นมแม่ วัคซีนหยดแรก คุณประโยชน์จากการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ค่าน้ำนม” คุณค่าสารอาหารหล่อเลี้ยงทารกแรกเกิดให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ ซึ่งมีการยืนยันจาก องค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ ว่าทารกแรกเกิดควรได้กินแค่นมแม่เพียงอย่างเดียวจนกระทั่งอายุถึง 6 เดือนก่อนให้เริ่มรับประทานอาหราอย่างอื่น และควรกินนมแม่จ่อเนื่องไปจนกระทั่งเด็กอายุครบ 2 ปี หรือนานกว่านั้น ควบคู่กับอาหารตามวัยที่เหมาะสม เนื่องจากนมแม่เป็นอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกด้วยองค์ประกอบด้านโภชนาการสารอาหารต่าง ๆ  การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สารต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินรวมถึงแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหารของลูกด้วย

 

ในเด็กทารกที่เกิดใหม่ยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่สมบูรณ์ น้ำนมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกสำหรับเด็ก เพราะมีภูมิคุ้มกันโรคจำนวนมากที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย การได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทำให้ทารกเติบโตได้สมบูรณ์แข็งแรง

 

 

คุณแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว เป็นเวลา 4 - 6 เดือน ก่อนเริ่มให้อาหารเสริมที่เหมาะสมตามช่วงวัย เพราะนมแม่ถือว่าเป็นสุดยอดอาหารของลูกน้อย ทั้งยังมีประโยชน์กับตัวคุณแม่ด้วยเช่นกัน

 

ประโยชน์ของน้ำนมแม่ต่อลูกน้อย

• ร่างกายมีการสร้างภูมิคุ้มกันโรค

• ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคภูมิแพ้

• ลดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ ปอดบวม และโรคหืด 

• ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง และพัฒนาการมองเห็นให้ดีขึ้น ไอคิวสูง 

• ส่งผลดีต่อไต ไตขับของเสียน้อยกว่า 

• ลดโอกาสการติดเชื้อและฟื้นตัวเร็ว

• ลดโอกาสท้องเสีย ลำไส้อักเสบ และช่วยให้ระบบขับถ่ายดี 

• ลดโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ เมื่อโตขึ้น เช่น เบาหวาน อ้วน ไขมันในเลือดสูง ความดัน 

• ฟันกรามล่างแข็งแรง เกิดฟันเกน้อยลง

 

นมแม่แน่ที่สุด ด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ

       • เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกแรกเกิด เพราะน้ำนมมีสารอาหารครบถ้วน ในปริมาณที่พอเหมาะกับการเจริญเติบโตของทารก นอกจากนี้ยังมีภูมิคุ้มกันโรค ป้องกันการเจ็บป่วยบางอย่างในทารกด้วย

       • น้ำนมแม่ในระยะ 2-3 วันแรกหลังคลอด จะมีสีเหลืองใส และยังมีปริมาณไม่มาก แต่เป็นน้ำนมที่มีคุณค่าทางอาหารในปริมาณเพียงพอต่อทารกแรกคลอด และยังสามารถช่วยขับขี้เทา หรืออุจจาระครั้งแรกออกจากร่างกายทารก เป็นการป้องกันโรคตัวเหลืองในทารกแรกเกิด ส่วนน้ำนมปกติจะเริ่มผลิตขึ้น ภายใน 4 - 5 วันหลังคลอด คุณแม่ควรให้ลูกดูดนมทันทีภายในครึ่งชั่วโมงหลังคลอด และควรให้ลูกดูดนมแม่ ทุก 2 ชั่วโมง หรือตามที่ลูกต้องการ ระหว่างดูดนมแม่ การโอบกอด และการสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด จะทำให้ลูกได้รับความอบอุ่นทั้งร่างกาย และจิตใจ ช่วยสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ซึ่งเป็นการพัฒนาให้ลูกมีจิตใจอ่อนโยน

 

ประโยชน์ของการให้นมบุตรต่อคุณแม่

• ลดโอกาสการเป็นมะเร็งเต้านม และป้องกันโรคกระดูกพรุน 

• ช่วยให้คุณแม่สามารถลดน้ำหนักได้เร็วขึ้น 

• ประหยัดค่าใช้จ่ายจากการใช้นมชงที่มีราคาค่อนข้างสูง

ได้อะไรบ้างจากน้ำนมแม่

• เป็นอาหารที่ดีที่จะทำให้ลูกได้รับความอบอุ่นทั้งร่างกาย และจิตใจ ช่วยสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ซึ่งเป็นการพัฒนาให้ลูกมีจิตใจอ่อนโยน

 

 

ข้อควรรู้เกี่ยวกับสีของน้ำนมแม่

– น้ำนมสีเหลือง : คือหัวน้ำนม เป็นน้ำนมที่คุณแม่ผลิตได้ภายในสัปดาห์แรกหลังคลอด อุดมไปด้วย สารอาหารและสารสร้างภูมิต้านทาน ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ทารก 

– น้ำนมสีใส : เรียกว่า นมส่วนหน้า อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยพัฒนาสมองของทารก มีปริมาณน้ำมาก ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายของทารกได้เป็นอย่างดี

– น้ำนมสีขาวเข้ม : เรียกว่า นมส่วนหลัง ซึ่งมีโปรตีนและไขมันสูงกว่านมส่วนหน้า ช่วยเพิ่มพลังงาน และเสริมสร้างการเจริญเติบโตให้กับทารก

– น้ำนมสีแดง : เกิดจากการที่คุณแม่รับประทานอาหารที่มีสีแดงในปริมาณมาก โดยปกติแล้วน้ำนมจะกลับมาเป็นสีขาวได้ภายในระยะเวลา 2 – 3 วัน นอกจากนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก เช่น มีเลือดปนมาในน้ำนมจากการที่มีหัวนมแตก เส้นเลือดฝอยแตกจากการใช้เครื่องปั๊มนมที่มีแรงดูดมากเกินไป หรือความผิดปกติของเต้ามอื่น ๆ ดังนั้นหากพบว่าน้ำนมมีสีแดงปนเปื้อนนานเป็นสัปดาห์ ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและหาสาเหตุ

นอกจากนี้น้ำนมอาจมีสีอื่น ๆ ได้ ขึ้นอยู่กับอาหารและยาที่คุณแม่ได้รับ ดังนั้นหากคุณแม่พบว่าสีของน้ำนมเปลี่ยนไป แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด

 

อ้างอิงข้อมูลจาก https://chulalongkornhospital.go.th/kcmh/line/mothers-milk-doubles-the-benefits-for-both-mother-and-child/