กรรมติดจรวด ! ลักเงินผ้าป่าหน้าร้านค้า รถเกิดสตาร์ตไม่ติด จ.นนทบุรี

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - คำว่า กรรมติดจรวด หลายคนเชื่อว่ามีจริง อย่างหัวขโมยรายนี้ ไปก่อเหตุลักเงินผ้าป่าที่วางอยู่หน้าร้านค้า และผลปรากฏว่า ช่วงที่จะหลบหนี รถจักรยานยนต์เกิดสตาร์ตไม่ติด

 

บาปทันตา ! ลักเงินผ้าป่า เกิดรถสตาร์ทไม่ติด จ.นนทบุรี

 

วงจรปิดบันทึกภาพ ชายวัยรุ่น ขี่รถจักรยานต์ เข้ามาจอดหน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่ง จากนั้นก็ถอดหมวกกันน็อก เผยภาพใบหน้าชัดเจน ก่อนทำทีมายืนอยู่หน้าร้านค้า และพอสบโอกาสเห็นไม่มีใครอยู่ในระแวกนั้น ชายรายนี้ก็เอื้อมมือไปหยิบเงินจากต้นผ้าป่า ที่เจ้าของร้านนำมาวางไว้ที่หน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าที่ผ่านไปมา ได้ร่วมทำบุญ

 

แต่ผลปรากฎว่า คนร้ายไม่ได้หยิบแค่ครั้งเดียว แต่หยิบถึง 4-5 ครั้งติดต่อกัน ก่อนค่อย ๆ เรียงใส่กระเป๋าสตางค์ของตัวเองอย่างใจเย็น และเดินไปหยิบหมวกกันน็อก เหมือนจะไปแล้ว แต่ยังไม่หนำใจ ขอเดินกลับมาหยิบเงินอีก ใบ สองใบ และคราวนี้พอจะหนี เจ้าตัวก็พยายามเข็นรถ เพื่อจะสตาร์ต แต่สตาร์ตเท่าไหร่ ก็สตาร์ตไม่ติด คนร้ายจึงรีบลงรถ และเข็นย้อนกลับไปทางเดิม ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา (10 ต.ค.)

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบเจ้าของร้าน คือ นายเพทาย สุธารามงคล อายุ 36 ปี บอกว่า เมื่อวานนี้ ช่วงเกิดเหตุ ตนเองเข้าห้องน้ำพอดี จึงทำให้มีจังหวะที่คนร้ายก่อเหตุได้อย่างใจเย็น ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่ได้เอะใจ ว่าเงินหายไป แต่พอไปมองดูดี ๆ ปรากฏว่า บนต้นผ้าป่า เหลือแต่ไม้ปักอยู่ ส่วนเงินหายไปจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่า ประมาณ 300 บาท มีทั้งแบงก์ 100 และแบงก์ 20 จึงรีบไปเปิดกล้องวงจรปิดดู ก็พบกับพฤติกรรมของคนร้ายทั้งหมด ส่วนที่คนร้ายสตาร์ตรถไม่ติด ไม่รู้ว่าเกิดจากบาปทันตา หรือ กรรมติดจรวด หรืออาถรรพ์อะไรหรือเปล่า เบื้องต้นได้นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.ไทรน้อย แล้ว เพื่อให้เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

 

คนร้ายก่อเหตุงัดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญจนตู้พัง จ.ชลบุรี

 

ส่วนอีกเหตุการณ์ เกิดขึ้นที่ จังหวัดชลบุรี อีกแล้ว คนร้ายก่อเหตุงัดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จนตู้พังเสียหาย แต่เคสนี้ก่อเหตุคนเดียว

 

วงจรปิดจับภาพคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน แล้วเดินปรี่ตรงเข้าไปในร้านซักผ้า จากนั้นก็ไปด้อม ๆ มอง ๆ ที่หน้าเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญอยู่ครู่หนึ่ง และพอเห็นว่าไม่มีลูกค้า คนร้ายก็หยิบคีมตัวใหญ่ที่พกมา ก่อนพยายามจะตัดที่คล้องกุญแจ ซึ่งใช้เวลาอยู่ประมาณ 2-3 นาที ก่อนที่จู่ ๆ จะมีลูกค้าคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์มาใช้บริการทันที เมื่อคนร้ายเห็นก็รีบหนี ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากร้านทันที ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวานที่ผ่านมา (10 ต.ค.)

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านบริการซักผ้าตู้หยอดเหรียญดังกล่าว พบกับ นางปณัฐยา ฮกเทียน อายุ 57 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลา 18.00 น. ตนเองจึงได้ออกไปทานข้าว ซึ่งคนร้ายได้ใช้ช่วงจังหวะนั้น ก่อเหตุลงมือ โชคดีที่มีลูกค้ามาใช้บริการซักผ้าพอดี จึงทำให้คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินอะไร เบื้องต้นแจ้งความไว้ที่ สภ. ดอนหัวฬ่อ แล้ว

 

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้เร่งให้ทางชุดสืบสวนเข้ามาติดตามหาคนร้ายโดยเร็ว พร้อมฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการร้านซักผ้า ว่าช่วงนี้ให้ระมัดระวังอย่างหนัก และควรหมั่นเก็บเงินในตู้หยอดเหรียญออก หรือที่สำคัญ ทำกรงเหล็กป้องกันตู้หยอดเหรียญเลย