจ้าของกล้องหน้ารถพยายามถอยหนี แต่รถหรูคันสีดำตั้งใจที่จะพุ่งมาชน ผู้โดยสารที่นั่งอยู่ในรถคันที่ถูกชน ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความกลัว เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วานนี้

     

จากการสอบถาม นายวรภพ อายุ 32 ปี เจ้าของรถยนต์คันที่ถูกชน เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้ามืดวันนี้เวลา 04.00 น. วานนี้ ตนขับรถออกมาจากเส้นแยก อตก. มีรถยนต์ BMW ขับตามหลังมาเปิดไฟสูงใส่บนสะพาน ตนจึงขับรถหลบทางซ้ายให้ แต่รถยนต์ BMW ผู้ก่อเหตุขับจี้ตูดตามมา และบี้ไล่ตนมาเรื่อย ๆ ตนจึงรีบโทรหาเบอร์ 191 เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตนก็ยังถูกขับรถตามอยู่เรื่อย ๆ ตนจึงตัดสินใจมุ่งหน้าจะขับรถไปที่โรงพักเพื่อจะไปแจ้งความ แต่รถของผู้ก่อเหตุขับประกบกันมาตลอด จนถึงบนสะพานผู้ก่อเหตุได้ขับรถเบียดตนไปถึงเลนซ้ายสุด ตนจึงหยุดรถ และถอยรถออกมา แต่ผู้ก่อเหตุกลับลำรถและขับรถพุ่งชนหน้ารถของตนเต็ม ๆ และผู้ก่อเหตุได้ลงมาจากรถ ถือบุหรี่ในมือและเอามืออีกข้างล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ ตนจึงรู้สึกกลัวมาก ได้หักรถเบี่ยงขวาหนีออกมา แต่ผู้ก่อเหตุก็ขับรถชนตูดรถตนอีกครั้ง ก่อนที่ตนจะขับหนีออกมาได้

 

ซึ่งหลังจากเกิดเหตุรถของผู้ก่อเหตุได้จอดคาไว้ที่บนสะพานตนคาดว่ารถอาจจะพังและขับต่อไปไม่ได้ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูพบว่าทะเบียนรถเขาไม่อยู่แล้ว และตัวผู้ก่อเหตุได้เรียกแท๊กซี่นั่งกลับบ้าน และให้แม่ผู้ก่อเหตุมาดูรถที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุที่ตนได้ทราบเบื้องต้นว่ามีอายุ 36 ปี

 

หลังจากเกิดเหตุ ตนเองได้ติดต่อไปทางผู้ก่อเหตุแต่ติดต่อผ่านทางแม่ของผู้ก่อเหตุ เจ้าตัวเขาไม่ยอมออกมาคุย เพราะตนเองอยากทราบสาเหตุว่าเรื่องทั้งหมดเกิดจากอะไร เพราะตนได้ย้อนดูกล้องหมดแล้วก็ไม่ได้ไปทะเลาะกับใคร และไม่ได้รู้จักกันมาก่อน ตนอยากจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะเขาจะได้ไม่ทำแบบนี้กับใครอีก

 

และสิ่งที่ตนเองเสียใจมากคือ ตอนเกิดเหตุตนรู้สึกน้อยใจตำรวจ 191 ที่ตอนเกิดเหตุตนได้รีบโทรไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 แล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่ายังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ยังไม่มีใครได้รับความเสียหาย จึงยังไม่สามารถมาดูเหตุให้ได้ ตนอยากจะร้องไห้เพราะจุกกับคำพูดของตำรวจ

     

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมือง กล่าวว่า ทางบ้านของผู้ก่อเหตุได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ได้มีการพูดคุยและยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง แต่ทางครอบครัวอ้างว่าผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตเวช และนำเอกสารที่ป่วยจิตเวชมายื่นให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางพนักวานสอบสวนจึงยังไม่ปักใจเชื่อจึงทำการตรวจสอบแอลกอฮอล์และตรวจปัสวะเพิ่มไม่พบว่ามีแอลกอฮอร์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำปัสวะของผู้ก่อเหตุส่งไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบหาสารเสพติดอีกครั้ง