logo ถกไม่เถียง

หนุ่มช็อก ไปแจ้งความของหาย “ร้อยเวร” คีย์ข้อมูลสลับ “คนร้าย” สุดท้าย ตกงาน !

ถกไม่เถียง : หนุ่มช็อก เป็นคนแจ้งความคดีลักทรัพย์ แต่ตำรวจมึนคีย์ข้อมูลผิด สลับคนแจ้งความกลายเป็นคนร้าย ทำให้มีคดีติดตัวทั้งที่ไม่มีความผิด สุดท้ ถกไม่เถียง

14,211 ครั้ง
|
18 ต.ค. 2566
หนุ่มช็อก เป็นคนแจ้งความคดีลักทรัพย์ แต่ตำรวจมึนคีย์ข้อมูลผิด สลับคนแจ้งความกลายเป็นคนร้าย ทำให้มีคดีติดตัวทั้งที่ไม่มีความผิด สุดท้ายต้องตกงาน ด้านตำรวจขอโทษแล้ว แต่ไม่เยียวยาแม้แต่บาทเดียว
 
วันที่ 18 ต.ค. 66 คุณปัญญา ผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ในขณะที่ตนทำงานอยู่กับบริษัทแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2564 พบว่ามีเด็กฝึกงานก่อเหตุขโมยแรมคอมพิวเตอร์ไปกว่า 20 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 270,000 บาท ตนจึงได้รับมอบอำนาจจากบริษัท ให้ไปแจ้งความในคดีดังกล่าว โดยขั้นตอนการแจ้งความเป็นไปอย่างปกติ ใช้เพียงบัตรประชาชนและหนังสือมอบอำนาจ ตนได้ตรวจสอบครบถ้วนแล้วว่าข้อมูลทั้งหมดถูกต้อง และตามเรื่องต่อจนคดีสิ้นสุด
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มช็อก ไปแจ้งความของหาย “ร้อยเวร
 
จากนั้นก็ใช้ชีวิตปกติสุขเรื่อยมา โดยเปลี่ยนงานไปหลายบริษัทและทำใบขับขี่ก็ไม่มีปัญหา จนกระทั่งได้ย้ายมาทำงานในบริษัทล่าสุด โดยตั้งใจจะทำงานไปจนเกษียณ แต่เมื่อถึงวันพิจารณาผ่านโปร ได้รับแจ้งจากฝ่ายบุคคลว่า ตนมีคดีติดตัวอยู่ซึ่งเป็นคดีเดียวกับเมื่อปี 2564 ที่ตนได้รับมอบอำนาจให้ไปแจ้งความ จึงยืนยันว่าตนเป็นคนแจ้งความจะกลายเป็นคนก่อเหตุได้อย่างไร แต่เมื่อไปสืบประวัติตัวเองซ้ำพบว่ามีคดีติดตัวจริง เนื่องจากตำรวจร้อยเวรคีย์ข้อมูลผิดพลาด ทำให้เลขบัตรประชาชนของผู้ก่อเหตุกลายเป็นเลขบัตรประชาชนของผู้แจ้งความแทน แต่ชื่อยังเป็นของผู้ก่อเหตุ ทำให้มีคดีตัดตัวทั้งสองคน
 
ตนถูกเชิญออกจากงาน และไม่สามารถไปสมัครงานที่อื่นได้เนื่องจากมีคดีติดตัว ส่วนทางตำรวจทำได้เพียงขอโทษ พร้อมลบข้อมูลให้ แต่ข้อมูลก็ยังคงค้างอยู่ในระบบส่วนอื่นต่อไป และไม่เคยได้รับการเยียวยาจากตำรวจที่ทำผิดพลาดจนตนต้องตกงานแม้แต่บาทเดียว จึงตัดสินใจร้องกับเพจสายไหมต้องรอดให้ช่วยเหลือ
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มช็อก ไปแจ้งความของหาย “ร้อยเวร
 
คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รู้สึกเห็นใจคุณปัญญาที่ต้องตกงานไม่มีเงินเลี้ยงดูครอบครัว ยืนยันว่าทางบริษัทที่เชิญคุณปัญญาออกจากงานไม่ได้มีความผิด แต่เป็นความจำเป็นที่จะต้องทำตามกฎของบริษัท อีกทั้งตำแหน่งงานของคุณปัญญาเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์และความปลอดภัยของบริษัท แต่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบควรจะเป็นตำรวจที่ทำงานผิดพลาด จนทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียอนาคต ต้องมีการเยียวยาและลบประวัติให้กลับมาขาวสะอาด 
 
ทนายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์ กรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม ให้ความรู้ด้านกฎหมายว่า ตำรวจที่ทำผิดพลาดจะมีความผิดในข้อหาประมาท ตามมาตรา 240 ผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องเอาผิด เรียกร้องค่าเสียหายจากคนทำผิดและสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ 
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มช็อก ไปแจ้งความของหาย “ร้อยเวร
 
นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน แนะนำให้ไปร้องทุกข์ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเร่งรัดกระบวนการลบประวัติให้เร็วขึ้น ส่วนการที่ไปทำใบขับขี่ได้เนื่องจากข้อมูลในระบบราชการไม่ได้เชื่อมต่อกัน จึงอาจเกิดความคลาดเคลื่อนได้ 
 
ยืนยันว่าประวัติอาชญากรรมสามารถแก้ไขได้ การลบข้อมูลให้ประวัติกลับมาขาวสะอาดจะต้องไปลบที่ทะเบียนประวัติอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่การเยียวยาอาจไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเริ่มทำงานได้ไม่ถึง 120 วัน แต่โชคดีที่ทางบริษัทได้เยียวยาให้แล้วส่วนหนึ่ง ส่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ถ้าหากไม่มีความคืบหน้าสามารถฟ้องมาตรา 157 กับตำรวจได้
 
ถกไม่เถียง : หนุ่มช็อก ไปแจ้งความของหาย “ร้อยเวร
 
ทางทีมงานรายการถกไม่เถียงได้สอบถามบริษัทอดีตนายจ้างของคุณปัญญา เกี่ยวกับโอกาสที่คุณปัญญาจะกลับไปทำงานที่บริษัทเดิมได้หรือไม่ ทางบริษัทตอบว่าถ้าหากแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้วจะต้องพิจารณาตำแหน่งว่าง และจะดำเนินตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งอาจทำให้คุณปัญญามีโอกาสที่จะกลับไปทำงานได้
 
ติดตาม  รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง"  ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ”  ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35 
 
 
ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/GC5Hdfsw46Y?si=1o9CEzAGCxkIZIpa

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง