มีมาให้เห็นเรื่อย ๆ กับการ "หลอกรักชวนลงทุน" อย่างเช่น กรณีคุณแม่วัย 75 ถูกมิจฉาฉีพเข้ามาจีบ ก่อนจะหว่านล้อมชวนลงทุน สูญเงินไปกว่า 18 ล้าน ทำลูก ๆ กุมขมับ เตือนเท่าไหร่ก็ไม่เชื่อ !
วันที่ 16 ต.ค. 2566 เอม (นามสมมติ) ลูกชายของผู้เสียหาย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า ในช่วงต้นเดือน ก.ค. 2566 มิจฉาชีพรายดังกล่าวได้ติดต่อหาแม่ของตนผ่านเฟซบุ๊ก ทำทีเป็นทักผิด และหาเรื่องคุยจนเริ่มมีความสัมพันธ์ถึงขั้นแลกเบอร์ และไลน์คุยกัน จากนั้นมิจฉาชีพรายนี้ก็มาชักชวนให้แม่ของตนลงทุน "โกลด์ฟิวเจอร์" จนวันที่ 13 ก.ค. 2566 คุณแม่ก็เริ่มโอนเงินครั้งแรก 2 แสนบาท โดยแม่ของตนก็โอนเงินให้เขาเรื่อย ๆ ทั้งหมด 17 ครั้ง 15 บัญชีปลายทาง รวมเป็นเงินกว่า 18 ล้านบาท ซึ่งคุณแม่ก็มีได้เงินคืนมาบ้างประมาณ 3.4 แสน
ด้าน เอื้อ (นามสมมติ) ลูกชายของผู้เสียหาย เผยว่า ในช่วงแรกคุณแม่มาปรึกษาตนเรื่องการลงทุน "โกลด์ฟิวเจอร์" ที่สามารถลงทุนไป 1 ล้านบาท จะได้ผลตอบแทนคืน 2 ล้านบาท อ้างว่ามีผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือเขาก็ลงทุนกัน แต่ตนก็มั่นใจว่ามันคือมิจฉาชีพแน่นอนได้เตือนคุณแม่ไปว่าไม่มีการลงทุนที่ไหนได้กำไรขนาดนี้หรอก แต่เราเตือนเสร็จเขาก็เงียบและไม่ได้คุยกันเรื่องนี้อีกเลย
เอม กล่าวเพิ่มว่า หลังจากนั้น คุณแม่ก็มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป มาขอยืมเงินตนและน้องชายคนละ 1 ล้านบาท ซึ่งมันแปลกมากเพราะส่วนใหญ่เขาจะเป็นคนที่ให้การช่วยเหลือคนอื่นมากกว่า ตอนนั้นตนก็กังวลใจเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะถามเขายังไง เพราะ ไม่อยากให้เป็นเรื่องราวทะเลาะกันในครอบครัว เลยโอนเงินให้เขาไปไม่ได้คิดอะไร ต่อมา คุณแม่ได้เข้ารับการผ่าตัดหัวเข่าซึ่งตัวมิจฉาชีพได้ส่งดอกไม้มาเยี่ยมคุณแม่ ตนเองก็เริ่มเอะใจ จนกระทั่งวันที่ 6 ต.ค. 2566 คุณแม่มายืมเงินน้องชาย 4 แสนบาท และบอกว่าต้องการใช้ด่วน อ้างว่า จะจ่ายเงินค่าเครดิตการ์ด แต่เมื่อสืบทราบจึงได้รู้ว่าคุณแม่ถูกมิจฉาชีพหลอกให้เอาเงินไปให้เขา อ้างว่า ขับรถชนรถยนต์หรูแล้วไม่มีประกัน เหตุการณ์นี้ทำให้ความแตก และเริ่มเตือนคุณแม่ว่าเขาเป็นมิจฉาชีพ
ขณะเดียวกัน ได้เตือนคุณแม่แล้วเขาไม่เชื่อเลยว่าถูกมิจฉาชีพหลอก จนคุณแม่ได้โทรหามิจฉาชีพเพื่อให้คุยกับตน เมื่อตนได้คุยจึงได้ขอหลักฐานยืนยันการลงทุน และถามไถ่ว่าเขาเป็นใคร มีตัวตนจริงหรือไม่ ได้คุยขอสำเนาบัตรประชาชนของเขาเพื่อยืนยัน แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ส่งอะไรกลับมาเลย แต่คุณแม่ก็ยังไม่เชื่อ ได้ติดต่อหาญาติต่าง ๆ มาช่วยคุยเขาก็ยังไม่เชื่อ ซึ่งตรงนี้ก็ได้ทราบว่าเขาไปหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้องด้วยหลายคน สุดท้ายต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาคุยกับคุณแม่ พร้อมกับเปิดเคสอื่น ๆ ที่โดนหลอกเช่นกันจนเขาเริ่มเชื่อในที่สุด และยอมให้เราอายัดบัญชี และไปแจ้งความ อย่างไรก็ดี ตนได้ติดต่อไปที่ร้านดอกไม้ที่มิจฉาชีพสั่งมาให้คุณแม่ เพื่อขอข้อมูลว่าเขาเป็นใคร แต่ทางร้านไม่ได้ให้ข้อมูลมา อ้างกฎหมาย PDPA
ฟาก พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า การที่ผู้เสียหายได้เงินคืนนั้น เป็นเรื่องปกติ เป็นหนึ่งในแผนที่มิจฉาชีพทำเป็นประจำ เพื่อให้เหยื่อตายใจ ว่าการลงทุนนี้ได้เงินคืนจริง ๆ และให้เหยื่อลงทุนต่อ ทั้งนี้ในการหลอกประเภทดังกล่าวเรียกว่า "หลอกรักชวนลงทุน" มีโอกาสโดนได้ทุกเพศทุกวัย เป็นการใช้จิตวิทยาให้เหยื่อตายใจด้วยความรัก และเกิดเป็นความเชื่อใจ และทำตามที่มิจฉาชีพบอก ซึ่งเขาจะมีการล็อกเป้าบุคคลที่สร้างผลประโยชน์ให้เขาได้ แลกส่วนใหญ่ผู้ก่อเหตุจะเป็นแก๊งข้ามชาติ เป็นคนจีน โดยมีคนไทยร่วมอยู่ด้วย และใช้บัญชีม้า อย่างไรก็ตาม ต้องเตือนประชาชนว่าการลงทุนในโลกออนไลน์ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเขามีตัวตนจริงหรือไม่
สำหรับคดีนี้ ตนจะช่วยติดตามให้อีกแรงด้วย ขณะเดียวกันพวกบัญชีม้าต่าง ๆ ก็จะโดนจับอยู่แล้วมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 แสนบาท ทว่าเส้นทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้าเหล่านี้ ก็จะโดนเรียกสอบปากคำทั้งหมด ใครมีหลักฐานอะไรก็เอามาชี้แจง ส่วนในเรื่องร้านดอกไม้ เขาอาจจะมีความเกรงกลัวกฎหมาย PDPA จริง ๆ แต่ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะพนักงานสอบสวนจะจัดการทำให้อยู่ในสำนวนแน่นอน
ด้าน นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียหายที่ต้องสูญเสียเงินไปมากขนาดนี้ เราจะพยายามติดตามเรื่องให้ ทั้งนี้ตนแนะนำให้ไปยื่นเรื่องที่ศูนย์รับเรื่องของรัฐบาล อยู่ตรงข้ามกับทำเนียบรัฐบาล เพื่อเราจะได้มีการติดตามเรื่องได้โดยตรง อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้จำเป็นต้องเตือนภัย ถ้าหากเจอมิจฉาชีพให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว ให้ประชาชนระมัดระวังได้เลย ขณะเดียวกันให้สังเกตุรูปแบบการลงทุนที่ให้จ่ายเงิน และแบ่งคืนให้เป็นเปอร์เซ็นต์ พวกนี้ก็จะเป็นมิจฉาชีพ
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35