ข่าวเย็นประเด็นร้อน - บิ๊กโจ๊ก ลั่นไม่อาฆาต แต่มีข้อมูลเยอะเปิดเมื่อไหร่ตายหมด
บิ๊กโจ๊ก ยืนยันหนักแน่น ไม่อาฆาตใคร แม้รู้ตัวผู้บงการสั่งค้นบ้าน พร้อมจับกุมลูกน้อง โยงเอี่ยวเว็บไซต์พนันออนไลน์แล้ว
ความคืบหน้าคดีตำรวจบุกตรวจค้นบ้านพัก 5 หลัง ภายในหมู่บ้านย่านซอยวิภาวดี 60 กรุงเทพ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก่อนจับกุมตำรวจคนสนิท 8 นาย หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเว็บไซต์พนัน ซึ่งทั้งหมดได้ประกันตัวชั่วคราวนั้น ล่าสุดวันนี้ (27 ก.ย.) มีความเคลื่อนไหวในหลากหลายแง่มุม
เริ่มกันที่ช่วงเช้า บิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลายช่อง บางช่วงระบุว่า ไม่ต้องการเอาคืน แต่ข้อมูลที่มีอยู่ตอนนี้ ถือว่ามีมาก ถ้าเปิดเมื่อไร ก็ตายกันหมด แต่ยังไม่ขอบอก เพราะไม่คิดอาฆาตแค้นใคร แต่ขอย้ำว่ามีข้อมูลเยอะ เพราะเป็นตำรวจสืบสวนสอบสวน มีข้อมูลทั้งหมด แต่ตนเองอยากรักษาองค์กรอยู่ ตอนนี้เริ่มกินยาพาราฯ กันได้เลย เพราะไปยื่นศาลให้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว
ส่วนการคัดเลือกตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บิ๊กโจ๊กบอกว่า ไม่ได้สนใจ เพราะตนเองเหลืออายุราชการอีกหลายปี จึงไม่จำเป็นต้องครั้งนี้
บิ๊กโจ๊ก เปิดตัว ทนายอนันต์ชัย สู้คดี
ทั้งนี้ ตามกำหนดการเดิม บิ๊กโจ๊กจะเดินทางไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ ในเวลา 10.00 น. เพื่อยื่นคำร้องขอไต่สวนฐานละเมิด กรณีตำรวจขอศาลออกหมายจับลูกน้องทั้ง 8 นาย โดยไม่ออกหมายเรียกก่อน แต่สุดท้ายมีการเลื่อนกำหนดการ เพื่อเปิดตัวทนายความ โดยมี นายอนันต์ชัย ไชยเดช หรือฉายา ทนายความกระดูกเหล็ก เข้ามาทำหน้าที่ทนายความให้
บิ๊กโจ๊ก แจงสัมพันธ์ เฮียแต๋ม
จากนั้นที่สโมสรตำรวจ บิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์ว่า มอบหมายให้นายอนันต์ชัยยื่นคำร้องขอศาลไต่สวน การละเมิดอำนาจศาล ในการขอออกหมายจับ และการขอหมายค้นชุดปฏิบัติการ เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา โดยเฉพาะหมายจับ ถ้าศาลรู้ว่าเป็นตำรวจ จะไม่มีการออกหมายจับ แต่จะให้ออกหมายเรียกก่อน ส่วนตัวมองว่า การขอหมายจับดังกล่าว ถือเป็นการสอดไส้ หรือเป็นการหลอกศาล
ขณะที่บ้าน 5 หลัง ดังกล่าว เป็นบ้านของ เฮียแต๋ม โดยตนเองรู้จักกับเขา มาตั้งแต่สมัยเป็นสารวัตร เป็นความสัมพันธ์แบบญาติผู้ใหญ่ โดยส่วนตัวอาศัยอยู่แฟลตตำรวจ จนขึ้นมาเป็นผู้บังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ แต่เมื่อดูแล้วงานเยอะ และมีลูกน้องมากขึ้น จึงย้ายออกมาอยู่บ้านแทน แต่เมื่อบ้านสร้างไม่เสร็จ (สร้างบนที่ดินพ่อตา จำนวน 10 ไร่ ย่านพุทธมณฑลสาย 7) และไม่ต้องการซื้อบ้านใหม่ เพราะมีที่ดินอยู่แล้ว จึงไปเช่าบ้านเฮียแต๋มแทน ในราคาเดือนละ 50,000 บาท ส่วนค่าน้ำค่าไฟจ่ายเอง
บิ๊กโจ๊ก ยอมรับให้เงินนักข่าวจริง
นอกจากนี้ บิ๊กโจ๊กกล่าวถึงประเด็นให้เงินนักข่าวบางสำนักว่า ให้เงินจริง แต่ไม่ได้ให้เป็นรายเดือน โดยให้เงินหลักหมื่นบาท กับนักข่าวที่ลงพื้นที่พร้อมตนเอง ขอยืนยันว่า พวกนักข่าวไม่เคยมาขอเงิน แต่ตนเองสั่งให้เลี้ยงอาหารกลางวัน อย่างกรณีมาทำข่าวที่สโมสรตำรวจ ก็สั่งให้ลูกน้องเลี้ยงอาหารกลางวัน วันละ 200 กล่อง ตกเดือนละ 250,000 บาท ซึ่งเป็นเงินส่วนตัว และเป็นเงินถูกกฎหมาย
บิ๊กโจ๊ก รู้เบื้องหลังคนสั่งการค้นบ้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่ลูกน้องได้ประกันตัว ทั้งหมดมาพูดคุยหรือยัง ทางบิ๊กโจ๊กกล่าวว่า ได้พบหมดแล้ว บางคนก็ขอโทษ แต่ตนเองไม่ได้ตำหนิ เพราะบางอย่างเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนรู้แล้วว่าใครเป็นคนดำเนินการทั้งหมด รู้ว่าใครเป็นคนสั่ง แต่ไม่อยากทุบหม้อข้าวตัวเอง
ทนายอนันต์ชัย เตือนขู่ฟ้อง
ขณะที่นายอนันต์ชัย กล่าวว่า ได้เข้ามาดูแล 2 ส่วน ส่วนแรกเกี่ยวกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ และอีกส่วนเป็นลูกน้องที่โดนคดี โดยหลังจากนี้ จะดูการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ หรือการเสนอข่าวของสื่อ หากไม่ถูกต้อง จะดำเนินคดีไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ซึ่งจะมีการตั้งวอร์มรูมคอยติดตาม ส่วนการให้เงินนักข่าว ถือเป็นน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ใช่การติดสินบน
พล.ต.ต.นำเกียรติ โผล่พบ บิ๊กโจ๊ก
ขณะที่ พลตำรวจตรี นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรมตำรวจ กองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 ใน 8 ลูกน้องของบิ๊กโจ๊ก ได้เดินทางมายังสโมสรตำรวจ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า ไม่มีอะไรครับ ไม่มีอะไรกังวล
เฮียแต๋ม ยกเลิกแถลงข่าวความสัมพันธ์ บิ๊กโจ๊ก
ส่วนความเคลื่อนไหวของ เฮียแต๋ม ซึ่งตอนแรกมีการนัดแถลงข่าวเปิดใจ ในเวลา 13.00 น. วันนี้ แต่เมื่อใกล้ถึงเวลานัดหมาย เจ้าตัวได้ยกเลิกการแถลงข่าว เมื่อทีมข่าวพยายามโทรศัพท์สอบถาม ปลายสายพูดเพียงว่า ไม่สะดวก ๆ
เฮียแต๋ม ชายผู้ยืนเคียงข้าง บิ๊กโจ๊ก
สำหรับเฮียแต๋ม เป็นนักธุรกิจขนส่งชื่อดังของจังหวัดอุดรธานี ที่มีการสร้างเครือข่ายในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยมีศักยภาพขนส่งสินค้าไปได้ทั่วประเทศ โดยเฮียแต๋มเป็น 1 คน ที่ยืนเคียงข้างบิ๊กโจ๊กมาตลอด อย่างเมื่อครั้งเป็นผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ซึ่งบิ๊กโจ๊กถูกร้องเรียนจากผู้ประกอบการร้านคาราโอเกะในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งคดีนี้ ป.ป.ช.มีมติตีตกไป เพราะไม่มีมูลความผิด
ผบ.ตร. เซ็นเด้ง 8 ตร.คนสนิท บิ๊กโจ๊ก
ล่าสุด พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีหนังสือคำสั่งเรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และรักษาราชการแทน โดยพบว่า ตำรวจ 8 นาย ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ ถูกย้ายไปปฏิบัติราชการ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
อัจฉริยะ ร้องสอบ บิ๊กโจ๊ก ปมเงินค่าไฟฟ้า
ความเคลื่อนไหวของ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงผู้บังคับการ กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ขอให้ดำเนินการตรวจสอบการรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาท อันเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของบิ๊กโจ๊ก
นายอัจฉริยะกล่าวว่า จากกรณีบิ๊กโจ๊กให้สัมภาษณ์ว่า ให้ลูกน้องเป็นผู้ชำระค่าไฟฟ้ารายเดือน เดือนละประมาณ 10,000 กว่าบาท แต่ต่อมาปรากฏว่า ผู้ที่ชำระเงินดังกล่าว คือ นายครรชิต ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีโอนเงิน เพื่อจ่ายค่าไฟฟ้าบ้าน 2 หลัง
และพบว่า นายครรชิตไม่ใช่ลูกน้องโดยตรงของบิ๊กโจ๊ก แต่เป็นบุคคลที่ใช้บัญชีเกี่ยวข้อง และมีความสัมพันธ์กับการทำเว็บไซต์พนัน เครือข่ายของ มินนี่ ซึ่งการที่บิ๊กโจ๊กรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดจากนายครรชิต อยากให้ตำรวจช่วยตรวจสอบว่า เข้าข่ายความผิดหรือไม่
ยันไม่หนักใจโดน บิ๊กโจ๊ก ฟ้องกลับ
ขณะที่ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนของพนักงานสอบสวน ซึ่งวันนี้คณะทำงานจะมีการประชุมหารือกัน เพื่อขยายผลจากกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ส่วนการเรียกเฮียแต๋มและภรรยา ที่มีการเปิดเผยข้อมูลว่า เป็นเจ้าของบ้านที่บิ๊กโจ๊กเช่าให้ผู้ใต้บังคับบัญชาพักอาศัย ตรงนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนว่า ต้องเรียกมาสอบปากคำหรือไม่
ส่วนตำรวจที่เป็นผู้ต้องหา 8 นาย ยังให้การไม่เป็นประโยชน์ และปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะต้องสืบหาข้อเท็จจริง
โจ๊กไม่ได้หวานเจี๊ยบ แต่เป็นอัคนีเผาให้เรียบ
นายอนันตชัย ทนายความ ระบุว่า การที่ พันตำรวจเอก ภาคภูมิ ได้รับเงินจากมินนี่ แล้วนำเงินดังกล่าวไปใช้ซื้อของต่าง ๆ ตนเองขอถามกลับว่า พันตำรวจเอก ภาคภูมิ จะรู้ได้อย่างไรว่าเงินนั้นมาจากเว็บพนัน แล้วพ่อค้าแม่ค้าที่รับเงินต่อ จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเงินที่ผิดกฎหมาย เรื่องนี้ต้องดูที่เจตนา จะเหมารวมไม่ได้ และการที่มีบุคคลท่านหนึ่งออกมาแฉ นำข้อมูลส่วนตัวของตำรวจทั้ง 8 นาย มาให้สื่อ สมควรแล้วหรือไม่ ตนเองตามเช็คบิลทั้งหมด เพราะตอนนี้ โจ๊กไม่ได้หวานเจี๊ยบแล้ว แต่ เป็นโจ๊กอัคนีเผาให้เรียบ
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35