สุดเศร้า ! ส่งร่าง 8 แรงงานไทยกลับบ้าน ถึงไทยพรุ่งนี้เช้า | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

197 ครั้ง

19 ต.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ช่วงค่ำของวันนี้ ร่างของแรงงานไทย 8 ราย ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส จะถูกส่งกลับประเทศไทย และจะถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ แม่ของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งที่อุดรธานี ยังเศร้าทุกครั้งที่เห็นรูปและเสื้อผ้าลูก และยิ่งเศร้าเมื่อเห็นลูกของคนอื่น ๆ กลับมาแบบมีชีวิต แต่ลูกของเธอกลับมาแบบไร้ชีวิต ส่วนพ่อที่เสียลูกถึง 2 คนในสงครามนี้ เตรียมจัดงานศพลูกคนเล็กที่ได้ศพกลับมาก่อน อยากได้ชีวิตลูกคืน เยียวยาเท่าไหร่ก็ไม่คุ้ม

ส่งศพ 8 แรงงานไทยกลับบ้าน ถึงไทยพรุ่งนี้เช้า

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้รับประสานเป็นการภายในจากบริษัทจัดการศพของอิสราเอลว่า สถาบันนิติเวชของอิสราเอล อนุญาตให้นำร่างของคนไทยที่เสียชีวิตจำนวน 8 ราย ออกจากสถาบันนิติเวช โดยสถานทูตจะส่งร่างแรงงานไทยชุดแรก กลับประเทศไทยด้วยสายการบินแอลอัล อิสราเอล เที่ยวบินที่ LY083 ออกจากอิสราเอล ช่วงค่ำวันนี้ เวลา 20.00 น. และจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันพรุ่งนี้ เวลา 08.50 น.

สำหรับรายชื่อรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 8 ราย ประกอบด้วย

1. นายพงษธร ขุนศรี

2. นายพิชิต นาจันทร์

3. นายชัยรัตน์ สานุสันต์

4. นายอานันต์ เพชรแก้ว

5. นายพงษ์พัฒน์ สุชาติ

6. นายอนุชา โสภากุล

7. นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์

8. นายธนกฤจฒ์ ปรากฎวงษ์

พ่อสูญเสีย 2 ลูกชาย อยากได้ชีวิตลูกคืน จ.ขอนแก่น

ใน 8 ร่างที่จะถูกส่งกลับถึงไทยในวันพรุ่งนี้ มีศพของ นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ แรงงานชาวจังหวัดขอนแก่นรวมอยู่ด้วย ซึ่งถ้าคุณผู้ชมจำกันได้ พี่ชายของ นายพงษ์เทพ ก็คือ นายอภิชาติ กุสะรัมย์ ก็เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ด้วย

บรรยากาศที่บ้านของ นายพงษ์เทพ ที่บ้านโคกสูง ตำบลโนนธาตุ อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น เป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้องร่วมกันจัดสถานที่ พร้อมกับเตรียมข้าวปลาอาหารเลี้ยงญาติพี่น้องที่มาช่วยงาน เพื่อเตรียมรอรับศพที่จะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันพรุ่งนี้

นายลำเพย กุสะรัมย์ พ่อที่สูญเสียลูกทั้ง 2 คนในสงครามอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส บอกว่า ลูกชายคนเล็กคือ นายพงษ์เทพ ได้พิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้วว่าใช่ จึงได้ศพกลับมาก่อน แต่ตัวพี่ชายคือ นายอภิชาติ ยังคงต้องพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีกครั้ง ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะได้ศพกลับมาตอนไหน เพราะศพที่เสียชีวิตมีจำนวนมาก ซึ่งการที่ลูก ๆ ต้องเสียชีวิตในครั้งนี้ ไม่อยากพูดถึงผู้ที่ก่อเหตุ พูดไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่อยากให้สงสารเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแค่นั้น

นายลำเพย บอกด้วยว่า อยากให้ลูกทั้งสองคนไปสู่สุคติ ไม่ต้องห่วงพ่อ พ่อจะเข้มแข็ง ไม่ทำให้ลูกเสียใจอย่างแน่นอน ถ้าพ่อยังอ่อนแอ แล้วหลานจะอยู่อย่างไร ส่วนเงินที่ลูกชายทั้งสองคนใช้ในการเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล ตนเป็นคนไปกู้ยืมมา 2 แสนบาท ยังเหลือหนี้สินอีก 50,000 บาท ซึ่งเป็นหนี้สินของลูกชายคนโต ที่เดินทางไปอิสราเอล หลังน้องชาย ส่วนเรื่องการเยียวยา เท่าไหร่ก็ไม่คุ้ม อยากได้ชีวิตลูกคืนมากกว่า

แม่เศร้า คนอื่นได้กลับบ้าน ส่วนลูกกลับแบบเสียชีวิต จ.อุดรธานี

ร่างของแรงงานไทยที่จะส่งกลับถึงพรุ่งนี้ ยังมีชาวอุดรธานี 2 ราย คือ นายชัยรัตน์ สานุสันต์ และ นายอนุชา โสภากุล โดยญาติของ นายอนุชา ที่หมู่บ้านเดียม ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ต่างช่วยกันทำความสะอาดบ้าน จัดเตรียมสถานที่รับศพ ที่ป่าช้าบ้านเดียม

นางสมพิศ อินทรวิเศษ แม่นายอนุชา บอกว่า ได้รับแจ้งจากทางการช่วงเที่ยงคืนของเมื่อคืนนี้ ว่าจะมีการส่งศพของลูกชายกลับมาภูมิลำเนา หากศพลูกมาถึง ญาติจะทำพิธีเผาศพที่ป่าช้าเลย ไม่มีการตั้งศพบำเพ็ญกุศล เนื่องจากเป็นการตายผิดธรรมชาติ ชาวบ้านละแวกนี้ ถือตามคนโบราณ โดยศพจะมาถึงกี่โมงนั้นยังไม่แน่ชัด ทางการจะประสานเป็นระยะอีกครั้งหนึ่ง นอกจากนี้ ยังได้รับแจ้งว่าจะเยียวยาญาติผู้เสียชีวิตรายละ 40,000 บาท ค่าทำศพอีก 40,000 บาท

ส่วนหนี้สินที่ลูกกู้ยืม ธกส. ไปทำงานที่อิสราเอลนั้น ใช้หนี้หมดแล้ว แต่ยังมีหนี้ กยศ. ที่กู้ยืมตอนเรียนหนังสืออีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งรู้สึกกังวล เพราะตนเองเป็นผู้ค้ำประกันให้ลูก โดยหลังรู้ข่าวว่าลูกเสียชีวิต ตอนแรกเสียใจมาก รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่หากกลับมาบ้าน เห็นเสื้อผ้า หรือ ภาพเก่า ๆ ของลูก ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว ยิ่งเห็นลูกคนอื่นกลับจากอิสราเอล ก็ยิ่งเศร้า ว่าทำไมลูกไม่ได้กลับมาบ้านเหมือนคนอื่น

กต.แจงเส้นทางการบินอพยพคนไทย

กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่เอกสารแถลงข่าวสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ว่า คนไทย ผู้เสียชีวิต 30 ราย, บาดเจ็บ 16 ราย และผู้ที่คาดว่าถูกควบคุมตัว จำนวน 17 ราย

โดยวันนี้ จะมีเที่ยวบินอพยพคนไทยอีก 2 เที่ยวบิน เดินทางถึงไทยช่วง 12.30 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 80 คน และอีกเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานทหาร บน. 6 เวลา 13.40 น. อีก 145 คน ซึ่งคาดว่า ภายในสิ้นเดือนตุลาคม หรือ ต้นเดือนพฤศจิกายน จะสามารถนำคนไทยกลับประเทศได้ตามที่เคยกำหนดไว้

ส่วนเรื่องการขออนุญาตเส้นทางบินผ่านน่านฟ้า ทางการไทยไม่ได้ขออนุญาตทำการบินผ่านน่านฟ้าของประเทศที่มีความเสี่ยงที่จะไม่อนุญาต เพื่อลดความเสี่ยงและเลี่ยงความล่าช้าในกระบวนการขออนุญาต เนื่องจากต้องการให้พี่น้องคนไทยได้เดินทางออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยและกลับประเทศไทยโดยเร็ว

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35