เจ้าของรถหรูร้องจ๊าก ถูกเซลตื๊อสุดฤทธิ์ “ให้รีบมารับรถ” ที่แท้ ราคาลดฮวบ 2.6 แสน !

รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมมาแรงในตอนนี้ ทว่า กลับมีดรามาเสียแล้ว หลังกลุ่มผู้เสียหาย ออกมาร้องสื่อ ถูกเซลขายรถสุดตื๊อ คะยั้นคะยออให้รีบรับรถ สุดท้าย รับมาไม่ทันไร ประกาศลดราคาทันควันกว่า 2.6 แสน เสียหายกันอื้อกว่า 100 ราย !

 

 

            วันที่ 9 ต.ค. 2566 ธนกฤต ดุษฎีพลภัทร์ (ปกป้อง) เจ้าของรถ ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เมือวันที่ 11 ก.ย. 2566 ตนได้เข้าไปจองรถที่ศูนย์ฯรถยนต์ไฟฟ้าหรู ในราคา 1,959,000 บาท และตนได้เลือกวันรับรถคือวันที่ 17 ต.ค. 2566 เนื่องจากตนได้ไปดูฤกษ์รับรถมา จากนั้น 27 ก.ย. 2566 เซลโทรมาแจ้งว่ามีรถหลุดจอง สามารถรับรถได้วันที่ 29 ก.ย. 2566 แต่ตนก็ยืนยันจะรับวันที่ 17 ต.ค. เหมือนเดิม เพราะว่า มีการเตรียมฤกษ์ไว้แล้ว และมีการวางแผนการเงิน เงินดาวน์รถ เงินค่างวดเอาไว้แล้วด้วย ขณะเดียวกันตลอด 50 นาที พนักงานโทรหาตนถึง 7 สาย เร่งคะยั้นคะยอให้ตนรีบรับรถ จนตัดสินใจรับรถ สุดท้ายวันที่ 29 ก.ย. 2566 เขาก็นำรถมาส่งถึงหน้าบ้าน 

 

            หลังจากนั้นใช้งานรถคันดังกล่าวมาได้ไม่เกิน 1 สัปดาห์ รถก็มีปัญหา กล้องดับ ระบบ Autopilot ไม่ทำงาน ระบบการแสดงผลรถรอบข้างไม่ทำงาน และ ฟีเจอร์การขับรถออกจากช่องจราจรก็ไม่พร้อมใช้งาน ไม่พอแค่นั้น วันที่ 3 ต.ค. 2566 ตนก็มาได้ยินข่าวจากบริษัทเจ้าของแบรนด์รถคันนี้ ประกาศลดราคารถรุ่นดังกล่าว 2.6 แสน เราถึงกับคิดได้ ว่าทำไมถึงเร่งตนให้รับรถ ซึ่งจากตอนแรกคิดว่าเซลเขาขยันทำงาน 

 

            ทั้งนี้หลังรู้เรื่องลดราคา ได้ติดต่อไปหาเซล เซลบอกว่าเขาไม่รู้มาก่อนว่ารถจะมีการลดราคา เขารู้พร้อมกับเรา ส่วนตัวตน ตนไม่เชื่อที่เซลบอก เพราะ เขาเป็นบริษัทใหญ่เขาน่าจะรู้อะไรมาก่อน และเรายังมารู้ทีหลังว่า รถคันดังกล่าวที่ตนรับมาไม่ใช่คันเดียวที่เป็นรถหลุดจองเหมือนที่เซลแจ้ง สำหรับความเสียหาย ตอนนี้ในกลุ่มมีผู้เสียหายเกือบ 100 คน ซึ่งทุกคนรู้สึกแย่เหมือนกันทุกคน ส่วนตัวตนตอนนี้อยากให้เขาออกมารับผิดชอบชดใช้ ไม่ว่าจะเป็นเงินส่วนต่าง 2.6 แสน หรือการชาร์จไฟฟรีจากตู้ชาร์จของเขา หรือโปรแกรมเสริมต่าง ๆ ของรถ ไม่ต้องชดใช้เป็นเงินสดแก่เราก็ได้ 

 

 

            ด้าน ณัชชา ศุภอุดมฤกษ์ (ตุ๊กติ๊ก) เจ้าของรถ เล่าว่า ตนได้ไปจองรถที่ศูนย์ฯเมื่อ 21 ส.ค. 2566 ในราคา 2,259,000 บาท โดยเซลแจ้งว่าต้องจองรถล่วงหน้า 3 เดือน ด้วยความที่อยากได้ให้ทันวันเกิดวันที่ 29 พ.ย. จึงได้จองล่วงหน้าไป แต่ปรากฎว่าภายใน 2 วัน ในวันที่ 23 ส.ค. 2566 มีอีเมลแจ้งว่าได้รถแล้ว วันที่ 4 ก.ย. 2566 แฟนของตนก็ได้นำเงินไปที่ศูนย์รถเพื่อวางเงินดาวน์ในจำนวน 1,251,500 บาท ส่วนวันที่เป็นจุดสำคัญคือวันที่ 8 ก.ย. 2566 แฟนของตนได้โทรไปคุยกับเซลเรื่องวันรับรถ และได้ขอเลื่อนวันรับรถเป็นเดือน ต.ค. 2566 จากของเดิมที่เซลแจ้งว่าจะได้รถวันที่ 21 ก.ย. 2566 ทว่าเซลกลับไม่ให้เลื่อน แจ้งว่าต้องรับรถภายในวันที่ 25-29 ก.ย. 2566 หลังจากนี้ไม่ได้  คุยยังไงเขาก็ไม่ยอม

 

 

            จนแฟนต้องมากล่อมให้เรารับรถเร็วขึ้นหน่อย สุดท้ายไปจบที่รับรถวันที่ 2 ต.ค. 2566 และเป็นเหตุให้ทะเลาะกับแฟนมาจนถึงตอนนี้ ทั้งนี้หลังจากตกลงวันรับรถกับเซลได้ วันที่ 26 ก.ย. 2566 เขามีการให้ตนเซ็นสัญญารับรถก่อนวันรับรถจริง โดยระบุในสัญญาประมาณว่า วันรับรถจริงคือวันที่ 25 ก.ย. 2566 แต่จนถึงวันที่ 2 ต.ค. 2566 คือฝากรถไว้กับศูนย์ และถ้าไม่มารับรถในวันที่ 2 ต.ค. 2566 หากเกิดความเสียหายจะไม่รับผิดชอบ สุดท้ายก็ไปรับรถวันที่ 2 ต.ค. 2566 ต่อมาวันที่ 3 ต.ค. 2566 เพื่อนก็โทรมาบอกว่ารถแบรนด์ดังกล่าวที่ตนซื้อ เขาประกาศลดราคา 2.6 แสนบาท 

 

 

            ฟาก รณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ความเห็นว่า เคสนี้ ถ้าเรามีการพิสูจน์ได้ว่าเซลที่มีคะยั้นคะยอให้ผู้เสียหายเร่งรับรถก่อนวันประกาศลดราคา พวกเขาไม่ทราบเรื่องการประกาศลดราคามาก่อน อันนั้นพวกเขาก็สุจริต แต่ถ้าเขาทราบมาก่อน มีการได้รับอีเมล จดหมายแจ้งมาก่อน อันนี้จะเข้าข่ายปกปิดข้อเท็จจริงกับลูกค้า จะกลายเป็นฉ้อโกง และตนก็ยังมีความสงสัยว่าส่วนต่าง 2.6 แสน ของรถแแต่ละคันมันไปที่ไหน และยังสงสัยอีกว่าพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าจะมีการประกาศลดราคา ซึ่งถ้าพิสูจน์ได้ ยังมีโอกาสที่จะนำรถคืนศูนย์ไปได้อยู่ 

 

            ด้าน ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ตอนนี้ทาง สคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนเคสลักษณะนี้ประมาณ 35 ราย ทว่าบางรายเพิ่งซื้อมาไม่นาน บางรายซื้อมาเป็นเดือนแล้ว ต้องมาดูข้อเท็จจริงของแต่ละเคส สำหรับการดำเนินการของ สคบ.เราจะดูว่าการซื้อรถเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ถ้าเข้าข่าย เรารับเรื่องแล้ว ก็จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะเชิญทางผู้ประกอบการมาให้ข้อเท็จจริง รวมถึงการเจรจาไกล่เกลี่ยของทั้ง 2 ฝ่าย โดย สคบ.เป็นคนกลาง ขณะเดียวกันตอนนี้ สคบ.กำลังเร่งรัดจัดการเนื่องจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาหลายราย และเป็นคดีที่ประชาชนสนใจ ซึ่งวันที่ 10 ต.ค. 2566 ทางผู้บริหารของฝ่ายผู้ประกอบการจะมาพบกับ สคบ.