จ่อออกหมายจับ ! ปมนักเรียนหญิงจบชีวิต ถูกหลอกซื้อโทรศัพท์ จ.นครศรีธรรมราช

231 ครั้ง

18 ต.ค. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจสืบสวนภาค 8 ร่วมตำรวจไซเบอร์ เร่งคลี่คลายคดีเด็ก นักเรียนหญิงวัย 19 ปี ถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินผ่อนโทรศัพท์ ล่าสุดเตรียมออกหมายจับแก๊งที่ก่อเหตุเร็ว ๆ นี้

เร่งคลี่ปม นร.หญิงฆ่าตัวตาย ถูกหลอกซื้อโทรศัพท์ จ.นครศรีธรรมราช

กรณีเหตุสลดน้องพลอย อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งซื้อไอโฟนเงินผ่อนทางออนไลน์ ซึ่งอ้างว่ามีหน้าร้านอยู่ในพื้นที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จากนั้นแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงินผ่านบัญชีม้า จำนวน 4 ครั้ง เป็นเงินเกือบ 20,000 บาท สุดท้ายเงียบหาย น้องพลอยเครียดจัด เพราะเป็นเงินที่หยิบยืมจากเพื่อนสนิท 2 คน จนในที่สุดน้องพลอยตัดสินใจผูกคอตายคาบ้านพักเมื่อเย็นวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมเขียนจดหมายขอโทษแม่ และหลักฐานแช็ตต่าง ๆ กับทางแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว

ร้านขายโทรศัพท์ไม่มีอยู่จริง จ.เชียงราย

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หาพิกัดร้านโทรศัพท์มือถือดังกล่าว ปรากฎว่าชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างระบุว่าไม่มีชื่อร้านโทรศัพท์ดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ อำเภอแม่สาย เลยแม้แต่ร้านเดียว ซึ่งตรงกับข้อมูลของพนักงานสอบสวน สภ.เกาะทวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ระบุมาตั้งแต่ต้นว่าชื่อร้านตามที่ระบุในเพจ ที่ผู้ตายติดต่อไปไม่ได้มีอยู่จริงในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย คาดว่าเป็นชื่อปลอมที่เปิดในเพจเพื่อการหลอกลวง

เจ้าของร้านตัวจริงแจ้งความแก๊งมิจฉาชีพหลอกน้อง ม.6 ผูกคอเสียชีวิต จ.นครสวรรค์

ขณะที่เจ้าของร้านโทรศัพท์ตัวจริง ซึ่งมีหน้าร้านอยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์ เข้าแจ้งความกับตำรวจแล้ว พร้อมยืนยันว่าทางร้านไม่ได้มีส่วนไปเกี่ยวข้องกับเหตุสลดที่เกิดขึ้นใน จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมกับนำภาพถ่ายหลักฐาน ทั้งรูปหน้าร้าน และเพจเฟซบุ๊กของร้านตัวจริง และเพจเฟซบุ๊กปลอมที่มิจฉาชีพเอารูปร้านไปปลอมแปลงเปลี่ยนชื่อร้านใหม่มอบให้ตำรวจ

เจ้าของร้านบอกว่า หลังเกิดเหตุสลด เกี่ยวกับน้อง ม.6 ผูกคอฆ่าตัวตาย เพราะถูกมิจฉาชีพ เอารูปร้านไปทำเฟซบุ๊กปลอมลวงหลอก ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาสอบถามกับทางร้านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ ตนต้องรับสายแทบไหม้ และต้องคอยอธิบายความจริงเกือบแทบจะทุกสาย และรู้สึกเสียใจ ที่แก๊งมิจฉาชีพใช้รูปหน้าร้านตนไปหลอกลวงคนอื่น จนเกิดเหตุสลดขึ้น ตอนนี้อยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการจับกุมคนร้ายแก๊งนี้ให้ได้โดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้คงไปก่อเหตุหลอกลวงอีกเรื่อยๆ

บัญชีม้าปัดไม่รู้เรื่อง จ.ชัยภูมิ

ขณะเดียวกันตำรวจได้ตรวจสอบชื่อบัญชีม้าดังกล่าว พบว่าอาศัยอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านนางสาวดอกแก้ว อายุ 23 ปี เจ้าของบัญชีม้า พบว่าเจ้าตัวไม่อยู่บ้าน มีเพียงป้าของนางสาวดอกแก้ว ให้ข้อมูลว่า ช่วง 2-3 วันก่อน หลานของตนได้มาเอาเอกสารไปทำเกี่ยวกับเกมส์อะไรบางอย่าง ตนจึงบอกหลานว่าอย่าไปทำเลย พร้อมให้ลบออกจากโทรศัพท์ หลังจากนั้นทางหลานของตนก็ได้ลบออกไป

จนกระทั่งต่อมา ตำรวจ สภ.คอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ได้เชิญตัวหลานสาวไปสอบสวนอย่างละเอียดที่กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นตนได้สอบถามหลานสาว เล่าว่า ไม่ทราบเกี่ยวกับบัญชีหรือบัตรประชาชนที่หลุดออกไป เนื่องจากหลานสาวได้ไปสมัครงานในหลายพื้นที่ พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ด้านแม่ของเจ้าของบัญชีม้าเล่าว่า ลูกสาวของตนนั้นได้ทำงานอยู่ที่ไร่กรีดยางอยู่ตลอดเวลาไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวและไม่เคยเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังไม่เคยไปเปิดบัญชีที่ธนาคารดังกล่าว อยากให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวของตนด้วย

ผบ.ตร.สั่งสอบ พบเงินปลายทางไปโผล่เมียนมา

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒนครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้มีความห่วงใยในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเด็ก จึงมอบหมายให้มาประสานกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อรับโอนคดีมาเนื่องจากเป็นหน่วยที่มีความพร้อม และจะเร่งรัดคดีเพื่อให้ความเป็นธรรมกับน้องผู้เสียชีวิต

ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวเปิดบัญชีม้า 4 แถว โดยแถวแรกอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ พนักงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 อยู่ระหว่างเชิญตัวเข้ามาสอบสวน ส่วนอีก 3 แถวอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อยู่ระหว่างสืบสวนดำเนินการ ขณะที่ยอดเงินยังอยู่กับปลายแถวที่ 4 ยังไม่มีความเคลื่อนไหว โดยกลุ่มคนร้ายเตรียมรอโอนไปปลายทางฝั่งท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ซึ่งภายในวันนี้พนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอศาลขอออกหมายจับ

มีรายงานว่า ในวันเดียวกันที่น้องพลอย ผูกคอเสียชีวิต แก๊งมิจฉาชีพยังกล่าวยังได้หลอกขายไอโฟนกับผู้เสียหายอีก 4 คน ในพื้นที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช, สน.บุคคโล, สน.หัวหมาก และ สน.ห้วยขวาง อีกด้วย

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35