ตำรวจบุกค้นบ้าน “บิ๊กโจ๊ก” โยงคดีพนัน ด้านทนายตั้ม ยัน ! ไม่เกี่ยวข้อง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - นับเป็นคดีสะเทือนวงการสีกากี เมื่อวันนี้ ตำรวจเปิดปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวโยงกับเว็บพนันออนไลน์ 30 จุดใน 6 จังหวัด และหนึ่งในบ้านที่ถูกเข้าค้นคือบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

ตร.บุกค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก โยงคดีพนัน

 

เมื่อเวลา 08.00 น. ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. และตำรวจคอมมานโด เข้าตรวจค้นบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยวิภาวดี 60 หลังสโมสรตำรวจ เนื่องจากพบว่า มีเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์

 

ในการตรวจค้น พบว่า พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ อยู่ภายในบ้านพัก ออกมาพบตำรวจที่ขอเข้าค้น ในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีฟ้า เมื่อตำรวจนำหมายค้นไปให้ดู พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ปฏิเสธที่จะให้ตำรวจเข้าค้นบ้าน พร้อมกับไล่ตำรวจที่นำหมายค้นเข้าค้นให้กลับออกไป

 

ต่อมา พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ สอท. เดินทางเข้าเจรจาขอเข้าตรวจค้น ซึ่งพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยอมให้เข้าตรวจค้นบ้านพักซึ่งมีทั้งหมด 5 หลัง เป็นบ้านพักที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์อยู่อาศัยเอง และเป็นบ้านที่ตำรวจติดตามใช้พักอาศัย

 

โดย พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ อยู่ในชุดกางเกงขาสั้น เสื้อยืด ก่อนครับด้วยเสื้อแจ็คเก็ต เดินนำตำรวจเข้าค้นบ้านแต่ละหลังด้วยตัวเอง ซึ่งการค้นบ้านแต่ละหลังก็ใช้เวลาไม่นาน ภายหลังการค้นเสร็จสิ้น ตำรวจได้นำหมายค้น ให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ลงลายมือชื่อ 5 ฉบับ

 

จากนั้นพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เข้ามาติดตามทำข่าว ว่า ก็ไม่มีอะไร แสดงความบริสุทธิ์ใจให้เห็น เพราะทราบมาว่าวันนี้ได้มีการออกหมายจับลูกน้องตนหลายคน เมื่อมีหมายจับก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ ฉะนั้น การออกหมายค้นวันนี้ก็ได้นำตำรวจเข้าค้นเอง ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอะไร ส่วนลูกน้องที่ถูกออกหมายจับก็ต้องไปต่อสู้คดีเอา

 

ส่วนเรื่องเว็บพนันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตนเองเกี่ยวข้องกับการปราบปรามอย่างเดียว ตนไม่เคยรับเงินพวกนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อมีหมายจับหมายค้นก็ต้องให้ความร่วมมือ

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงอาจมีเงินเว็บพนันเข้าบัญชีลูกน้อง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกว่า ไม่มีเงินที่ไปเข้าบัญชีลูกน้องตน แต่เมื่อมีหมายจับก็ต้องอธิบายให้ได้ว่าเป็นเงินอะไร เป็นเรื่องที่ลูกน้องตนต้องไปอธิบาย ในส่วนของตนเองเมื่อลูกน้องทำผิดก็ต้องไม่ละเว้น แต่ก็มองว่าลูกน้องของตนเองไม่มีส่วนเข้าไปกระทำความผิดในลักษณะแบบนี้ เพราะเป็นชุดทำงานด้วยกันมานานถ้าผิดก็คงผิดไปนานแล้ว

 

ต่อคำถามว่าหนักใจไหมที่กำลังมีการช่วงชิงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วมาโดนแบบนี้ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ตอบว่าไม่หนักใจ ไม่ได้เป็นแคนดิเดต อยู่แล้ว ซึ่งต้องไปดูเรื่องระเบียบต่าง ๆ ไม่ได้มองว่านี่เป็นเรื่องสกัด แต่เป็นเรื่องที่ สอท. ทำตามหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งบ่งบอกว่าใครผิดก็ต้องค้นบ้านได้

 

ส่วนที่ตอนแรกไม่ให้ตำรวจเข้าค้นบ้านเลย เพราะว่าตนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต่างคนบ้านต้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงมา เพราะถ้าผู้บัญชาการมาเองตนก็เชื่อมั่น และก็ไม่หนักใจเพราะไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายอยู่แล้ว ได้นำตำรวจสอท. ค้นทั้ง 5 หลัง ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอะไร

 

ขณะที่ พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการ สอท. ให้สัมภาษณ์ว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เป็นเรื่องของตำรวจชุด pct หรือศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นการขยายผลจากการจับมือเว็บพนัน ชุด pct ได้สืบสวนและขอกำลังจาก สอท. ทราบว่ามีการปฏิบัติการทั่วประเทศ แต่ สอท. สนับสนุนในฐานะเป็นหน่วยที่เชี่ยวชาญ ส่วนที่ตนต้องมาที่บ้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ด้วย เพราะ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ ต้องการให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่อยู่ใกล้เคียงเดินทางมาพบ ตนจึงเดินทางมา

 

ส่วนการเข้าตรวจค้นบ้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ถ้าตามข้อมูลผมไม่ทราบรายละเอียด แต่ข้อมูลจากการตรวจค้นเบื้องต้นก็ทราบว่าไม่ใช่ที่พักอาศัยของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ แต่ว่าน่าจะมีผู้ต้องหาตามหมายจับบางคนพักอาศัยอยู่ แต่ไม่ทราบว่ามีกี่คน เพราะ สอท. เพียงแค่สนับสนุนกำลัง

 

พลตำรวจโทวรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า หลังการตรวจค้นจึงทราบว่าบ้านทั้ง 5 หลัง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์เป็นผู้ครอบครองทั้งหมด ซึ่งยังไม่เจออะไร

 

ขยายผลจากจับเว็บฯ พนันรายใหญ่ เครือข่ายของ มินนี่

บ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเพียงหนึ่งในเป้าหมาย เพราะว่า วันนี้ตำรวจเข้าปิดล้อมตรวจค้น 30 จุดในพื้นที่ 6 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ เพชรบุรี ขอนแก่น อุดรธานี และสระบุรี ซึ่งเป็นการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์รายใหญ่ในภาคอีสาน เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 คือ นางสาวสุชานันท์ หรือธนัยนันท์ หรือชื่อเล่นว่า มินนี่ ซึ่งในวันนั้นตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชุดที่ 4 หรือ PCT 4 เป็นผู้เข้าตรวจค้นจับกุม และจากการสืบสวนสอบสวนขยายผล พบว่าเว็บพนันออนไลน์ที่นางสาวมินนี่ ดูแล ไปพัวพันกับตำรวจชุดทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จากนั้นขยายผลจนเกิดปฏิบัติการเข้าค้น 30 จุดในเช้าวันนี้พร้อมกัน

 

ออกหมายจับตำรวจ 8 นาย ควบคุมตัวแล้ว 6 นาย

 

โดยการตรวจค้นครั้ง ได้มีการออกหมายจับตำรวจ 8 นาย จับกุมได้แล้วบางส่วน ซึ่งทั้งหมดเป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ประกอบด้วย

 

- พล.ต.ต. นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล

 

- พ.ต.อ. เขมรินทร์ พิสมัย ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี

 

- พ.ต.อ. ภาคภูมิ พิสมัย รองผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4

 

- พ.ต.ท. คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ

 

- พ.ต.อ. อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ ผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา

 

- พ.ต.ต. ชานนท์ อ่วมทร นายตำรวจติดตามรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

 

- ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่งานสายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการจราจร

 

- ส.ต.อ. อภิสิทธิ์ คนยงค์ ผบ.หมู่ปราบปราม สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

 

โดยตำรวจทั้ง 8 นายนี้ ควบคุมตัวได้แล้ว 6 นาย เหลือ 2 นายที่ยังควบคุมตัวไม่ได้ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย และ พ.ต.อ.อาริศ คูประสิทธิ์รัตน์ นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาตามหมายจับที่เป็นพลเรือนอีก 15 คน จับกุมได้แล้ว 8 คน ยังจับกุมไม่ได้ 7 คน

 

ว่อนเน็ตฯ บิ๊กโจ๊ก ร้องเพลงกับ มินนี่ เจ้าแม่เว็บฯ พนันออนไลน์

 

ในทางการสืบสวนขยายผลของตำรวจ PCT 4 หลังจับกุมนางสาวสุชานันท์ หรือมินนี่ พบว่า น.ส.มินนี่ มีความสนิทสนมกับตำรวจระดับสูงหลายนาย รวมทั้งเคยไปร่วมงานเลี้ยงด้วย ซึ่งก็ปรากฏคลิปที่ถ่ายโดยทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นภาพที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กำลังร้องเพลงฝากเลี้ยง กับนางสาวมินนี่ เจ้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์

 

เผย 8 ตำรวจ เป็นผู้บริหารเว็บไซต์พนันออนไลน์

 

พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี เปิดเผยถึงการระดมกำลังกวาดล้างเครือข่ายแก๊งพนันออนไลน์ ค้น 30 จุดใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ ว่า เป็นไปตามกระบวนการ หลังการขยายผลเว็บพนันออนไลน์เบ็ตฟลิกซ์รอยัลดอตคอม และเว็บพนันอื่น ๆ รวม 12 เว็บไซต์ของตำรวจ PCT สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย เมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ จนออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 23 คน ในจำนวนนี้เป็นตำรวจ 8 นาย

 

จากการพฤติการณ์พบว่าขบวนการนี้แบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน ออกเป็น 4 กลุ่มความผิด บริหารจัดการเว็บพนันออนไลน์, จัดหาบัญชีม้า, จัดการธุรกรรมการเงินและบัญชี และ ผู้ได้รับผลประโยชน์จากบัญชีม้าดังกล่าว

 

โดยได้มีการสืบสวนจากหลักฐานที่บ่งชี้ชัดเจนว่า 8 นายตำรวจบางนายมีพฤติการณ์ลักษณะเป็นผู้บริหารเว็บไซต์พนันออนไลน์หรือเสมือนเป็นเจ้าของ ส่วนบางนายก็มีผลประโยชน์เชื่อมโยงในแต่ละกลุ่ม บางคนก็มีหลายพฤติการณ์ โดยพบว่าได้กระทำผิดมานานกว่า 2 เดือนแล้ว แต่จะมีจำนวนเงินหมุนเวียนเชื่อมโยงกับตำรวจเท่าใดนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ยืนยันว่ามีตำรวจยศพลตำรวจตรีถึงพันตำรวจเอกเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

 

สำหรับการเข้าตรวจค้นเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เป็นการตรวจค้นเพื่อจับกุมบุคคลตามหมายจับ หลังสืบสวนพบว่าบุคคลดังกล่าวพักอาศัยที่บ้านหลังนี้ โดยไม่ทราบว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวด้วย เพราะชื่อตามทะเบียนบ้านเป็นของบุคคลอื่นซึ่งเป็นพลเรือน ยืนยันไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินายดังกล่าว ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมได้ 15 คน และในจำนวนนี้เป็นตำรวจอย่างน้อย 1 คน และจะทยอยนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5

 

ส่วนจะเชื่อมโยงกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนดังกล่าวหรือไม่นั้น ณ ขณะนี้ยังไม่พบ แต่ก็ต้องมีการขยายผลตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะนอกเหนือจากหลักฐานที่นำมาใช้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาไปก่อนหน้านี้ ตำรวจยังมีพยานหลักฐานให้เชื่อได้ว่าบ้านหลังดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย

 

บิ๊กโจ๊ก ลั่นการเมืองใน ตร. ชี้ค้นบ้านไม่โปร่งใส ใครทำต้องรับผิดชอบ

 

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางไปที่สโมสรตำรวจ พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ที่รอทำข่าวอยู่เป็นจำนวนมากว่า การค้นบ้านตนเองครั้งนี้ไม่โปร่งใส ใครก็รู้ว่าเป็นบ้านของตน ซึ่งหลักการขอหมายค้นจะต้องบอกว่าเป็นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่ใช่บอกแค่บ้านเลขที่ แบบนี้ศาลก็ไม่รู้ว่าเป็นบ้านใคร ตอนนี้ยังไม่มีความผิดเกี่ยวกับตนเลย ขณะนี้ยังไม่รู้ว่าใครสั่ง เรื่องนี้ใครทำต้องรับผิดชอบ

 

แต่การค้นบ้าน ให้มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้ามาค้น ซึ่งจากการค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ไม่มีเส้นเงินที่สาวมาถึงตน ดังนั้นจะเข้าค้นบ้านได้อย่างไร ขณะที่บ้านทั้ง 4 หลังเป็นชื่อของญาติ โดยมีพ่ออยู่ 1 หลัง บ้านของตนอีก 1 หลังและบ้านที่ลูกน้องใช้เก็บของ ทั้งนี้ได้ตั้งทีมกฎหมาย ถ้ามีความผิดจะไล่ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง

 

บิ๊กโจ๊ก แจงคลิปร้องเพลงกับ มินนี่ ยันไม่รู้จัก

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังชี้แจงกรณีคลิปกำลังร้องเพลงภายในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ที่ร่วมร้องเพลงกับมินนี่ ว่า ยอมรับวันดังกล่าว เป็นงานเลี้ยงที่ตนจัดให้ลูกน้อง เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกน้องไปช่วยเหลือเรื่องงานศพพ่อ ทุกคนเหนื่อยมาก จึงจัดงานเลี้ยงให้แล้วคนในงานเลี้ยงก็มีการเชิญบุคคลภายนอกมา ซึ่งคลิปที่ตนกำลังร้องเพลงอยู่นั้น ไม่ทราบเลยว่าผู้หญิงคนดังกล่าวคือใครและไม่ได้มีการรู้จักกันเป็นการส่วนตัว

 

ส่วนกรณีที่มีลูกน้องคนสนิทถ่ายภาพโอบเอวผู้หญิงคนดังกล่าว ต้องให้ลูกน้องตอบให้ได้ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร ส่วนตัวยืนยันว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน และงานเลี้ยงนี้ก็จัดขึ้นเมื่อหลายเดือนแล้ว เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งคลิปและภาพที่มีการปล่อยออกมาเชื่อว่าเป็นการดิสเครดิตตน เพราะมีความบังเอิญมากเกินไปที่ช่วงเช้าบุกตรวจค้นบ้านของตนทั้งหมด 5 หลัง และช่วงบ่ายอดีตผู้การจังหวัดชลบุรีเอาผิดกับตน ที่ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีบุคคลบ้านพักของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ว่า ได้รายงานรายละเอียดเบื้องต้น ให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รับทราบแล้ว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจำเป็นจะต้องให้นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่า ขอรอดูผลการสอบสวนของตำรวจนครบาลก่อน ว่าจะรายงานอย่างไร พร้อมย้ำว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเรื่องนี้ ขยายผลมาจากคดีความเกี่ยวกับพนันออนไลน์ เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว มีการขอหมายจับที่ศาล 23 หมาย แบ่งเป็นตำรวจ 8 หมาย พลเรือน 15 หมาย ครั้งนี้เป็นการจับกุมตรวจค้นตามหมายจับ ส่วนรายละเอียดจะแถลงอีกครั้ง เมื่อตรวจค้นครบทุกจุด ส่วนตัวยังไม่ได้ยินว่า กรณีนี้เกี่ยวข้องกับกรณีของ สารวัตรซัว หรือ เมฆ รามา

 

ผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ยังไม่เห็นคลิปวิดีโอที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ไปร่วมงานเลี้ยงและร้องเพลงกับ “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนันออนไลน์ แต่เรื่องนี้ยังต้องมีการสอบสวน ยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีความผิดหรือไม่ ย้ำเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน เมื่อสอบสวนได้ถึงแค่ไหนก็ต้องแค่นั้นก่อน

 

ทั้งนี้ ผบ.ตร. เชื่อว่า กรณีการบุกค้นบ้านพักครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 กันยายนนี้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการทำงานจากการขยายผลคดีความ และ เรื่องนี้ยังไม่เกี่ยวกับ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ แต่เกี่ยวกับลูกน้อง 8 คน และ ส่วนตัวยังเชื่อว่า ไม่ใช่ความขัดแย้งภายในองค์กรระหว่าง นายตำรวจใหญ่ทั้ง 2 คน ตามที่มีกระแสข่าว ย้ำเป็นเพียงเรื่องของคดีความ ที่หลักฐานไปถึงใครก็เท่านั้น

 

นายกฯ จ่อตั้งกรรมการสอบ ปมค้นบ้าน บิ๊กโจ๊ก

 

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ได้รับรายงานจากตำรวจไซเบอร์แล้วว่ามีการเข้าค้นบ้านของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แต่ยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ขณะนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ตนเองยังไม่ได้สั่งการอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้เพราะยังไม่มีข้อมูล แต่ได้ดำริไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

 

นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เกี่ยวกับขวัญกำลังใจของประชาชนถามต่อว่า จะเกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ อาจจะต้องดูความเกี่ยวข้องทั้งหมด เมื่อถามว่า สัปดาห์นี้จะเสร็จหรือไม่ในการเคาะชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตามกำหนดการเป็นวันที่ 27 กันยายน จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ

 

ทนายตั้ม ยันไม่เกี่ยวข้องข่าวใหญ่ พร้อมให้ตรวจสอบ

 

ปิดท้ายที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงคดีนายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ถูกศาลอาญากรุงเทพใต้ จำคุกเพิ่มอีก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีเกี่ยวกับทางเพศ ซึ่งศาลให้นับโทษต่อจากคดีก่อนหน้านี้ ตอนนี้นายปริญญ์ โดนโทษจำคุก รวมทั้งหมด 4 ปี 8 เดือน

 

โดยช่วงท้าย ทนายตั้ม มีการโพสต์ถึงข่าวใหญ่ในวันนี้ว่า ข่าวใหญ่ไม่เกี่ยวกับผม และผมยินดีให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบครับ ส่วนใครที่โยงมั่ว ก็ต้องรับผิดชอบคำพูดตัวเองกันด้วย