ลูก ๆ ถึงกับกุมขมับ หลังแม่วัย 75 ปี ถูกมิจฉาชีพทำทีชวนคุยบนโลกออนไลน์ ก่อนชวนลงทุน สูญเงินไปกว่า 18 ล้าน ลูกเตือนเท่าไหร่ก็ไม่เชื่อ !
วันที่ 16 ต.ค. 2566 เอม (นามสมมติ) ลูกชายของผู้เสียหาย เล่าว่า ในช่วงต้นเดือน ก.ค. 2566 มิจฉาชีพ ได้ติดต่อหาแม่ของตนผ่านเฟซบุ๊ก ทำทีเป็นทักผิด และชวนคุยจนพัฒนาความสัมพันธ์ถึงขั้นแลกเบอร์ และไลน์คุยกัน ก่อนจะชวนลงทุน "โกลด์ฟิวเจอร์" ซึ่งแม่ของตนก็โอนเงินให้เขาเรื่อย ๆ โอนไปทั้งหมด 17 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 18 ล้านบาท มีได้เงินคืนมาประมาณ 3.4 แสนบาท
ด้าน เอื้อ (นามสมมติ) ลูกชายของผู้เสียหาย เผยว่า ในช่วงแรกคุณแม่มาปรึกษาตนเรื่องการลงทุน "โกลด์ฟิวเจอร์" ที่สามารถลงทุนไป 1 ล้านบาท จะได้ผลตอบแทนคืน 2 ล้านบาท อ้างว่ามีผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือเขาก็ลงทุนกัน แต่ตนก็มั่นใจว่ามันคือมิจฉาชีพแน่นอนได้เตือนคุณแม่ไปว่าไม่มีการลงทุนที่ไหนได้กำไรขนาดนี้หรอก แต่เราเตือนเสร็จเขาก็เงียบและไม่ได้คุยกันเรื่องนี้อีกเลย
เอม กล่าวเพิ่มว่า แม่เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป มายืมเงินตนและน้องชายคนละ 1 ล้านบาท จากปกติเขาจะเป็นคนคอยช่วยเหลือคนอื่นเสียมกกว่า ต่อมาตอนที่แม่เข้าโรงพยาบาลต้องผ่าตัด มิจฉาชีพได้ส่งดอกไม้มาเยี่ยมคุณแม่ ตนก็เริ่มเอะใจ ความมาแตกเมื่อ วันที่ 6 ต.ค. 2566 คุณแม่มายืมเงินน้องชาย 4 แสนบาท อ้างว่าจะจ่ายเงินค่าเครดิตการ์ด แต่เมื่อสืบทราบจึงได้รู้ ว่ามิจฉาชีพมาหลอกโดยอ้างว่า ขับรถชนรถยนต์หรูแล้วไม่มีประกัน
ขณะเดียวกัน ตนได้เตือนแม่ แต่เขาก็ไม่เชื่อ จนตนได้คุยกับทางมิจฉาชีพ และได้ขอหลักฐานยืนยันตัวตน และหลักฐานการลงทุนธุรกิจ แต่สุดดท้ายเขาก็ไม่ได้ส่งอะไรมาเลย แต่แม่ก็ยังไม่เชื่ออยู่ สุดท้ายต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาคุยกับคุณแม่ พร้อมกับเปิดเคสอื่น ๆ ที่โดนหลอกเช่นกันจนเขาเริ่มเชื่อในที่สุด และยอมให้เราอายัดบัญชี และไปแจ้งความ
ฟาก พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า การที่ผู้เสียหายได้เงินคืนนั้น เป็นเรื่องปกติ เป็นหนึ่งในแผนที่มิจฉาชีพทำเป็นประจำ เพื่อให้เหยื่อตายใจ ว่าการลงทุนนี้ได้เงินคืนจริง ๆ และให้เหยื่อลงทุนต่อ ทั้งนี้ในการหลอกประเภทดังกล่าวเรียกว่า "หลอกรักชวนลงทุน" มีโอกาสโดนได้ทุกเพศทุกวัย เป็นการใช้จิตวิทยาให้เหยื่อตายใจด้วยความรัก และเกิดเป็นความเชื่อใจ และทำตามที่มิจฉาชีพบอก โดยส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะเป็นแก๊งข้ามชาติ สำหรับคดีนี้พวกบัญชีม้าต่าง ๆ ก็จะโดนจับอยู่แล้ว และสืบสาวเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ใครที่เกี่ยวข้องจะถูกเรียกสอบปากคำ อย่างไรก็ตาม ต้องเตือนประชาชนว่าการลงทุนในโลกออนไลน์ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเขามีตัวตนจริงหรือไม่
ด้าน นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายที่ต้องสูญเสียเงินไปมากขนาดนี้ เตนแนะนำให้ไปยื่นเรื่องที่ศูนย์รับเรื่องของรัฐบาล อยู่ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล เพื่อเราจะได้มีการติดตามเรื่องได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จำเป็นต้องเตือนภัย ถ้าหากเจอมิจฉาชีพให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ให้ประชาชนระมัดระวังได้เลย ขณะเดียวกันให้สังเกตุรูปแบบการลงทุนที่ให้จ่ายเงิน และแบ่งคืนให้เป็นเปอร์เซ็นต์ พวกนี้ก็จะเป็นมิจฉาชีพ
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35