เมียช้ำ ! ผัวทหารหลอกหย่า หนีแต่งงานใหม่-ไม่ส่งเสียบุตร | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ภรรยาทหารออกมาร้องสื่อ ถูกสามีที่เป็นทหารยศนายสิบ ใช้อุบายหลอกให้เซ็นใบหย่า สุดท้ายหายไปแต่งงานกับหญิงอื่น ทิ้งลูกทิ้งภรรยาให้ใช้ชีวิตลำบาก

 

เมื่อเช้านี้ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาผู้เสียหาย นางสาวบี อดีตภรรยานายสิบ เข้าพบ พลตรี นฤดล สุขมา เจ้ากรมจเรทหารบก เพื่อขอให้เป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ หลังถูกหลอกให้หย่า และฝ่ายชายไม่ยอมส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรให้ตามที่เคยตกลงกันไว้ในสัญญาการหย่า

 

โดยนางสาวบีเล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ตนทำงานที่จังหวัดปราจีนบุรี ตนได้รู้จักกับนายเอ ตอนนั้นนายเอเป็นทหารเกณฑ์ หลังจากนั้น ก็คบหาเป็นแฟนกัน ก่อนตัดสินใจจดทะเบียนสมรสผูกข้อไม้ข้อมือแต่งงานกัน หลังจากนั้นผ่านมา 5 ปี เธอมีลูกชาย 1 คน ช่วงนั้นก็ช่วยกันทำมาหากิน และช่วยกันเลี้ยงลูก จนลูกอายุประมาณ 2 ขวบ หลังจากนั้นก็มีคนมาบอกว่าอยากให้สามีรับราชการเป็นทหารไหม เธอบอกว่าอยาก เธอจึงตัดสินใจไปกู้เงิน 300,000 บาท จ่ายเงินใต้โต๊ะ ฝากให้สามีเข้าไปเป็นทหาร หลังจากนั้นสามีก็เข้ามาประจำการที่กองทัพภาคที่ 1 ที่กรุงเทพมหานคร และได้บ้านพักแฟลตทหารที่กองพันทหารราบ 11 ส่วนตนเองก็ทำงานเลี้ยงลูกอยู่ที่จังหวัดนครราชสีมา ช่วงแรกทุกอย่างก็ปกติดี

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง มีผู้หญิงโทรศัพท์มาหาเธอ สอบถามว่าเธอเป็นอะไรกับนายเอก เธอจึงตอบไปว่าเป็นภรรยา ผู้หญิงปลายสายก็ตอบว่าเป็นภรรยาเหมือนกัน ตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันที่บ้านพักแฟลตทหาร ทำให้ตอนนั้นเธอก็มีปัญหาทะเลาะกับนายเอเรื่อยมา และนายเอก็ยอมรับว่ามีผู้หญิงอื่น แล้วบอกอีกว่า กำลังมีปัญหาหนี้สินเพราะไปกู้ซื้อคอนโด และกำลังจะถูกฟ้องยึดทรัพย์สิน จึงขอให้ตนเองเซ็นใบหย่า จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนไปด้วย โดยมีการทำสัญญาตกลงกันว่า หลังจากหย่าแล้วจะส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งตนเองก็เห็นแก่ลูก จึงยอมจดทะเบียนหย่าให้

 

ปรากฏว่าหลังจากจดทะเบียนหย่า ช่วงแรกนายเอก็ส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรให้ แต่ไม่ครบตามจำนวนที่ตกลงกัน โอนมาให้ 2,000 บาท บ้าง 3,000 บาท บ้าง บางเดือน 300 บาท ตนก็พยายามทวงถาม คำตอบที่ได้จากฝ่ายชายคืออยากได้เงินก็ให้ไปฟ้องเอา หลังจากนั้น นายเอก็เลิกกับผู้หญิงคนดังกล่าว และกลับมาขอคืนดีกับเธอ ด้วยความที่รักและเป็นห่วงครอบครัว เธอจึงใจอ่อน ยอมคืนดีด้วย และหลังจากนั้นเธอก็ย้ายมาทำงานที่กรุงเทพมหานคร และก็ไปมาหาสู่กันฉันสามีภรรยา ส่วนลูกชายก็ให้อยู่กับยายที่จังหวัดนครราชสีมา เรื่องราวครอบครัวของเธอก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถึงแม้จะจดทะเบียนหย่ากันไปแล้วก็ตาม

 

แต่อยู่มาวันหนึ่ง อยู่ดี ๆ นายเอบอกว่าขอเลิกกับเธอเด็ดขาด ขอให้ไม่ต้องเจอกันอีก และก็หายไปเลย 2-3 วัน เธอมาเห็นอีกทีคือภาพนายเอไปแต่งงานกับผู้หญิงอีกคน ทำให้ถึงกับอึ้ง และรู้ว่าไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไร เพราะเธอก็ไม่ได้ถือทะเบียนสมรสไว้แล้ว

 

แต่วันนี้ตนเองอย่าเรียกร้องสิทธิ์ให้กับลูกชายอายุ 12 ขวบ ที่ยังต้องกินต้องใช้ อยากให้ฝ่ายชายรับผิดชอบในฐานะพ่อของลูก ส่งเสียค่าเลี้ยงดูเดือนละ 5,000 บาท ตามสัญญา เพราะตอนนี้ตนเองกับลูกลำบากมาก ตนมีโรคประจำตัวเป็นรูมาตอยด์ คือมีอาการปวดข้อ ปวดกระดูก ต้องหาเงินมารักษาตัวเอง แถมต้องส่งเสียลูกอีก

 

หลังจากทั้ง 2 ฝ่าย เข้าไปเจรจากันไม่นาน กัน จอมพลัง ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า จากการพูดคุยนั้นในส่วนของเงินจำนวน 5,000 บาท ที่ฝ่ายชายจะต้องส่งเสียดูแลลูก จากปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ จะมีการตัดออกจากเงินเดือนและโอนเข้าในบัญชีของลูกชาย ส่วนเงินจำนวน 300,000 บาท ที่อ้างว่าเพื่อนำมาเข้ารับราชการทหารนั้น ต้องไปค้นหาว่าจ่ายเงินให้ใครแล้วก็เอาเงินจำนวนนั้นกลับมาคืน ทางเจ้ากรมจเรทหารบกยืนยันว่า ไม่มีการรับเงินจำนวน 300,000 บาท เพื่อได้รับตำแหน่ง  

 

ทั้งนี้ เด็กมีความสนใจทางด้านกีฬา ทางสโมสรทหารบกจะมีการสนับสนุนกิจกรรมด้านกีฬาต่อไป รวมถึงยังได้รับเงินสนับสนุนเงินทุนจากโรงพยาบาล จำนวน 50,000 บาท และได้รับเงินสนับสนุนจากห้างร้านต่าง ๆ อีกด้วย