“ใบพลู” ของขึ้นกลางสภาฯ โวย “เศรษฐา” หนีตอบกระทู้สด ปมแต่งตั้ง ผบ.ตร.

เช้านี้ที่หมอชิต - นายกฯ หนีตอบกระทู้สภาหรือเปล่า เมื่อวานนี้เป็นวาทะร้อนโต้กันเดือด ระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน หลัง รังสิมันต์ โรม ยื่นกระทู้ถามสด กรณีแต่งตั้ง ผบ.ตร. แต่ นายกฯ ไม่ได้มาตอบ

 

โรม โวย เศรษฐา ชิ่งตอบกระทู้แต่งตั้ง ผบ.ตร.

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาไปยัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรื่องการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากไม่ทราบเหตุผลว่า การแต่งตั้งดังกล่าวมีหลักเกณฑ์ และวิธีพิจารณาอย่างไร ซึ่งนายกฯ มีเพียงหนังสือแจ้งสภากลับมาสั้น ๆ ว่า ไม่สะดวกมาตอบ ซึ่ง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา แจ้งว่า นายกฯ ติดภารกิจไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ทำให้ นายรังสิมันต์ ลุกขึ้นอภิปรายว่า เข้าใจได้ว่า นายกฯ มีภารกิจล่วงหน้า แต่ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 151 กำหนดว่า การไม่มาตอบกระทู้ จะต้องบอกต่อสภาว่าจะมาตอบเมื่อไหร่ และไม่ได้มอบหมายให้ใครมาตอบแทน ถือว่า ผิดข้อบังคับข้อที่ 151 อย่างชัดเจน

 

แต่เรื่องนี้ไม่ได้จบในสภา เพราะเมื่อความทราบถึง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งติดตามนายกฯ ไปกัมพูชาด้วย ก็ได้ส่งข้อความผ่านไลน์ ให้กับผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล ระบุใจความว่า รู้ทั้งรู้ว่า นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจเยือนกัมพูชา แต่ก็ยังหาเรื่องตั้งกระทู้ถามสดในสภา ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร ประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์อะไรครับ

 

นายรังสิมันต์ เห็นดังนั้น จึงโพสต์ข้อความโต้ผ่าน X (Twitter) ทันทีใจความว่า รู้ทั้งรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในองค์กรตำรวจ รู้ทั้งรู้ว่าองค์กรตำรวจขัดแย้งกันขนาดไหน รู้ทั้งรู้ว่ามีเครือข่ายตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทามากมายเพียงใด ท่านนายกฯ จะเดินทางไปต่างประเทศก็ไปได้ แต่ก็ช่วยทำให้ถูกต้องตามข้อบังคับการประชุมสภา คือส่งรัฐมนตรีคนอื่นมาตอบแทน หรือ ช่วยกรุณาบอกก็ได้ว่าจะมาชี้แจงต่อสภาในเรื่องตำรวจเมื่อไหร่ หลังจากนั้น นายรังสิมันต์ ได้เปิดแถลงกับสื่อมวลชนในเรื่องนี้อีกรอบหนึ่งด้วย

 

วิโรจน์ แฉ ทุจริตสวมสิทธิกู้สหกรณ์ ตร.423 นาย 220 ล้านบาท

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดประเด็นใหม่ของตำรวจอีกแล้ว คราวก่อนเรื่องส่วยทางหลวง คราวนี้เป็นปัญหาของนายตำรวจชั้นผู้น้อยที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ จังหวัดลำพูน ที่ถูกผู้บังคับบัญชายศใหญ่สวมสิทธิกู้เงิน เช่น บางคนกู้ 4 แสนบาท แต่ถูกเติมเลขใหม่เป็น 7.8 แสนบาท กลายเป็นหนี้เพิ่มทั้งที่ไม่ได้ก่อ มีผู้เสียหายโดนแบบนี้กว่า 423 ราย คิดเป็นความเสียหายรวมกันกว่า 220 ล้านบาท หรือ มากกว่านั้น

 

มีการแจ้งความไปตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา 7 เดือน ยังไม่มีความคืบหน้า บรรดาตำรวจชั้นประทวนที่เป็นผู้เสียหาย ซึ่งหลายคนใกล้เกษียณแล้ว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากคณะกรรมการสหกรณ์เป็นนายตำรวจระดับสูง จึงอยากฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนใหม่ ให้เอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหา เพื่อเป็นการมอบของขวัญให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั่วประเทศ เพราะคิดว่าการทุจริตดังกล่าวไม่ได้เกิดแค่ที่จังหวัดลำพูน แต่ผู้ทุจริตน่าจะเชื่อมโยงกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ด้วย คิดว่าถ้า ผบ.ตร. คนใหม่ เอาจริงเรื่องนี้ไม่เกิน 2 สัปดาห์น่าจะรู้ผล

 

รอง ผบก.ภ.จว.ลำพูน เผยดำเนินคดีผู้ต้องหา จ่อยื่น ปปง.ยึดทรัพย์

ขณะที่ความคืบหน้าคดี พันตำรวจเอก ยุทธนา แก่นจันทร์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน ในฐานะที่ปรึกษาสหกรณ์ตำรวจภูธร จังหวัดลำพูน เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้มีการแจ้งความดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว ประกอบด้วยอดีตผู้จัดการ และอดีตเจ้าหน้าที่ ก่อนหน้านี้มีการยึดทรัพย์เจ้าหน้าที่ที่กระทำการทุจริตไปแล้ว 16 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินที่เหลือ เจ้าหน้าที่ยื่นเรื่องให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ตรวจสอบ ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย