เช้านี้ที่หมอชิต - ไม่พลิกโผ บิ๊กต่อ ผงาด นั่ง ผบ.ตร. คนที่ 14 ด้วยมติ 9:2 โดยมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอชื่อต่อ ก.ตร. แต่งดออกเสียง
มติ ก.ตร.เคาะแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นั่ง ผบ.ตร.คนที่ 14
ในที่ประชุม จากกระแสข่าวศึกสีกากีจากกรณีตรวจค้นบ้านบิ๊กโจ๊ก หนึ่งในแคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทำให้การประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เมื่อวานนี้เป็นที่จับตาอย่างมาก เนื่องจากมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 14 โดยมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในการประชุม ซึ่งเมื่อวานทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดกองเกียรติยศต้อนรับ เนื่องจากเป็นการเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติครั้งแรกหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ในตอนแรกรายงานว่า ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเลื่อนการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนที่ 14 ถึงเดือนตุลาคม และแต่งตั้งให้ พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. อาวุโสอันดับที่ 1 รักษาการ ผบ.ตร.ไปพลางก่อน แต่ผ่านไปเพียงชั่วลมวูบไหว ภาษาชาวบ้านเรียกว่า ตดยังไม่ทันหายเหม็น ตำแหน่งรักษาการก็ล่องลอยไป สื่อได้รับข้อมูลใหม่ยืนยันว่า ที่ประชุม ก.ตร. มีมติ 9 ต่อ 2 เลือก พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร.คนที่ 14 โดยมีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอชื่อ แต่งดออกเสียง
ในบรรดาแคนดิเดต ผบ.ตร. 4 คน พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ มีอาวุโสน้อยสุด แต่ถูกวางเป็นตัวเต็งที่จะนั่งตำแหน่งนี้มาตั้งแต่แรก เพราะอะไร ลองไปไล่เรียงดูเส้นทาง พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ กันนิดนึง ถือว่าน่าสนใจเพราะเป็นว่าที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่ได้จบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ท่านเป็นคนจังหวัดเพชรบุรี และเป็นน้องชายของ พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการสำนักงานพระราชวัง เคยเป็นพนักงานบริษัทน้ำมัน นานถึง 7 ปี
กระทั่งปี 2541 อายุ 33 ปี ลาออกมาเป็นตำรวจตามที่เคยฝันไว้ ด้วยการอบรมหลักสูตรการฝึกอบรม ผู้มีคุณวุฒิทางด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ เมื่อมาเป็นตำรวจแล้วมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างดี เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของพี่น้องสื่อมวลชนสายตำรวจ จนได้รับฉายาว่า เป็ยมือปราบสายธรรมะ และโรโบคอปสายบุญ เพราะมักเห็นภาพ รองต่อ เดินสายปฏิบัติธรรมตามสถานที่ต่าง ๆ และมักปรากฏตัวในงานบุญ ไปจนถึงงานศพของผู้ใต้บังคับบัญชาที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
อย่างไรก็ตาม เส้นทางการสู่ตำแหน่ง ผบ.ตร.ของ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ เคยถูก นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึง ในการอภิปราย ตั๋วช้าง หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีบทบาทในขณะนั้น ที่ได้ยกเว้น กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตํารวจ และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องหลักเกณฑ์การแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการตำรวจตามหลักอาวุโส ให้กับ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ทำให้การขึ้นจากรองสารวัตร สู่สายผู้บัญชาการเป็นไปอย่างรวดเร็ว ตำรวจทั่วไปต้องใช้เวลาตามหลักเกณฑ์ 12 ปี แต่การยกเว้นหลักเกณฑ์ของ พลเอก ประยุทธ์ และพลเอก ประวิตร ทำให้ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ขึ้นมาเป็น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ด้วยการใช้เวลาเพียง 3 ปี 4 เดือน ทำให้คนที่เพิ่งเข้ามาเป็นตำรวจในวัย 33 ปี ที่ปกติไม่น่าจะขึ้นถึงตำแหน่ง ผบ.ตร.ได้ ก็มาได้ทันก่อนการเกษียณอายุราชการในปีหน้า
หลังการประชุม ก.ตร. เสร็จสิ้น พลตำรวจตรี อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การประชุมวันนี้ได้คัดเลือกแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ โดยพิจารณารายชื่อเรียบร้อยแล้ว แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนทางธุรการ เพื่อนำความกราบบังคมทูล จึงยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ในวันนี้
เรายังมีโอกาสได้สอบถามความเห็นจาก พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ในฐานะอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มองการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ ที่มีขึ้นเมื่อวานนี้ว่าอย่างไรบ้าง
ว่าที่ ผบ.ตร. ฟิตจัด ลุยจับยาเสพติดล็อตมโหฬาร จ.นครปฐม
พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. เข้าตรวจสอบทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นในซอยลำพยา-บอสโก อำเภอเมืองนครปฐม หลังสืบทราบว่าเป็นแหล่งพักยาเสพติด ตรวจยึดยาบ้า 15 ล้านเม็ด, เฮโรฮีน 443 แท่ง, ไอซ์ 420 กิโลกรัม รวมถึงแฮปปี้วอเตอร์และไฟว์ไฟว์ มูลค่ารวม 300 ล้านบาท พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 4 คน โดยเจ้าหน้าที่แกะรอยนาน 2 ปี จึงทราบว่ายาเสพติดถูกลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ และใช้บ้านเป็นแหล่งพักยา หลังจากนี้เตรียมขยายผลต่อไป
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35