เจาะเบื้องลึก ! ความสัมพันธ์ลูกน้อง “บิ๊กโจ๊ก” เว็บไซต์พนันออนไลน์

918 ครั้ง

26 ก.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - การค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก และจับกุมตำรวจที่เป็นลูกน้อง 8 นายนั้น มีเบื้องลึกเบื้องหลังทั้งในส่วนที่ว่าตำรวจทั้ง 8 นายนั้น มีความสัมพันธ์กับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์อย่างไรบ้างจึงถูกจับกุม อีกทั้งเหตุผลใด ที่ตำรวจชุดตรวจค้นพุ่งเป้าไปที่บ้านทั้ง 5 หลัง ซึ่ง บิ๊กโจ๊ก พักอาศัยอยู่ วันนี้ ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน จะเจาะรายละเอียดทุกแง่มุมเบื้องลึกปฏิบัติการครั้งนี้

จุดเริ่มต้นจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ TS911.com

ย้อนไปที่จุดเริ่มต้นของคดีนี้ เมื่อ 20 มิถุนายน 2566 ตำรวจจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชุดที่ 4 หรือ ตำรวจ PCT 4 จับกุม นายพงษ์ศิริ ฐานราชวงศ์ศึก หรือ บอสตาล ประธานสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ ซึ่งเกี่ยวพันกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ TS911.com

จากนั้นตำรวจชุดนี้สืบสวนต่อ พบว่า กลุ่มผู้เล่นเว็บไซต์พนันออนไลน์ของบอสตาล ยังไปเล่นพนันในเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ชื่อ betfixroyal.com และเว็บไซต์พนันออนไลน์อื่น ๆ ด้วย จึงขยายผลพบว่าเป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ของ นางสาวสุชานันท์ หรือ ธนัยนันท์ หรือ มินนี่ ซึ่งเป็นเจ้าแม่เว็บไซต์พนันออนไลน์ในภาคอีสาน มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดเลย และอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ว่าเว็บไซต์พนันออนไลน์ของ นางสาวมินนี่ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ของบอสตาล แต่อย่างใด

30 กรกฎาคม 2566 ตำรวจชุด PCT 4 เข้าจับกุม นางสาวมินนี่ พร้อมพวกรวม 3 คน และจากตรงนี้นี่เอง ที่การสืบสวนขยายผลจนเห็นเส้นทางการเงินไปพัวพันถึงตำรวจลูกน้องคนสนิท บิ๊กโจ๊ก

พบ มินนี่ โอนเงินผ่านบัญชีม้าให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ตำรวจชุด PCT 4 ตรวจสอบเส้นทางการเงินของ นางสาวมินนี่ พบว่า นางสาวมินนี่ โอนเงินผ่านบัญชีม้าชื่อบัญชี นายพุฒิพงษ์ พูนศรี โดยวิธีฝากที่ตู้ CDM ให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ จากนั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ เป็นคนนำเงินจากบัญชีม้าของ นายพุฒิพงษ์ มาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านของบิ๊กโจ๊ก 5 หลัง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวโยงไปถึงบิ๊กโจ๊กด้วย เช่น จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แม่ของบิ๊กโจ๊ก จ่ายค่าโทรศัพท์มือถือบิ๊กโจ๊ก โอนให้แม่และน้องชายของบิ๊กโจ๊ก

โอนเงินผ่านบัญชีม้า ครรชิต ให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ใช้จ่ายเงินในบ้าน

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า หลังจาก นางสาวมินนี่ โอนเงินเข้าบัญชีม้าชื่อ นายพุฒิพงษ์ ให้ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เป็นคนใช้จ่ายเงินเหล่านั้นแล้ว การไล่ดูเส้นทางการเงินยังพบว่า เงินจากบัญชีม้า นายพุฒิพงษ์ ยังถูกโอนต่อให้บัญชีม้าที่ชื่อ นายครรชิต สองสมาน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ เป็นคนใช้จ่ายเงินในบัญชีม้าของ นายครรชิต นำไปจ่ายเป็นค่าไฟบ้านทั้ง 5 หลังของบิ๊กโจ๊ก โดยจ่ายค่าไฟล่าสุดคืองวดเดือนพฤษภาคม - เดือนกรกฎาคมปี 2566 เป็นเงิน 50,000 กว่าบาท

สืบสวนจาก พ.ต.ท.คริษฐ์ นำไปสู่บ้าน 5 หลัง พบเป็นของ เสี่ยแต๋ม

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ส่วนการสืบสวนจนเจอบ้านทั้ง 5 หลังนั้น ตำรวจ PCT 4 สืบสวนติดตามเริ่มจาก พ.ต.ท.คริษฐ์ พบว่า ตัว พ.ต.ท.คริษฐ์ จะขับรถมาจอดและพักผ่อนที่บ้าน 1 ใน 5 หลัง ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังสโมสรตำรวจ นอกจากนี้ ยังพบว่าตำรวจนายอื่น ๆ ในกลุ่ม 8 นาย ที่ถูกออกหมายจับ มีการให้ส่งพัสดุต่าง ๆ ถึงตนเอง โดยใช้เลขที่บ้านทั้ง 5 หลังนี้

เมื่อไปไล่ตรวจสอบดูเลขที่บ้านทั้ง 5 หลัง กลับเป็นบ้านของนักธุรกิจขนส่งรายหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ชื่อ เสี่ยแต๋ม ซึ่งมีธุรกิจขนส่งอยู่ทั่วประเทศ โดยพบว่าบ้าน 3 หลัง เป็นชื่อของเสี่ยแต๋มเอง ส่วนอีก 2 หลัง เป็นชื่อของภรรยาเสี่ยแต๋ม ซึ่งทั้ง 5 หลังนี้ เสี่ยแต๋ม เป็นคนขอไฟฟ้าเอง และชำระค่าส่วนกลางไว้จากเดือนกรกฎาคมปี 2566 ไปจนถึงเดือนมิถุนายนปี 2567 และที่น่าสนใจกว่านั้นคือในบ้านทั้ง 5 หลังนี้ ไม่มีรายชื่อใครอยู่ในทะเบียนราษฎร์เลย

สำหรับ เสี่ยแต๋ม แหล่งข่าวเปิดข้อมูลในเชิงลึกว่า เป็นนักธุรกิจขนส่งในจังหวัดอุดรธานี ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา มีความใกล้ชิดกับ บิ๊กโจ๊ก โดยมีรายงานว่า บุตรชายของเสี่ยแต๋ม รับราชการทหาร และเข้าไปอยู่ในกลุ่มนายทหารที่มีความใกล้ชิดกับรองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ที่เคยเป็นทหาร ในรัฐบาลชุดที่แล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าธุรกิจที่เติบโตขยายใหญ่อย่างมากในช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมาของ เสี่ยแต๋ม ได้รับการเอื้อประโยชน์จากใคร และเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรือไม่

เผย เสี่ยแต๋ม ไม่ใช่ญาติ บิ๊กโจ๊ก จ.อุดรธานี

เกี่ยวกับบ้านของ เสี่ยแต๋ม วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสำนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นกิจการของ เสี่ยแต๋ม ผู้สื่อข่าวได้ขอติดต่อเข้าพบ เสี่ยแต๋ม ผ่านพนักงาน แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานว่า เฮียไม่อยู่ ไม่เข้ามาจะหนึ่งเดือนแล้ว เมื่อขอให้พนักงานโทรศัพท์ติดต่อ เสี่ยแต๋ม ก็ไม่รับสาย

สำหรับ เสี่ยแต๋ม มีธุรกิจเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า เคยเป็นกรรมการทำงานสังคมส่วนรวม หลายคนบอกว่าเป็นคนนิสัยดี ไม่ใช่นักเลง และไม่ใช่ญาติกับบิ๊กโจ๊กแน่นอน โดยหาก บิ๊กโจ๊ก เดินทางมายังจังหวัดอุดรธานี ก็จะมาหาเสี่ยแต๋มทุกครั้ง และชอบชวนไปนั่งทานข้าวต้มที่ร้านแห่งหนึ่ง ซึ่ง เสี่ยแต๋ม หลายคนรู้จักกันว่า เป็นคหบดีที่สนับสนุนเส้นทางชีวิตราชการสายตำรวจของบิ๊กโจ๊ก และนายตำรวจอีกหลายนาย

เผย พ.ต.อ.ภาคภูมิ เริ่มลงขันพนันออนไลน์ที่ขอนแก่น

มาถึงตรงนี้ ย้อนกลับไปดูไกลกว่านั้น จุดเริ่มต้นที่ นางสาวมินนี่ มารู้จักกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ซึ่งเป็นมือขวาของบิ๊กโจ๊ก ว่าเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แหล่งข่าว เปิดเผยว่า เดิมนั้น พ.ต.อ.ภาคภูมิ เป็นผู้กำกับการสถานีตำรวจในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในช่วงที่อยู่ขอนแก่น ราวปี 2553 - 2554 พ.ต.อ.ภาคภูมิ ได้รู้จักกับ 2 สามีภรรยา คือ นายพชิรวัสส์ คำนนท์ใส หรือ นายกอล์ฟ และ นางสาวพิชชารัศมิ์ ทัพยวงศ์ หรือ นางสาวณัฐ โดย 2 สามีภรรยาคู่นี้ ทำเว็บไวต์พนันบาคาราออนไลน์ และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ได้เข้าไปเป็นหุ้นส่วนด้วย และ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ได้มีสัมพันธ์กับน้องสาวนายกอล์ฟด้วย

จากนั้น ได้ไปตั้งบริษัท 7 - 8 บริษัท ทำหมู่บ้านจัดสรรในโซนภาคอีสาน และธุรกิจอื่น ๆ เพื่อนำเงินที่ได้จากเว็บไซต์พนันออนไลน์ ไปฟอกเงินในธุรกิจเหล่านั้น โดยตอนนี้ ทั้ง นายกอล์ฟ และ นางสาวณัฐ สองสามีภรรยา ยังคงหลบหนีการจับกุม

กระทั่งเมื่อ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ย้ายไปเป็นผู้กำกับการ สภ.เมืองเลย ราวปี 2563 ได้รู้จักกับ นางสาวมินนี่ ซึ่งเป็นลูกสาว สจ.จังหวัดเลย จึงคบหากัน และร่วมกันเป็นหุ้นส่วนทำเว็บไซต์พนันออนไลน์ด้วยกันตั้งแต่นั้นมา

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง พ.ต.อ.ภาคภูมิ กับนางสาวมินนี่ ยังส่งผลถึงการปราบปรามคดีจีนเทา เมื่อปี 2565 ซึ่งตอนนั้น บิ๊กโจ๊ก นำทีมปราบปรามด้วย มี พ.ต.อ.ภาคภูมิ และ พ.ต.อ.เขมรินทร์ ซึ่งเป็นน้องชายของ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ร่วมทำคดีด้วย มีการเข้าไปตรวจค้นผับชื่อ เบบี้เฟซ ซึ่งมี นางสาวมินนี่ เป็นหุ้นส่วน ดำเนินคดีหุ้นส่วนรายอื่น ๆ แต่ไม่มีการดำเนินคดี นางสาวมินนี่ และหุ้นส่วนอีกคนที่ชื่อ เฮียเฉิน ซึ่งตอนนั้น นางสาวมินนี่ ได้ไปแช็ตคุยกับกลุ่มเพื่อนเว็บไซต์พนันออนไลน์ว่า เฮียเฉิน อยู่ได้เพราะเรา

จนถึงตอนนี้ ตำรวจ PCT ชุดทำคดียังคงเดินหน้าสืบสวนขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับในระลอกที่ 2 ซึ่งมีรายงานว่าจะมีทั้งบิ๊กตำรวจ และตำรวจอีกจำนวนมาก รวมทั้งพลเรือนด้วย

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35