ดรามาไม่จบ ! ปมถูกนายจ้างทำร้ายเยี่ยงสัตว์ | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ยังดรามาไม่จบ สำหรับเรื่องลูกจ้างร้านอาหารชื่อดัง ย่านพุทธมณฑลสาย 1 ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกายเยี่ยงสัตว์นานนับปี จนเกือบพิการ จนทนไม่ไหว ตัดสินใจปีนหลังคาร้านหลบหนีออกมาขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี เรื่องนี้ทางด้านเจ้าของร้านอาหารออกมาโต้แล้ว อ้างว่าลูกจ้างติดยา ทำร้ายตัวเอง แถมชอบขโมยของ 

 

จากกรณีเมื่อวานนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา นางสาวแพรว ลูกจ้างที่ถูกนายจ้างทำร้ายร่างกาย โดนสาดน้ำร้อนใส่ โดนไฟเผาปากและเผาตามร่างกาย ถูกสายไฟรัดคอจนสลบ จากนั้นก็เตะให้ฟื้นแล้วรัดคอซ้ำ โดนมีดฟันปาก เข้าขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรีฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ช่วยเหลือลูกจ้างรายนี้ พร้อมทั้งขอให้ดำเนินคดีกับนายจ้างด้วย เนื่องจากนายจ้างอ้างว่าสนิทกับผู้กำกับ สน.ในพื้นที่

 

เมื่อเย็นวานนี้ ทางด้าน นางสาวแอน นายจ้าง ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า นางสาวแพรว มักมีพฤติกรรมลักขโมย ตนเคยไล่ออกไปแล้ว แต่รับเข้ามาใหม่ เพราะอ้างว่าถูกผู้ชายข่มขืนจนตั้งครรภ์ ตนดูแลตั้งแต่ฝากครรภ์จนคลอดลูก แต่เจ้าหน้าที่ประเมินว่า นางสาวแพรว ไม่สามารถดูแลเด็กได้ จึงส่งเรื่องให้มูลนิธิแห่งหนึ่งรับเด็กไปดูแล ไม่ใช่เพราะตนส่งไปอย่างที่นางสาวแพรวอ้าง จากนั้นพบว่า นางสาวแพรว ใช้ยาเสพติด มักนัดพบผู้ชายนอกร้านตอนกลางคืน และขโมยสิ่งของภายในร้าน พอจับได้และได้ตักเตือนไป นางสาวแพรว ก็ไหว้ขอโทษไม่ให้เอาเรื่อง โดยมีคลิปขณะที่ไหว้ขอโทษครั้งล่าสุด

 

เมื่อต้นปีที่ผ่านมาตนให้ นางสาวแพรว มาพักในร้าน แต่กลับขโมยของ รวมทั้งพาผู้ชายเข้ามาในร้าน พอถูกจับได้ก็อ้างกับคนดูแลร้านว่า "ผู้ชายคนนั้นเป็นวิญญาณ ไม่ใช่คนจริง ๆ หรอก" ตนเองเคยจะแจ้งความเอาผิด แต่นางสาวแพรววิดีโอคอลมาทำร้ายร่างกายตัวเองให้ดู เพื่อไม่ให้ไล่ออกหรือดำเนินคดี ส่วนบาดแผล นางสาวแพรว อ้างว่าถูกแก๊งหลอกเปิดบัญชีม้าทำร้ายร่างกายมา เจ้าของร้านยืนยันว่า จ่ายเงินค่าจ้างปกติ และไม่เคยทำร้ายร่างกายอย่างที่ นางสาวแพรว อ้าง

 

ส่วนกรณีที่ปีนฝ้าเพดานหลบหนี มาจากเหตุที่ตนจะแจ้งความเรื่องลักขโมยของ และแอบถอดเมมโมรีการ์ดกล้องวงจรปิดจนกล้องในร้านเสียทั้งหมด แต่ระหว่างที่ตนไปทำงานหน้าร้าน นางสาวแพรว กลับปีนฝ้าเพดานหนีข้ามไปขอความช่วยเหลือร้านข้าง ๆ

 

ต่อมา นางสาวปอน อดีตเพื่อนร่วมงานและเคยพักห้องเดียวกันกับ นางสาวแพรว ได้ยืนยันความบริสุทธิ์ของอดีตนายจ้างว่า นางสาวแพรว มีนิสัยชอบโกหก ชอบออกไปข้างนอกเวลากลางคืน ชอบลักเล็กขโมยน้อย ยืนยันว่าไม่เคยเห็นนายจ้างทำร้ายร่างกาย ส่วนเรื่องการจ้างงานยืนยันว่า อดีตนายจ้างจ่ายเงินค่าจ้างตามปกติ ตรงเวลา และมีการส่งประกันสังคมเหมือนระบบการว่าจ้างงานทั่วไป

 

ล่าสุด เมื่อช่วง 11.00 น. วันนี้ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาหญิงลูกจ้างเข้าร้องขอความเป็นธรรม และขอรับเงินเยียวยา รวมถึงยื่นขอคุ้มครองพยานกับ ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 

 

ระหว่างนั้น นางสาวแพรว ลูกจ้างที่ถูกทำร้าย ได้ชี้แจงกรณีนายจ้างเปิดภาพที่เธอใช้มีดกรีดศีรษะตัวเองว่า นายจ้างได้มีการสั่งให้ตนทำ โดยจะทักข้อความมาหาแล้วให้วิดีโอคอลไป แล้วจะสั่งให้ทำร้ายตนเอง เลือกวิธีเองได้ว่าจะทำวิธีใดก็ได้ที่ทำแล้วมีเลือดออก ซึ่งที่ตนยอมทำร้ายตัวเองเนื่องจากว่า ถ้าหากให้นายจ้างมาทำจะโดนทำร้ายหนักกว่านี้ ส่วนเรื่องที่นายจ้างบอกว่าตนถอดเมมโมรีจากกล้องวงจรปิดนั้น ตนยอมรับว่าเคยถอดจริง แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เนื่องจากตอนนั้นตนได้ไปแอบกินเศษอาหารที่เหลือ ถ้าหากนายจ้างรู้ก็กลัวจะโดนลงโทษ ส่วนครั้งอื่น ๆ เป็นนายจ้างที่ถอดเอง และนายจ้างจะถอดเมมโมรีเพื่อที่จะไม่มีหลักฐานว่าได้ทำร้ายตน นอกจากนี้ ตนไม่เคยยุ่งกับยาเสพติด ไม่เคยยุ่งกับผู้ชายคนไหนอีกเลยตั้งแต่คลอดลูกออกมา และไม่เคยได้รับเงินเดือนเลยสักครั้ง

 

ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะนำผมลูกจ้างไปตรวจหาสารเสพติด พร้อมกับแนะนำว่า ให้พาน้องไปตรวจสุขภาพจิตให้แน่ชัดอีกครั้ง