ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังจากเมื่อวานนี้ ลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกตำรวจจับกุมในคดีทุจริต เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการก่อสร้าง วันนี้ นายชาดา เปิดใจว่า สั่งลูกเขยให้ลาออกจากตำแหน่งแล้วเมื่อคืนนี้ และขอร้องบรรดาด้อมเอไอ อวตาร อย่าเอารูปลูกหลานตนมาออกสื่อมาโจมตี
ชาดา สั่งลูกเขยลาออกจากตำแหน่ง โชว์สปิริต ขออย่าโจมตีครอบครัว
จากกรณี นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเป็นลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ถูกบุกจับกุมโดยตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เมื่อวานนี้ (24 ต.ค.)
ที่รัฐสภา นายชาดา เดินทางเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการปกครอง เรื่องมาตรการจัดระเบียบสังคมและการปราบปรามผู้มีอิทธิพล หลังจากเลื่อนเข้าชี้แจงเมื่อช่วงเช้า ต่อมา นายชาดา ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจาก นายวีระชาติ ได้รับการประกันตัว ตนได้คุยด้วย ซึ่งลูกเขยก็ขอโทษ ตนบอกไม่ต้องพูดอะไร เราครอบครัวเดียวกัน แต่สิ่งที่ต้องทำคือต้องลาออกจากการเป็นนายกเทศมนตรี เพื่อให้จังหวัดจัดการเลือกตั้ง ถ้าไม่ทำแบบนี้ การรอพักปฏิบัติหน้าที่จนคดีเสร็จเป็นการเอาเปรียบ และปล่อยทิ้งพี่น้องประชาชนในตำบลตลุกดู่ โดย นายวีระชาติ ได้ลาออกเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. เมื่อคืนนี้ ซึ่งจริง ๆ นายวีระชาติ มีสิทธิ์ที่จะพักการปฏิบัติหน้าที่ แต่ตนเห็นว่าการพักปฏิบัติหน้าที่เป็นการถ่วงความเจริญ และไม่มีสปิริตทางการเมือง เป็นการเอาเปรียบพี่น้องประชาชน แต่เมื่อ นายวีระชาติ ลาออก เทศบาลก็จัดการเลือกตั้งได้ทันที นี่คือสิ่งที่ตนทำในฐานะรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย และในฐานะที่คนใกล้ชิดของตนมีเรื่อง ต้องแสดงสปิริตมากกว่าคนอื่น
นายชาดา ยังกล่าวด้วยว่า จับคนใกล้ชิดก็ว่า ไม่จับก็ด่า พร้อมกับขอร้องไม่ให้นำภาพลูกหลานของตนเองมาออกข่าว ทั้งด้อมเอไอ อวตาร ด่าตนได้แต่อย่าเอารูปลูกหลานตนมาออก ตนหาอวตารไม่เจอ ก็เอาคนที่อยู่เบื้องหน้า
นายกฯ ลั่น ไม่ว่าเป็นครอบครัว รมต. ต้องรับโทษ ไม่แน่ใจ ชาดา สั่งจับ
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รู้สึกตกใจหลังทราบเรื่อง แต่ใครทำผิดก็ต้องจัดการไปตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้องของรัฐมนตรี หรือใครก็ตาม ส่วนที่สังคมเรียกร้องให้ นายชาดา ลาออกจากตำแหน่ง รับผิดชอบ เพราะเป็นผู้ดูแลนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลเอง แต่คนในครอบครัวกลับทำผิดนั้น ไม่อยากให้ถึงขั้นนั้น
ย้อนนาทีจับกุม วีระชาติ ลูกเขย ชาดา
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ ตำรวจ ปปป. วางแผนจับกุมได้ 5 คน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ 3 ราย ประกอบด้วย นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่, นายธนภัสสร์ ดุลยาธิการ ปลัดเทศบาลตลุกดู่ และนายกุลธัช สามัคคี ผู้ช่วยนายช่างโยธาเทศบาลตลุกดู่ ข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ และร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นพลเรือน 2 คน คือ นายมานพ ติดติมานพ และ นายยิ่งยง คชาชาญ ซึ่ง 2 คนนี้โดนข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์โดยมิชอบ และสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ส่วนสาเหตุมาจากมีผู้ประกอบการที่ชนะประมูลสร้างประปาหมู่บ้านใน 2 ตำบล ร้องเรียนว่าถูกผู้บริหารเทศบาลให้คนโทรศัพท์ข่มขู่ไม่ให้เข้าประมูล เมื่อประมูลได้ก็ถูกขัดขวาง ข่มขู่ และไม่ให้ร้านขายวัสดุก่อสร้างขายของให้ และต่อมา นายวีระชาติ นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ เรียกเงิน 2 โครงการนี้ 1 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายต่อรองเหลือ 6 แสนบาท และเข้าแจ้งความตำรวจ ปปป.
ตำรวจ ปปป. วางแผนจับกุมให้ผู้เสียหายส่งมอบเงินหน้าธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอทัพทัน โดยมี นายมานพ และนายยิ่งยง เป็นผู้มารับเงิน ตำรวจบุกจับกุม นายยิ่งยง ได้คนแรก และจับกุม นายมานพ ที่พยายามหลบหนี จับกุม นายธนภัสสร์ และนายกุลธัช ได้ที่เทศบาลตำบลตลุกดู่ ส่วน นายวีระชาติ จับกุมได้ที่บ้านพัก ซึ่งเมื่อคืนนี้ หลังสอบสวนเสร็จสิ้น ทั้ง 5 คน ได้ประกันตัวออกไปในชั้นพนักงานสอบสวน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ผู้จับทั้ง ชาดา และลูกเขย
เมื่อวานนี้ ตำรวจที่นำปฏิบัติการก็คือ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการ ปปป. และรักษาราชการแทนตำรวจทางหลวง ซึ่งเมื่อคืนนี้ หลังการแถลงข่าว พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจับกุม นายชาดา โทรศัพท์มาคุย ไม่ได้ขออะไร ถึงแม้ขอก็ไม่ให้ และตนไม่ได้กลัวอะไร เพราะเป็นคนที่เคยจับกุม นายชาดา มาแล้วครั้งหนึ่ง
การจับกุมครั้งนั้น เกิดขึ้นเมื่อปี 2560 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ซึ่งตอนนั้น ยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งผู้กำกับการ 4 กองปราบปราม ได้นำตำรวจตรวจค้นขบวนรถ 8 คัน ของนายชาดา ซึ่งตอนนั้นเป็นอดีต สส.อุทัยธานี บนทางหลวงหมายเลข 3183 ระหว่างที่ นายชาดา จะไปร่วมงานศพ ที่วัดหลุมเข้า ตำบลหลุมเข้า อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี
ตอนเข้าจับกุมตรวจค้น มีรถ 1 คัน หลบหนีไป แต่ว่าตำรวจตามไปควบคุมไว้ได้ห่างจากจุดแรก 5 กิโลเมตร ซึ่งเมื่อตรวจค้นพบว่าเป็นรถคันที่ นายชาดา นั่งอยู่ในรถ และพบอาวุธปืน 3 กระบอก กระสุนปืน พร้อมของกลางอีกหลายรายการ ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนั้น
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า เป็นผลสืบเนื่องจากยุทธการฟ้าสาง ที่สะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี เป็นการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เนื่องจากก่อนหน้านี้ ได้มีเหตุการณ์ยิงกันในวงไฮโล จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ และบาดเจ็บอีกหลายราย ทั้งยังพบว่ามีความขัดแย้งของผู้มีอิทธิพล 2 กลุ่ม คือ กลุ่มซากุระ และกลุ่มของนายชาดา ซึ่งการระดมกวาดล้างผู้อิทธิพลในครั้งนั้น ดำเนินคดีนายชาดา ในข้อหามีอาวุธสงครามในครอบครอง ทั้งยังมีการพูดคุยกันส่วนตัวว่าอย่าให้มีผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นี้ ซึ่งหลังจากนั้น ความขัดแย้งภายในอุทัยธานี ลดลงไปพอสมควร
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35