logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

15 คนไทย เดินทางถึงแผ่นดินเกิดแล้ว ด้านอิสราเอล พร้อมเยียวยาผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ !

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เข้าสู่วันที่ 6 หลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล วันนี้ ถือเป็นวันแรกที่มีการอพยพคนไทยชุดแรกมาถึงประเทศ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

198 ครั้ง
|
12 ต.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เข้าสู่วันที่ 6 หลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล วันนี้ ถือเป็นวันแรกที่มีการอพยพคนไทยชุดแรกมาถึงประเทศไทย จำนวน 15 คน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผู้บาดเจ็บจากการถูกโจมตี
 
15 คนไทยในอิสราเอล เดินทางถึงแผ่นดินเกิด
 
คนไทยชุดแรก 15 คน เดินทางด้วยสายการบินแอลอัล อิสราเอล แอร์ไลน์ ออกเดินทางจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เวลา 22.55 น. ของเมื่อคืนนี้ และมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลาประมาณ 11.00 น. โดยมีญาติ ๆ ทั้ง 15 คน มารอรับ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชิญญาติของแรงงานทั้ง 15 คน มายืนรอด้านหน้าทางออก
 
ต่อมา เจ้าหน้าที่นำแรงงานไทยทั้ง 15 คน ซึ่งมี 2 คน ที่บาดเจ็บ ต้องนั่งรถวีลแชร์ออกมายังจุดที่ญาติรอ โดยมี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้เดินนำแรงงานไทยทั้ง 15 คน ออกมา
 
แรงงานทั้ง 15 คน ประกอบด้วย นายสมมา แซ่จ๊ะ, นายจิรายุ สุกใส, นายวิมาน วงศ์จำปา, นายกรัชกร พุทธสอน, นายอนุชา บุญญะสาร, นายกิตติพงษ์ ไชยโก, นายสมบูรณ์ แซ่ว่าง, นายจันทร์ดี แซ่ลี, นายสุพิพัฒน์ กงแก้ว, นายสมพร คาระบุตร, นายธนศักดิ์ จันทร์ดำ, นายสถิตย์ พรมอนารถ, นายไกรสร บัวฝาย, นายณรงค์ชัย ลีละครจันทร์, และ นายวิชัย คำศรี
 
นายสมมา แซ่จ๊ะ คนไทยที่ถูกยิงที่หัวเข่าซ้าย กล่าวว่า ดีใจมากที่ช่วยให้คนบาดเจ็บได้กลับมาชุดแรก โดยวันเกิดเหตุ ตอนเช้ามีการสู้รบกันรุนแรง นายจ้างจึงพาไปที่บ้านนายจ้าง พอตอนเที่ยงนายจ้างบอกว่าเหตุการณ์สงบแล้ว เดี๋ยวพากลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ทานข้าว และพากลับไปบ้านนายจ้าง มีคนบนรถ 7-8 คน ระหว่างทางมีเสียงปืน ตนโดนยิงที่หัวเข่า จึงให้ทุกคนหมอบในรถ และให้นายจ้างขับรถหนี แต่กลุ่มฮามาสยังไล่ยิง ซึ่งทำให้โดนยิง 4 คน ตอนนั้นไม่คิดว่าจะรอดชีวิต
 
คนไทยที่อยู่ในเหตุการณ์ท่านนี้ เล่าเพิ่มเติมว่า ตอนนี้ศพของแรงงานไทยและชาติอื่น ๆ ที่เสียชีวิต ยังถูกเก็บไว้ในห้องเย็น ยังไม่เคลื่อนย้ายออกมา เพื่อรอการพิสูจน์ตัวตน เพราะตอนเกิดเหตุไม่มีใครพกพาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวออกมาด้วย
 
รมว.แรงงาน เผยอิสราเอล พร้อมเยียวยาผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ
 
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน บอกว่า มีคนไทยที่บาดเจ็บเดินทางมาชุดแรก 4 คน ส่วนการเยียวยาผู้บาดเจ็บ ทางรัฐบาลอิสราเอลจะมีการดูแล ถ้าได้รับบาดเจ็บเกินกว่า 10 แต่ไม่เกิน 19 จะได้รับการเยียวยาจากทางรัฐบาลอิสราเอลครั้งเดียว ประมาณ 1.4 ล้านบาท ถ้าบาดเจ็บเกินกว่า 20 จะดูแลตลอดชีวิต โดยเรื่องกี่เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเงินเดือนที่ทำงานที่อิสราเอล
 
ในส่วนของผู้เสียชีวิต ยังไม่แน่ใจมีจำนวนเท่าไร ซึ่งทางการอิสราเอลก็จะดูแลเยียวยา แต่ไม่มีเงินก้อนให้ จะเยียวยาภรรยาและบุตร ภรรยาจะได้เงินตลอดระยะเวลาที่ยังไม่แต่งงานใหม่ จะเยียวยาเดือนละประมาณ 30,000 บาท ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนบุตรจะดูแลจนกระทั่งอายุ 18 ปี ให้เงินเดือนประมาณ 10,000-15,000 บาท ซึ่งทางกระทรวงแรงงานได้ประสานรัฐบาลอิสราเอลให้เข้าใจตรงกันในส่วนนี้
 
ส่วนในกระทรวงแรงงานไทย คนที่ไปทำงาน บุคคลที่เสียชีวิต จะดูแล 40,000 บาท ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เยียวยา 15,000 บาท ส่วนค่าทำศพ 40,000 บาท ส่วนอย่างอื่นค่อยว่ากัน รัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไร คงต้องรอความชัดเจนหลังจากนี้
 
แม่ดีใจ ตื่นเต้นนอนไม่หลับ ลูกถูกยิง ได้กลับบ้านชุดแรก จ.พะเยา
 
แม่ของแรงงานไทยที่บาดเจ็บจากการถูกยิง ดีใจที่ลูกได้กลับเป็นชุดแรก นางสุพัตรา พุทธสอน แม่ของ นายกรัชกร พุทธสอน แรงงานไทยที่ถูกยิงหัวเข่า บอกกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เข้าไปให้กำลังใจ ว่า รู้สึกดีใจและตื่นเต้นมาก จนนอนไม่หลับ ที่ลูกชายได้เดินทางจากอิสราเอล ใจจดใจจ่อ อยากพบลูก และฝากขอบคุณหน่วยงานที่ดูแล ลูกของตนเองจนกลับถึงประเทศไทย
 
แม่ยังเปิดคลิปลูกชาย ที่ฝากความรู้สึกผ่านวิดีโอก่อนขึ้นเครื่องบินให้ดูด้วย ซึ่งนายกรัชกรฝากขอบคุณภาครัฐและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วยเหลือตนเอง จนได้กลับสู่ประเทศไทยในวันนี้
 
พ่อแรงงานไทยชุดแรก ดีใจเหมือนถูกรางวัลที่ 1 จ.อุดรธานี
 
ญาติของแรงงานไทยที่ได้เดินทางกลับบ้าน บางคนบอกว่าเหมือนถูกรางวัลที่ 1 เช่น นายสิงห์ทอง บัวผาย ชาวตำบลจอมศรี อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพ่อของ นายไกรสร บัวผาย หนึ่งในแรงงานไทยที่ได้เดินทางกลับมาชุดแรก บอกว่า ให้ภรรยาและลูกสะใภ้ไปรับลูก ส่วนตนรอรับที่บ้าน ตอนรู้ข่าวว่าลูกจะได้เดินทางกลับชุดแรก ดีใจมาก เหมือนถูกรางวัลที่ 1 เพราะว่าหลังเหตุการณ์บุกโจมตี 1 วัน ลูกชายติดต่อกลับมาที่บ้าน บอกว่ามีกองกำลังติดอาวุธเข้ามาเคาะประตูห้องพักคนงานไทย ถ้าห้องไหนเปิดก็ถูกยิงตาย แม้จะบอกว่าเป็นคนไทยก็ถูกยิงไม่เลือก ส่วนลูกชายอยู่ในห้องไม่ยอมออกมา รอจนทหารอิสราเอลเข้ามาช่วยเหลือ
 
แรงงานไทย วอนทางการช่วยพาออกจากพื้นที่สีแดง จ.มหาสารคาม
 
ขณะเดียวกัน ยังมีแรงงานไทยที่อยู่ในพื้นที่สีแดง ใกล้กับฉนวนกาซาแค่ 5 กิโลเมตร ร้องขอความช่วยเหลือ ให้พาพวกเขาออกจากพื้นที่อันตรายด้วย อย่างกรณีของสามีของ นางสาวสุจิตรา ชาวบ้านในตำบลกุดปลาดุก อำเภอชื่นชม จังหวัดมหาสารคาม ที่ยังติดอยู่ในฟาร์มเกษตร ในเมืองยาคินิ ห่างจากฉนวนกาซาประมาณ 5 กิโลเมตร 
 
นางสาวอิงอร นายอำเภอชื่นชม ไปเยี่ยมให้กำลังใจนางสาวสุจิตราเพื่อประสานความช่วยเหลือ ซึ่งนางสาวสุจิตราบอกว่า สามีคือ นายวิทยา มหาวงค์ อยากออกจากพื้นที่ตรงนั้น เธอจึงส่งอีเมลไปแจ้งสถานทูตไทย กรุงเทลอาวีฟ ขอให้ช่วยเหลือ แต่ได้รับการแจ้งกลับว่ายังไม่ใช่พื้นที่เร่งด่วน
 
ระหว่างนั้น นายวิทยาวิดีโอคอลมาหาภรรยา จึงได้คุยกับนายอำเภอและผู้สื่อข่าวที่สอบถามสถานการณ์ ซึ่งนายวิทยาบอกว่า ตอนนี้ยังมีการสู้รบกันอยู่ มีเสียงปืน เสียงจรวด เสียงระเบิดดังตลอดเวลา เป็นแบบนี้มา 4-5 วัน แล้ว ยิ่งวันแรกที่กลุ่มฮามาสเข้ามา ก็ตกใจมากเพราะกราดยิงไปทั่ว
 
ส่วนอาหารการกินก็หายาก ไม่ค่อยจะมี ดีที่นายจ้างเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไข่ ผลไม้มาให้ ที่อยู่ด้วยกัน มีคนไทย 5 คน ตนแจ้งไปยังสถานทูตไทยในอิสราเอลแล้ว แต่แจ้งกลับมาว่ากำลังทยอยช่วย ให้รอก่อน ตอนนี้จะไปไหนก็ไม่ได้ เพราะทหารห้ามรถวิ่ง มีแต่รถทหารวิ่งลาดตระเวนได้ ส่วนวันนี้นายจ้างยังให้ไปทำงาน เก็บแตง เก็บมะเขือเทศ พวกตนทั้งหมดอยากกลับประเทศไทยกันแล้ว
 
แม่โพสต์ตามหาลูก ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันแรกฮามาสโจมตี จ.บุรีรัมย์
 
มีหลายรายที่ตอนนี้ ยังไม่สามารถติดต่อญาติที่ทำงานในอิสราเอลได้ อย่างเช่น กรณีของ นางเอี้ยง เสไธสง ชาวตำบลบ้านยาง อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นแม่ของ นายอาทิตย์ เชื้อทอง อายุ 32 ปี แรงงานไทยในอิสราเอล ยังเฝ้าติดตามข่าวจากหลายสำนักข่าว และคอยลุ้นว่าจะได้ยินชื่อลูกชาย หลังจากติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันแรกที่กลุ่มฮามาสโจมตี เมื่อ 5 วันก่อน
 
นางเอี้ยงบอกว่า ลูกชายไปทำงานได้ 5 ปี หลังจากเกิดเหตุการณ์ ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้เลย ไม่มีเพื่อนคนใดแจ้งมาว่าอยู่ที่ไหน ทำให้ครอบครัวกังวล เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดบุรีรัมย์ และโพสต์เฟซบุ๊กตามหาลูกชายที่หายตัวไปในสงคราม
 
ส่วนที่มีข่าวว่า กองกำลังอิสราเอลสามารถช่วยผู้สูญหายได้ 30 คน ซึ่งมีคนไทย 14 คน พยายามดูในภาพ แต่ยังไม่เห็นมีลูกชายของตัวเองอยู่ในนั้น ตอนนี้อยากติดต่อลูกให้ได้ อยากให้ปลอดภัย และกลับมาประเทศไทย 
 
แม่ตามหาลูก เพื่อนเผยบ้านที่พักลูกไม่มีใครรอด จ.ลำปาง
 
ที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง นางแก้ว อายุ 52 ปี ยังคงพยายามติดตามข่าวคราวของลูกชาย ชื่อ ดีม อายุ 32 ปี ซึ่งทำงานอยู่ทางภาคใต้ของอิสราเอล ติดกับประเทศจอร์แดน โดยนางแก้วติดต่อลูกชายไม่ได้ตั้งแต่วันแรกของการถูกโจมตี ทักไลน์ไปแต่ลูกไม่อ่าน
 
ต่อมาเมื่อวานซืน ได้รับข่าวจากเพื่อนของลูกชายที่ทำงานอยู่ใกล้กัน แจ้งว่าบ้านพักที่ลูกชายพักอยู่รวมทั้งหมด 10 กว่าคน ถูกกลุ่มฮามาสบุกโจมตี ไม่มีใครรอดสักคน
 
นางแก้วเล่าว่า ลูกชายไปทำงานที่อิสราเอล ครบสัญญา 5 ปี แต่นายจ้างขอให้ต่อสัญญาอีก 3 เดือน เพื่อสอนงานคนที่เข้ามาใหม่ จะครบกำหนดกลับประเทศไทยในเดือนพฤศจิกายนนี้ เหลือเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น แต่มาเกิดเหตุสงครามขึ้นเสียก่อน
 
รุดเยี่ยมญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ ชาวสกลนคร จ.สกลนคร
 
ส่วนที่จังหวัดสกลนคร มีแรงงานไทยทั้งที่เสียชีวิต และบาดเจ็บจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส
 
วันนี้ นายชานน วาสิกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร นำผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเยี่ยมปลอบขวัญ และแสดงความเสียใจกับ นายมนตรี และ นางคำมูล เพียเอีย พ่อแม่ของ นายศรรษวรรต เพียเอีย อายุ 27 ปี แรงงานชาวตำบลคำสะอาด อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ซึ่งเสียชีวิตจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส 
 
นอกจากนี้ ไปเยี่ยมปลอบขวัญครอบครัวของ นายมิตรชัย สารบัน อายุ 32 ปี ชาวตำบลโพนสูง อำเภอสว่างแดนดิน ซึ่งเป็นแรงงานที่บาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลโซโรกาในอิสราเอล ซึ่งอาการดีขึ้น สามารถสื่อสารกับภรรยาและครอบครัวได้ นางสาวศรีวรรณ ป้องคำรส ภรรยานายมิตรชัย บอกว่า สามีไปทำงานตั้งแต่ปี 2561 ในสวนส้ม จะครบสัญญาในเดือนมกราคม 2567 แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ สามีแจ้งยืนยันขอกลับประเทศไทย
 
ส่วนยอดคนไทยที่เสียชีวิตและยังสูญหายในขณะนี้ วันนี้ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา กรณีการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล โดยยืนยัน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และทำทุกวิถีทางอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ 
 
แผน 2 ใช้เครื่องบินทหารรับคนไทยจุดเสี่ยง พักดูไบ
 
ตอนนี้มีคนไทย 6,000 คน ที่ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กลับไทย โดยมีแผนใหม่ที่ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าจะมีแผน 2 คือ จะใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศ ในการบินลำเลียงคนไทยออกจากจุดเสี่ยงมาไว้ประเทศอื่นก่อน และที่คาดการณ์ไว้ คือ ดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นค่อยลำเลียงกลับบ้าน และคาดว่าจะดำเนินการได้เลย
 
ขณะที่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการอพยพคนไทยในอิสราเอล ว่า เตรียมความพร้อมด้านเที่ยวบิน ขณะนี้มีสายการบินของไทยอย่างน้อย 3 สายการบิน ที่มีความพร้อมสำหรับปฏิบัติการรับคนไทยกลับประเทศ ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย การบินไทย และนกแอร์ ที่จะสามารถเดินทางไปรับได้ภายใน 3 วัน เมื่อกระทรวงต่างประเทศมีการกำหนดแผนและสนามบินที่จะใช้เป็นจุดรับคนไทยเป็นที่ชัดเจนแล้ว
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง