ตำรวจเร่งสืบ ! คดี พ่อ-แม่ใจโหด ฆ่าลูกโบกปูน เป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - พ่อแม่ใจโหด ฆ่าลูก 2 ขวบที่บ้านพักในกรุงเทพฯ ก่อนนำศพไปโบกปูนที่บ้านในจังหวัดกำแพงเพชร แถมนอนพักอยู่บ้านหลังดังกล่าว 3 วันไม่สะทกสะท้าน ยิ่งเห็นจุดเกิดเหตุยิ่งสลด เจ้าหน้าที่ต้องใช้ค้อนทุบ ฝังลูกลึกเกินครึ่งเมตร ญาติเผยครอบครัวนี้มีปากเสียงเป็นประจำ

 

ตร.เร่งสืบคดีพ่อฆ่าลูกโบกปูน เป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง

 

จากกรณีที่นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง นำตำรวจเข้าช่วยเหลือเด็กหญิงวัย 12 ขวบ และ 4 ขวบ ที่ถูกพ่อทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะตรวจสอบพบว่า มีลูกวัย 2 ขวบหายตัวไปด้วย จึงได้จับกุมพ่อแม่เด็กที่หน้าห้างสรรพสินค้าย่านรังสิต จังหวัดปทุมธานี ทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนร่วมกันทุบตีลูกสาววัย 2 ขวบ จนเสียชีวิตที่บ้านพักในกรุงเทพฯ หลังจากนั้นก็นำศพใส่รถยนต์ไปที่บ้านของแม่เด็ก ในจังหวัดกำแพงเพชร แล้วฝังศพลูกไว้ที่พื้นห้องครัวหลังบ้าน ก่อนโบกปูนซีเมนต์ทับไว้

 

ต่อมาตำรวจคุมตัวทั้งคู่ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปยัง สภ.ปางมะค่า จังหวัดกำแพงเพชร ไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ต้องใช้ค้อนทุบปูนและขุดลงไปลึกถึง 60-70 เซนติเมตร จนพบถุงดำบรรจุร่างเด็ก สภาพศพเห็นแล้วก็สะเทือนใจเป็นอย่างมาก เพราะเด็กนั่งงอเข่า หลังพิงหลุม คาดว่าเสียชีวิตแล้วประมาณ 4 เดือน 

 

ต่อมา พลตำรวจตรี ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 4 เปิดเผยว่า ตอนต้นของการสอบสวน พ่อแม่เด็กไม่ยอมบอกข้อมูล บอกแค่ว่านำลูกสาววัย 2 ขวบไปฝากกับปู่ของเด็ก จึงนำปู่มาสอบปากคำ ทั้งคู่ให้การไม่ตรงกัน สุดท้ายพ่อเด็กให้การสารภาพ ขณะที่ญาติภรรยาของผู้ก่อเหตุ บอกว่า ครอบครัวนี้ สามีภรรยามักมีปากเสียงและทำร้ายร่างกายกัน ทั้งครอบครัวจะมาพักที่บ้านหลังนี้นาน ๆ ครั้ง ซึ่งตนก็ทักทายตามปกติ แต่ครั้งล่าสุดเห็นเด็กมีรอยฟกช้ำตามตัว ก็เกิดความสงสัยว่าเด็กน่าจะถูกทำร้ายร่างกาย 

 

โดยหลังจากตำรวจคุมตัวทั้งคู่ทำแผนฯ ก็ได้นำตัวกลับมาเค้นสอบปากคำที่ สน.บางเขนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยระหว่างตำรวจคุมตัวนายส่องศักดิ์ ไปที่ห้องสืบสวน เจ้าตัวร้องไห้สะอึกสะอื้นยอมรับว่า เป็นคนลงมือฆ่าลูกสาวแท้ ๆ ของตัวเองจริง โดยอ้างว่ามีอาการป่วยและต้องกินยาจิตเวชมาหลายปี พร้อมร่ำไห้ขอโทษสังคม กับเหตุการณ์ครั้งนี้ และบอกรู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกขณะที่ลงมือก่อเหตุกับลูกสาว นายส่องศักดิ์ ไม่ตอบคำถาม แต่มีเสียงสะอื้นดังออกมา นอกจากนี้ยังไม่ตอบคำถามประเด็นมีภรรยาทั้งหมดกี่คน มีลูกกี่คน รวมถึงก่อเหตุฆ่าลูกตัวเองไปแล้วกี่คนด้วย

 

ขณะที่แนวทางการสืบสวนพบว่านายส่องศักดิ์ มีภรรยาทั้งหมด 4 คน ลูก 10 คน อายุระหว่าง 6 เดือน ถึง 22 ปี ในจำนวนนี้พบว่าถูกนายส่องศักดิ์ ฆาตกรรมไปแล้ว 4 คน

 

- ภรรยาคนที่ 1 มีลูกด้วยกัน 1 คน

 

- ภรรยาคนที่ 2 มีลูกด้วยกัน 5 คน ถูกฆ่าไป 4 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด และนำร่างไปฝังย่านสายไหม 2 คน ย่านบางซื่อ 2 คน

 

- ภรรยาคนที่ 3 คือคนปัจจุบัน มีลูกด้วยกัน 3 คน ถูกฆ่าโบกปูนไป 1 คน คือ เด็กหญิงอายุ 2 ขวบ 

 

- ภรรยาคนที่ 4 มีลูกด้วยกัน 1 คน

 

ล่าสุดวันนี้ (20 ก.ย.66) พลตำรวจโท ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เรียกประชุมตำรวจฝ่ายสืบสวนนครบาลหารือแนวทางการสืบสวน หลังมีกระแสข่าวว่าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพกับตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางเขน ว่า ก่อนหน้านี้ได้ฆ่าลูกที่เกิดกับภรรยาคนที่ 2 จำนวน 4 คน

 

จากคำให้การของนายส่องศักดิ์ ย้อนไปตรวจสอบในช่วงปี 2556 และ 2557 พบศพนิรนาม เป็นเด็กทารกถูกนำไปฝังใต้พุ่มไม้ริมถนนสวนรถไฟ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โดยรายแรกมีอายุ 10 เดือน และรายที่ 2 มีอายุ 2 เดือน ทั้ง 2 รายเป็นเพศชาย จากการตรวจสอบพบว่ามีการถูกทำร้ายร่างกาย เสียชีวิตผิดธรรมชาติ โดยสันนิษฐานศพทั้ง 2 ราย อาจเป็นลูกของภรรยาคนที่ 2 โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ทั้งลายนิ้วมือและ DNA ของเด็กทั้ง 2 รายเอาไว้แล้ว และถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูลอย่างละเอียด หลังจากนี้จะต้องตรวจสอบ DNA นำมาเปรียบเทียบระหว่างผู้ต้องหากับเด็กที่เสียชีวิตว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเร่งรัด

 

ส่วนกรณีเด็กอีก 2 รายที่สูญหายไป อดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นแม่เด็กทั้ง 4 คน อ้างว่านำเด็กอีก 2 คนไปทิ้งในพื้นที่เขตสายไหม ซึ่งเด็กที่ถูกนำไปทิ้งทั้งหมดมีอายุต่ำกว่า 1 ปี ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการลงพื้นที่ตรวจสอบและค้นหา โดยจากการสอบปากคำเบื้องต้น พบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น 3 คน คือนายส่องศักดิ์ ผู้ต้องหา และภรรยา 2 คน ซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิงวัย 2 ขวบที่ถูกฆ่าโบกปูน และแม่ของเด็กที่สูญหายไป 4 คน ส่วนพฤติกรรมการก่อเหตุมีความซับซ้อน มีการลงมือลักษณะข่มขืนใจ บางส่วนต้องหาเหตุจูงใจ และทุกคดีมีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกัน จำเป็นต้องใช้เวลา  เบื้องต้นพิจารณาภาพรวมที่ต้องยกระดับคณะทำงานเป็นพิเศษ

 

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติการรักษาผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2559 และได้ขาดช่วงการรักษาไป ซึ่งต้องเชิญแพทย์มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษา โดยไม่ระบุว่าเป็นการรักษาด้วยอาการทางจิตเวชหรือยาเสพติดหรือไม่ แต่ยืนยันว่าผลการรักษาไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีอย่างแน่นอน ขณะนี้ก็ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกายเพิ่มเติม

 

เบื้องต้นตำรวจแจ้ง 3 ข้อหาหนัก กับนายส่องศักดิ์ คือ 1. ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย 2. ร่วมกันปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ 3. ร่วมกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นฯ และอยู่ระหว่างการสอบปากคำภรรยาทั้ง 4 คนของผู้ก่อเหตุ 

 

วราวุธ ส่ง กัญจนา เยี่ยมเด็ก 2 คน เหยื่อพ่อแม่ใจเหี้ยม

 

ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงคดีสะเทือนขวัญดังกล่าวว่า โดยตอนนี้ เด็กอายุ 12 ขวบ และ 4 ขวบ ที่ถูกพ่อแม่ทำร้าย เด็ก 1 คน อยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนเด็กอีกคนอยู่สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี แยกตึกชัย กทม.  

 

โดยตนเองยังไม่ได้เข้าไปพบเด็กทั้ง 2 คน เพราะมองว่า กรณีเช่นนี้ผู้ที่จะพูดคุยกับเด็กได้นั้นควรจะเป็นสหวิชาชีพ หรือผู้ที่ผ่านการทดสอบมาแล้วเท่านั้น

 

จึงตัดสินใจ มอบหมายให้คุณกัญจนา ศิลปอาชา เข้าเยี่ยมเด็กแทนในวันนี้ เพราะคุณกัญจนา ผ่านประสบการณ์ลักษณะเช่นนี้มาแล้วนับ 10 ปี ตนเองนั้น ยังไม่มีประสบการณ์การเข้าไปพูดคุยกับเด็กจึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ

 

นายวราวุธ บอกอีกว่า ขณะที่ตนเองอยู่กระทรวงทรัพย์ฯ เวลาไปตรวจราชการ เห็นสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกสัตว์น้ำ เขารักลูกเขามาก ใครเข้าไปใกล้ลูกเขา จะหวงเป็นที่สุด แต่ว่าเคสนี้ได้เห็นพฤติกรรมของพ่อแม่คู่นี้แล้ว ลูกตัวเองยังทำได้ขนาดนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะเปรียบเทียบกับอะไรดี หากว่าเด็กทั้ง 2 คน พ่อแม่ถูกดำเนินคดี ทาง พม.จะมีมาตรการเรื่องของครอบครัวอุปถัมภ์ให้เด็ก

 

ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มอบนโยบายให้กับข้าราชการ พม.ไปแล้ว โดยให้เน้นถึงคุณภาพครอบครัวอุปถัมภ์ และเลือกครอบครัวอุปถัมภ์ ให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องราวที่กระทบกระเทือนจิตใจเด็กเป็นอย่างไร ครอบครัวอุปถัมภ์ต้องรับทราบ และต้องเข้าใจหาวิธีในการที่จะเยียวยาความรู้สึกต่าง ๆ ให้หายไป เพื่อที่เด็กเติบโตมาจะได้ไม่มีความรู้สึกเช่นนี้ค้างคาอยู่ในจิตใจอีก

 

กัน จอมพลัง จี้โทษประหารชีวิตพ่อใจเหี้ยม

 

ขณะที่ช่วง 15.00 น. ที่ผ่านมา คุณกัน จอมพลัง ซึ่งถือเป็นคนสำคัญของคดีนี้ก็ว่าได้ ได้ลงพื้นที่บ้านพักที่เกิดเหตุย่านบางเขนอีกครั้ง พร้อมจี้ให้ตำรวจสืบสวนขยายผลว่า มีเด็กที่ถูกพ่อใจเหี้ยมคนนี้ฆ่าไปแล้วมากกว่า 5 คน ที่มีข้อมูลอยู่ตอนนี้หรือไม่ เพราะจากพฤติการณ์การก่อเหตุมองว่า โหดร้ายผิดมนุษย์ และไม่เชื่อว่าจะมีอาการป่วยทางจิต เพราะมีการวางแผนหลังก่อเหตุเป็นอย่างดี โดยที่ผ่านมา ตนช่วยเหลือเด็ก ๆ ที่ถูกคนในครอบครัวทำร้ายมาแล้วนับไม่ถ้วน แต่เคสนี้ถือว่าหนักและโหดร้ายที่สุดที่เจอมา จึงอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด