ย้อนดูเส้นทาง เพื่อทำความรู้จัก “โจ ณัฐวุฒิ” นักมวยรุ่นใหญ่ วัย 34 ปี จากนครราชสีมา ที่ขันอาสามารับเผือกร้อน ท้าชนของแรงอย่าง “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัยฯ”
“โจ ณัฐวุฒิ” มีคิวหวนกลับมาขึ้นสังเวียนครั้งแรกในรอบ 1 ปี 2 เดือน ในฐานะมวยแทนของ “ซุปเปอร์บอน สิงห์มาวิน” ที่ได้รับบาดเจ็บต้องขอถอนตัว พบกับ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัยฯ” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145 - 155 ป. ) ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต ในศึก ONE Fight Night 15 วันเสาร์ที่ 7 ต.ค.นี้ ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา)
"โจ ณัฐวุฒิ" เริ่มต้นชีวิตนักมวยไทยอาชีพอย่างจริงจัง เมื่ออายุ 18 ปี โดยใช้ชื่อในการชกมวย “ธนะศักดิ์ ส.บุญเลี้ยง” หรือ “เพชรชมพู ท็อปคิงส์บ็อกซิ่ง” แต่ชีวิตบนเส้นทางนักสู้ไม่เป็นไปดั่งใจที่หวังไว้ หลังผ่านไป 1 ปีครึ่ง “โจ” ได้ตัดสินใจหันหลังให้กับวงการมวยชั่วคราว และเลือกหางานประจำที่มั่นคงต่อการเลี้ยงชีพแทน โดยเลือกย้ายไปทำงานโรงแรม และร้านอาหาร อยู่บนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เมื่ออายุได้ 23 ปี “โจ” ได้รับการชักชวนจากคนรู้จักให้ไปอเมริกา เปรียบเสมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ ที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นทันตาเห็น “โจ” จึงตัดสินใจออกเดินทางไกล หวังบินไปตายเอาดาบหน้า และในเดือน มี.ค.56 ชีวิตใหม่บนผืนแผ่นดินอเมริกาก็เริ่มขึ้น ด้วยการทำงานเป็นผู้ช่วยกุ๊ก ที่โรงแรมบนเขาในรัฐโคโลราโด
เมื่อเวลาผ่านไป “โจ” มีโอกาสได้รู้จัก “ขุนพล เดชคำภู” หรือ “ขุนพล แก้วสัมฤทธิ์ (ช.โรจนชัย)” อดีตนักมวยไทยชื่อดัง ที่เป็นเจ้าของยิมในรัฐแอตแลนตา กำลังประกาศตามหาเทรนเนอร์สอนมวยไทย ซึ่ง “โจ” ในฐานะอดีตนักมวยไทย ก็ไม่รอช้าที่จะคว้าโอกาสนี้ไว้เพื่อกลับมาทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักอีกครั้ง
ในเดือน ส.ค.ปี 2557 “โจ” ได้รับโอกาสขึ้นชกในรายการ Lion Fight ซึ่งเป็นรายการมวยไทยชื่อดังของอเมริกาในขณะนั้น ในฐานะมวยแทน ซึ่งแม้ว่า “โจ” และสามารถแจ้งเกิดเอาชนะมวยดังอย่าง “คอสโม อเล็กซานเดร” ไปได้แบบสุดช็อก กลายเป็นจุดเริ่มต้นสู่ความร้อนแรง จนนำมาซึ่งโอกาสขึ้นชิงแชมป์รุ่น 154 ป. และสามารถทำได้สำเร็จ ซึ่งเท่านั้นยังไม่พอ “โจ” ยังสามารถเบ่งน้ำหนัก ขึ้นไปคว้าแชมป์ในรุ่น 160 ปอนด์ และแชมป์ WMC รุ่นซูเปอร์ไลต์เวต ได้อีก จนทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วอเมริกา และได้รับฉายา “Smokin’ Jo”
ท่ามกลางความสำเร็จอันสวยหรู ใครจะรู้ว่าแท้จริงแล้ว “โจ” ไม่เคยมีเทรนเนอร์คู่กายเหมือนนักกีฬาระดับโลกคนอื่น ๆ โดยมีเพียง “ขุนพล เดชคำภู” เท่านั้นที่คอยช่วยจับเป้าให้ในช่วงที่มีรายการแข่งขัน ส่วนหน้าที่ในการวิเคราะห์สไตล์คู่ต่อสู้ แล้วนำมาวางแผนการชก “โจ” จะเป็นคนทำด้วยตัวเองทั้งหมด
โจ vs เปโตรเซียน (20 เม.ย.61)
ด้วยความสำเร็จระดับสูงทำให้ในเดือน เม.ย. 61 “โจ” ได้รับโอกาสเซ็นสัญญาเข้ามาเป็นนักกีฬา ONE โดยปัจจุบัน “โจ” ผ่านการขึ้นสังเวียนใน ONE ไปแล้วถึง 9 ไฟต์ โดยสามารถเก็บชัยชนะมาครองได้ 5 ครั้ง และเคยผ่านการปะทะกับสองสุดยอดนักคิกบ็อกซิ่งอย่าง “จอร์จิโอ เปโตรเซียน” และ “ชิงกิซ อัลลาซอฟ” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต คนปัจจุบันมาแล้ว ซึ่งไฟต์ที่ 10 ของ “โจ” ในครั้งนี้ ผลการแข่งขันจะออกมาในรูปแบบไหน แฟนกีฬาการต่อสู้ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ติดตาม “โจ vs ตะวันฉาย” ในศึก ONE Fight Night 15 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) วันเสาร์ที่ 7ต.ค.66 สามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง
THAI TICKET MAJOR และรับชมการถ่ายทอดสดศึกนี้ได้ทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ) Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่ม 07.00 น. ส่วนช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย)รับสัญญาณสดเวลา 10.00 น.
+ อ่านเพิ่มเติม