logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

ตำรวจ เผย ! 3 ปี ปืน “แบลงก์กัน” คดีพุ่งเท่าตัว เหตุหาซื้อ-ดัดแปลงง่าย

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เป็นที่เด็กชายอายุ 14 ปี ใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นปืนแบลงก์กัน ที่ถูกดัดแปลงให้ใส่กระสุนปืนจริง ใช้ยิ ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

272 ครั้ง
|
04 ต.ค. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เป็นที่เด็กชายอายุ 14 ปี ใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นปืนแบลงก์กัน ที่ถูกดัดแปลงให้ใส่กระสุนปืนจริง ใช้ยิงได้เหมือนกับปืนจริง ซึ่งตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง ระบุว่า นับจากปี 2563 เป็นต้นมา สถิติคดีปืนแบลงก์กัน เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี เฉพาะปี 2565 ที่ผ่านมา มีคดีปืนแบลงก์กันมากถึง 1,500 คดี จำนวนปืนมากถึง 3,500 กระบอก
 
เผย 3 ปี ปืน แบลงค์กัน คดีพุ่งเท่าตัว เหตุหาซื้อ-ดัดแปลงง่าย
 
ปืนที่เด็กชายอายุ 14 ปี ใช้ก่อเหตุยิงในสยามพารากอน ยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นปืนแบลงก์กันที่นำมาเปลี่ยนลำกล้องปืน ให้สามารถใส่กระสุนจริง ยิงได้เหมือนปืนจริง โดยผู้ก่อเหตุอายุ 14 ปี ยอมรับกับตำรวจที่สอบถามตอนจับกุมได้ใหม่ ๆ ว่า สั่งซื้อปืนแบลงก์กันแบบที่เปลี่ยนลำกล้องสำเร็จรูปพร้อมยิง มาจากอินเทอร์เน็ต
 
พลตำรวจเอก ธนงศักดิ์ บุญมาก ผู้กำกับการกลุ่มงานตรวจอาวุธปืนและเครื่องกระสุน กองพิสูจน์หลักฐานกลาง อธิบายว่า ปืนแบลงก์กัน เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน มักใช้ในการแสดงยิงให้เกิดเสียง หรือยิงปล่อยตัวนักกรีฑา กระสุนที่ใช้กับแบลงก์กัน เป็นกระสุนที่ยิงให้เกิดเสียง ไม่มีหัวกระสุน เพราะว่าปืนแบลงก์กัน ไม่สามารถใช้ยิงกระสุนปืนจริงที่มีหัวกระสุนได้ ส่วนลำกล้องเดิมที่ติดมากับแบลงก์กัน ไม่มีรูให้หัวกระสุนออก
 
แต่ที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุในปัจจุบัน เพราะมีการดัดแปลง เปลี่ยนลำกล้องปืนให้มีการทนต่อแรงระเบิด และดัดแปลงซองบรรจุกระสุน หรือแม็กกาซีน ให้ใช้ได้เหมือนปืนจริง ส่วนกลไกอื่นใช้ได้เหมือนปืนจริง โดยปืนแบลงก์กันเมื่อดัดแปลงแล้ว ใช้ได้เหมือนปืนจริงทุกอย่าง ส่วนที่ยังไม่ดัดแปลงเปลี่ยนลำกล้องปืน ก็ใช่ว่าจะไม่มีอันตราย เพราะเคยมีคนเคยนำมาจ่อหัวตัวเองยิง ด้วยคิดว่าไม่ใช่กระสุนจริง มีแค่เสียง แต่แรงอัดระเบิดของดินปืนในระยะประชิดแบบนั้น ก็ทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสาหัสได้
 
ขณะที่ พลตำรวจตรี วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง บอกว่า จากการเก็บสถิติของตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง พบว่าเฉพาะปี 2565 มีคดีปืนแบลงก์กันประมาณ 1,500 คดี จำนวนปืนกว่า 3,500 กระบอก และถ้านับย้อนไปถึงปี 2563 จะพบว่าสถิติคดีปืนแบลงก์กัน เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทุกปี มีทั้งที่ยึดแบลงก์กันได้ และปืนแบลงก์กันที่ใช้ก่อเหตุ โดยในส่วนของปืนแบลงก์กัน ถ้ายึดเอาตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน 2490 นับว่าเป็นอาวุธปืน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นขณะที่มีความเห็นที่แตกต่างกัน ฝ่ายปกครองมองว่า เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืน คือไม่ใช่ปืนจริง ส่วนตำรวจ มองว่า เป็นอาวุธปืน ความเห็นต่างตรงนี้ เคยหารือกันหลายครั้ง แต่ยังไม่ตกผลึก ยังไม่เห็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลต่อกรณีเป็นคดีในศาลด้วย เพราะ 2 หน่วยงานที่เกี่ยวกับอาวุธปืน มีความเห็นไม่ตรงกัน ศาลจึงดูที่เจตนาของการครอบครองว่าหากไม่ได้ครอบครองเพื่อนำมาก่อเหตุ ก็อาจยกประโยชน์ให้จำเลย
 
ผบ.ตร. ประสานมหาดไทย ยกระดับปืน แบลงค์กัน เป็นอาวุธ
 
ในประเด็นการควบคุมปืนแบลงก์กัน พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังหารือกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถึงแนวทางการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุว่า คนทำความผิดเป็นเด็ก จึงขอว่าอย่าไปแตะตรงนั้น ตอนนี้ตำรวจกำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ เนื่องจากผู้ต้องหา ไม่อยู่ในสภาพที่จะให้ปากคำได้ จึงมีส่วนที่จะต้องไปดำเนินการต่อ
 
ส่วนประเด็นที่นายกฯ กำชับ คือให้ยกระดับการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน ซึ่งที่จริง ทำกันมาแล้ว สถิติอาชญากรรมทางอาวุธปืน ในช่วงก่อนหน้านี้ 2 เดือน ตำรวจก็ได้มีการปิดล้อมตรวจค้น หลายร้อยที่หมาย จับผู้ต้องหาได้ 2,000 กว่าคดี ได้ปืน 900 กว่ากระบอก
 
แต่ดูจากสถิติที่มีการส่งขึ้นมา ปืนที่เป็นปืนจริง แทบจะไม่ได้ถูกนำมาก่อเหตุ แต่สถิติที่เห็นว่าปืนที่นักเรียน มักจะนำมาใช้ในการทะเลาะวิวาทกัน เป็นปืนชนิดแบลงก์กัน โดยทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้ส่งรายละเอียดมาให้ แต่การใช้ปืนแบลงก์กัน ไม่มีกฎหมายที่จะไปบังคับการนำเข้า ผ่านพิธีทางศุลกากร คนขายแค่ขออนุญาต แต่คนซื้อไม่มีใบอนุญาต นี่คือช่องว่างทางกฎหมาย แล้วก็นำไปดัดแปลง
 
ซึ่งปืนที่ใช้ก่อเหตุเมื่อวานเป็นปืนแบลงก์กันและนำไปดัดแปลงตาม YouTube โดยในขั้นแรกตนได้สั่งการไปที่ตำรวจไซเบอร์ ให้เจาะเว็บไซต์ของกลุ่มพวกนี้ให้ได้ ตั้งเป็นทีมจับกุมเว็บไซต์ที่ขายปืนเถื่อนทางออนไลน์โดยเฉพาะ โดยมีการสั่งตั้งทันที
 
ขณะที่ประเด็นทางข้อกฎหมาย ได้ประสานทางกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย ทำให้ปืนแบลงก์กัน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถซื้อขายกันได้ ให้ตีว่าเป็นอาวุธ ยกระดับข้อกฎหมายขึ้นไปเลย เพราะการนำเข้ามาแบบสิ่งเทียมอาวุธปืน ทำให้สิ่งของเหล่านี้หลุดมาในตลาด จะไม่ใช่แค่ดำเนินการจับกุม แต่จะเป็นการยกระดับให้มีข้อกฎหมาย ห้ามนำเข้าเลย ให้ถือว่าเป็นปืนจริง ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีแล้วว่าจะทำตรงนั้น
 
เศรษฐา หารือ ผบ.ตร. ยกระดับครอบครองปืน
 
ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าพบ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า วันนี้เดินทางมาคุย 3 เรื่อง คือเรื่องแรก มาขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ออกปฏิบัติการณ์อย่างเฉียบขาด และทันควัน รวมถึงการค้นหาญาติของนักท่องเที่ยวจีน ที่กระจัดกระจายกันช่วงชุลมุนระหว่างเกิดเหตุ จนเจอในเวลาประมาณ 22.00 น.
 
เรื่องที่ 2 พูดคุยเรื่องยกระดับมาตรการในการครอบครองปืน หรือความง่ายในการเข้าถึงอาวุธปืน อันนี้ ตนขอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เป็นผู้แถลงต่อ
 
ส่วนเรื่องที่ 3 เรื่องที่ 3 ตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกำกับดูแลกรมศุลกากร จึงต้องเข้มงวดในการนำเข้าปืน ซึ่งตรงนี้สำคัญมาก เพราะเป็นช่องโหว่หนึ่งที่สามารถนำเข้าอาวุธปืนจากข้างนอกเข้ามาได้
 
อนุทิน เล็งขึ้นทะเบียนสิ่งเทียมอาวุธปืน
 
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์เรื่องนี้ว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยเอง ก็ต้องจัดระเบียบไม่ให้มีการเข้าถึงหรือได้มาซึ่งปืน และอาวุธร้ายแรงเหมือนกับที่ผ่านมา จากนี้อธิบดีกรมการปกครองจะเข้าไปตรวจสอบ และป้องกันอาจเพิ่มการลงโทษไม่ให้เกิดความรุนแรง ไม่ให้คนพกปืนไปไหนมาไหนในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ มาตรการการตรวจสอบและป้องกันการครอบครองอาวุธปืน จะรวมไปถึงปืนดัดแปลงและสิ่งเทียมอาวุธ อย่างปืนบีบีกันสมัยก่อนหาซื้อได้ตามท้องตลาด แต่หากพบว่าสามารถนำไปดัดแปลงได้ก็จะต้องควบคุม อาจไปถึงการจำกัดการซื้อและการเข้าถึง เพราะปืนบีบีกันมีความอันตราย หากยืนในระยะประชิดก็มีอานุภาพทำให้เกิดการบาดเจ็บสาหัสได้เช่นกัน ดังนั้นจากนี้อาจจะเปิดให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ครอบครองปืนบีบี ตลอดจนสิ่งเทียมอาวุธอื่นอย่างถูกต้อง
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 
 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง