นักร้องหนุ่มกับแฟนสาวผวา ! ถูกชายคลั่งขับรถหรูตามหลังนานกว่า 20 นาที สุดท้ายถูกปาดหน้าแล้วย้อนศรพุ่งชนอย่างรุนแรง เจ้าตัวยืนยันไม่เคยรู้จักอีกฝ่าย ด้านญาติคู่กรณีอ้างป่วยจิตเวช พูดจาเลื่อนลอยควบคุมตัวเองไม่ได้
วันที่ 3 พ.ย. 66 คุณวรภพ สัมพันธ์ (บูม) และ คุณพรทิพย์ จันทะศรี (นุ่น) ผู้เสียหายที่อยู่ในรถ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนเป็นนักร้อง-MC เลิกงานตอนเวลา 04.00 น. ระหว่างเดินทางกลับบ้านได้ไปฝากเงินที่ธนาคาร ขณะนั้นยังไม่มีรถต้องสงสัยตามมา จากนั้นได้ขับรถกลับบ้านต่อจนพบกับคู่กรณีขับรถตามมาเรื่อย ๆ ถูกเปิดไฟสูงใส่จึงชะลอให้ แต่คู่กรณีไม่ยอมขับแซง
ตอนแรกคิดในแง่ดีว่าอาจจะมีบ้านอยู่ทางเดียวกัน แต่ยังถูกตามมาตลอดทางอีกฝ่ายขับมาประกบข้างแล้วเปิดกระจกบ่นอยู่คนเดียว ตนจึงเลี้ยวหลบเข้าไปในซอยหวังว่าอีกฝ่ายจะไม่ตามาอีก ปรากฏว่าอีกฝ่ายยังตามเข้าซอยมาด้วย ตนตัดสินใจโทรหาตำรวจว่ารู้สึกไม่ปลอดภัย เมื่อออกมาจากซอยได้ตำรวจได้ติดต่อกลับมาบอกว่ายังไปในพื้นที่ไม่ได้เพราะยังไม่เกิดเหตุขึ้น จนกระทั่งขับขึ้นสะพานคู่กรณีได้ขับมาหยุดด้านหน้า แล้วกลับรถมาชนรถในขณะที่ตนยังคุยกับตำรวจอยู่ ทำให้รู้สึกตกใจและหวาดผวากันทั้งคู่
ยืนยันว่าตนไม่ได้เมา และไม่เคยมีเรื่องหรือรู้จักกับคู่กรณีมาก่อน เนื่องจากไปย้อนดูเหตุการณ์จากกล้องหน้า-หลังรถแล้ว ไม่พบว่ามีการกระทำที่ยั่วยุคู่กรณี เช่น การขับปาดหน้า หรือบีบแตรใส่ หลังเกิดเหตุตนได้พูดคุยกับแม่ของคู่กรณี ด้านแม่ได้ขอโทษและบอกว่าลูกมีอาการทางจิต ส่วนการรับผิดชอบค่าเสียหายยังไม่ได้พูดถึง มีเพียงแค่รับผิดชอบค่าเช่ารถระหว่างรอซ่อมรถ
ทนายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) สส.นนทบุรี ประธานชมรมทนายความจิตอาสา กล่าวว่า ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ตำรวจที่ให้เหตุผลว่ายังไม่เกิดเหตุด้วย แต่ถ้าเป็นตำรวจที่ดีควรจะต้องออกไปช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่โทรมาครั้งแรก ไม่ใช่รอให้จนเกิดเหตุก่อนถึงจะช่วยเหลือ เบื้องต้นคู่กรณีผิดกฎหมายเรื่อง พ.ร.บ.จราจร ทำให้เสียทรัพย์ และอาจมีข้อหาเจตนาทำร้ายร่างกายหรือเจตนาฆ่าได้ เนื่องจากคู่กรณีขับรถตามนานกว่า 20 นาที ก่อนจะเกิดเหตุพุ่งชนขึ้น เชื่อว่าตำรวจจะตัดสินได้อย่างเป็นธรรมเนื่องจากมีหลักฐานครบถ้วนชัดเจน ส่วนการเยียวยาที่ผู้ก่อเหตุต้องรับผิดชอบมีหลายอย่างมากกว่าค่าซ่อมรถ ส่วนผู้ปกครองถ้ารู้ว่าลูกมีอาการทางจิตควรดูแลให้ดีกว่านี้
รศ.พ.ต.ท.ดร. กฤษณพงค์ พูตระกูล รองอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาฯ ม.รังสิต วิเคราห์สาเหตุที่ผู้ก่อเหตุขับรถตาม จะต้องดูปัจจัยหลายอย่างว่าเมาหรือใช้ยาเสพติดหรือไม่ หรืออาจจะมีเหตุให้เกิดความเครียดแล้วต้องการระบายอารมณ์ลงกับผู้อื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง เช่น เคยมีเหตุการณ์เด็กโกรธที่ถูกแม่ดุแล้วเอาหินไปปาใส่รถคนอื่น สิ่งเหล่านี้เกิดจากสภาพจิตใจและการเลี้ยงดู ส่วนการขับรถตามกว่า 20 นาที ก่อนก่อเหตุ เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีการรับรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ และต้องการไล่ตามคนที่ไม่มีทางสู้มากกว่าไล่ตามตำรวจที่มีอาวุธ ดังนั้นจึงอ้างว่าป่วยจิตเวชแล้วไม่มีความผิดไม่ได้
พ.ต.อ. นภธร วาชัยยุง ผกก.สภ.บางศรีเมือง กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า ทางตำรวจติดตามไปถึงบ้านของผู้ก่อเหตุ จนพบตัวได้นำมาสอบสวนและตรวจร่างกายหาสารเสพติดแล้ว เบื้องต้นพบว่าปัสสาวะมีผลบวก นอกจากนี้ยังตรวจพบว่าผู้ก่อเหตุมีบัตรประจำตัวผู้ป่วยทางจิตเวช แต่แพทย์จะต้องยืนยันอีกครั้งว่าป่วยจิตเวชจริงและมียาเสพติดในร่างกายหรือไม่ ตอนนี้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์และทำร้ายร่างกายเรียบร้อย และอาจมีข้อหาอื่นเพิ่มเติมอีกในอนาคต ผลการสอบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุพูดจาเลื่อนลอย ไม่สามารถให้ปากคำได้ และทางตำรวจขอชื่นชมคุณบูมว่ามีสติรับมือกับเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม