พี่ชายร้อง ! น้องสะใภ้โหด ใช้สากทุบหัวน้องดับ ทิ้งร่างจมกองเลือด | ถกไม่เถียง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อภรรยาทำร้ายสามีอย่างโหดเหี้ยม ใช้สากกะเบือตีหัวสามีจนเป็นแผลฉกรรจ์หลายแผล กระทืบซ้ำจนซี่โครงหัก และลากร่างสามีไปทิ้งไว้ในห้องน้ำ จากนั้นตัวเองก็แต่งตัวไปทำงานปกติ เหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น จนเพื่อนร่วมงานไปพบร่าง รีบนำส่งโรงพยาบาล แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

ด้าน นายยอด พี่ชายผู้เสียชีวิต รับไม่ได้กับการเสียชีวิตของน้องชาย เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง ให้ช่วยในคดีเนื่องจากมีความล่าช้า เมื่อช่วงเช้านี้ กัน จอมพลัง พา นายยอด อายุ 43 ปี พี่ชายของ นายโชคชัย อายุ 42 ปี ผู้เสียชีวิต มาติดตามความคืบหน้าคดีที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน

 

นายยอด ระบุว่า น้องชายตนเองพักอาศัยอยู่กับนางสาววงเดือน อายุ 50 ปี ผู้ก่อเหตุ แบบสามีภรรยา ซึ่งน้องชายตนเองถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา น้องชายถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส ถูกใช้มีดแทงที่ใบหน้าหลายจุด แล้วลากร่างน้องชายตนเองไปขังไว้ในห้องน้ำ ปล่อยนอนจมกองเลือด หลังก่อเหตุก็แต่งตัวออกไปทำงานตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งตอนเช้ารถบริษัท รปภ. ที่น้องชายทำงานอยู่มารับยังที่พัก แต่น้องชายตนเองไม่ออกมาขึ้นรถ เพื่อนร่วมงานเห็นผิดสังเกต จึงงัดห้องพักเข้าไปดู ก็พบว่าน้องชายตนเองนอนจมกองเลือดอยู่ในห้องน้ำ สภาพที่บาดเจ็บสาหัส จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล และมาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา

 

น้องชายถูกฝ่ายหญิงกระทำทารุณกรรมมาโดยตลอด เนื่องจากฝ่ายหญิงมีอารมณ์รุนแรง ก่อนหน้านี้น้องชายตนเองก็เคยถูกฝ่ายหญิงใช้มีดฟันที่แขนต้องเย็บถึง 38 เข็มมาแล้ว และยังเคยถูกสากกะเบือตีหัว เคยกระทืบจนซี่โครงหักมาแล้ว น้องชายมีอาชีพเป็น รปภ. ฝ่ายหญิงก็จะยึดเงินเดือนทั้งหมด และให้เงินใช้เพียงเดือนละ 1,000 บาท ล่าสุดน้องตนเองถูกบังคับให้นำรถจักรยานยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ เพื่อกู้เงิน 30,000 บาท เพิ่งผ่อนชำระได้งวดเดียวก็มาถูกทำร้ายเสียชีวิต โดยตอนที่น้องตนเองนอนอยู่โรงพยาบาล ฝ่ายหญิงไม่ได้มาเยี่ยมแม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงไม่ได้ไปร่วมงานศพเลยแม้แต่วันเดียว

 

นายกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า เป็นกรณีแรกที่ตนเองได้ช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาเคยเจอแต่ผู้ชายทำร้ายผู้หญิง แต่พอทราบเรื่องราวความเป็นมาก็ต้องยอมรับว่ามีความสลดใจอย่างมาก ที่ฝ่ายชายกลับเป็นผู้ถูกฝ่ายหญิงกระทำทารุณ เพราะความรักจึงยอมทุกอย่าง

 

ด้าน พ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้รับคดีไว้แล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เนื่องจากต่างฝ่ายต่างอ้างว่าถูกทำร้ายด้วยกันทั้งคู่ และรอผลการตรวจชันสูตรศพจากแพทย์นิติเวช ยืนยันว่าไม่ได้ทำคดีล่าช้าแต่อย่างใด โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย หลังเกิดเหตุทางผู้ถูกกล่าวหาได้มามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายกับผู้ก่อเหตุแล้ว ก่อนปล่อยตัวไปโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์

 

ติดตามประเด็นนี้ในรายการ “ถกไม่เถียง” กับ ทิน โชคกมลกิจ