อพยพคนไทยจากอิสราเอล กลับถึงบ้านอีก 515 คน แรงงานไทยเล่านาทีหนีตาย ต้องหลบซ่อนในหลุมบังเกอร์นานถึง 14 วัน ขณะเกิดเหตุสู้รบนายจ้างยังบังคับให้ทำงาน
วันที่ 23 ต.ค.66 เมื่อเวลา 22.00 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางมาต้อนรับและดูแลอำนวยความสะดวกแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลและแจ้งความประสงค์เดินทางกลับถึงประเทศไทย จำนวน 2 เที่ยวบิน โดยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG8953 นำคนไทยในอิสราเอล 280 คน จากสนามบิน Fujairah นครดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY085 นำคนไทยในอิสราเอล 235 คน กลับถึงสนามบินสุวรรณภูมิ
ทั้งนี้กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานราชการต่าง ๆ เข้ามาดูแลกรณีแรงงานไม่มีเงินค่าเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมให้คำแนะนำเรื่องการพักชำระหนี้ ไกล่เกลี่ยหนี้ ขณะที่กรมการจัดหางานได้ตั้งโต๊ะให้คำแนะนำการยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ โดยญาติพี่น้องของแรงงานไทยที่มารอรับที่สนามบินเข้าไปสวมกอดรับขวัญผู้ที่เดินทางกลับถึงแผ่นดินเกิด
นายอนุเทพ ขวัญทอง อายุ 29 ปี แรงงานชาวจังหวัดอุดรธานี ที่เดินทางไปทำงานที่เมืองมะกะหยก ติดกับประเทศเลบานอน เปิดเผยว่า ขณะที่มีการสู้รบ ตนต้องหลบอยู่ในหลุมบังเกอร์ นานถึง 14 วัน โดยได้เตรียมหม้อหุงข้าว กระทะไฟฟ้าลงไปในหลุมบังเกอร์ด้วย เนื่องจาก ในหลุมหลบภัยมีไฟฟ้าและน้ำ แต่ต้องเตรียมเครื่องใช้ลงไปในหลุมหลบภัยให้พอใช้
"ในวันแรกที่มีการปะทะกัน ผมยังทำงานอยู่ในฟาร์มไก่ ได้ยินปืนคาดว่าเป็นปืนจากรถถัง ยิงขึ้นไปบนภูเขา ทางประเทศเลบานอน และเมื่อ 2 – 3 วัน ก่อนฟาร์มที่ทำงานอยู่ก็โดนระเบิด มีเพื่อนแรงงานบาดเจ็บ 2 คน และได้เดินทางกลับมาด้วยในวันนี้ ในขณะนั้นคิดเพียงอยากกลับบ้าน เนื่องจากการสู้รบเริ่มหนักขึ้น จากเสียงปืนใหญ่ กลายเป็นได้ยินเสียงปืนเล็ก ปืนกล และมีทหารเดินตระเวนรอบหมู่บ้าน เพื่อค้นหาฝ่ายตรงข้ามที่ลอบเข้ามาในพื้นที่”
นายอนุเทพ บอกด้วยว่า ไปทำงานในอิสราเอล นานประมาณ 3 ปี ที่ผ่านมามีแค่การยิงจรวดไปมา แต่ครั้งนี้หนักที่สุด ตอนที่มีการยิงกัน นายจ้างยังบังคับให้ทำงาน ขนาดวันที่โดนระเบิดเขาก็ยังให้ทำงาน จนตนต้องอพยพออกมาจากฟาร์ม โดยที่ยังไม่ได้รับเงินเดือน และคงไม่กลับไปทำงานที่อิสราเอลอีกแล้ว
+ อ่านเพิ่มเติม