พ่อแม่สุดอำมหิต ฆ่าต่อเนื่องลูกในไส้ อำพรางโบกปูน ผงะพบแล้ว 5 ศพ !

จากกรณีพ่ออำมหิตทำร้ายลูกวัย 12 ขวบ คุณกันจองพลังได้เข้าไปช่วยเหลือ ขยายผลไปพบว่ามีเด็กอีกกว่า 5 คน ที่ถูกพ่ออำมหิตรายนี้ฆ่าแล้วนำไปอำพรางศพ โดยมีแม่ของเด็กคอยให้ความช่วยเหลือ โดยคนร้ายอ้างว่าป่วยทางจิตเวช ซึ่งอาจทำให้พ้นผิด ?

 

วันที่ 20 ก.ย. 66 คุณปลื้ม (นามสมมติ) เพื่อนบ้านที่แจ้งเหตุเด็กถูกทำร้าย ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ ว่า ตนพบเห็นเด็กอยู่เป็นประจำ เนื่องจากพักอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน เด็กได้เข้ามาขอความช่วยเหลือ บอกว่าถูกพ่อของตัวเองทำร้าย ตอนแรกตนไม่เชื่อ เพราะผู้ก่อเหตุมีอัธยาศัยดี จนเมื่อได้เห็นรอยแผลตามตัวของเด็ก จึงเชื่อและตัดสินใจแจ้งกันจอมพลังเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากแผลที่เห็น คือแผลที่มากเกินกว่าเด็กคนหนึ่งจะรับไหว

 

 

คุณกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ (กัน จอมพลัง) อยากให้สังคมชื่นชมคุณปลื้ม เพราะเป็นฮีโร่ที่ช่วยแจ้งเหตุให้ตนได้เข้าไปช่วยเหลือเด็กได้ทัน เมื่อลงพื้นที่ไปถึงพบว่าบาดแผลตามตัวเด็กคือการถูกมีดเผาไฟมาจี้ตามร่างกาย โดยมีพ่อกับแม่เป็นผู้ลงมือ แต่พ่อกับแม่อ้างว่าไม่ได้ทำ เด็กเป็นออทิสติกจึงอ้างเรื่องราวไปเรื่อย นอกจากนี้ยังขยายผลพบว่า พี่น้องของเด็กคนดังกล่าวอีก 4 คน ถูกพ่อลงมือฆ่าอำพรางศพไปแล้วทั้งหมด กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ยังไม่รู้จะมีจุดจบที่ใด

 

 

ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยา และพฤติกรรมอาชญากร มหาวิทยาลัยมหิดล วิเคราะห์พฤติกรรมของพ่ออำมหิตว่า ไม่ควรนับว่ามีอาการทางจิต แต่คือพฤติกรรมสันดานที่ติดตัวมาตั้งแต่เด็ก รวมถึงความเชื่อวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่ ทำให้คนร้ายมีพฤติกรรมรุนแรงกับภรรยาและลูกของตัวเอง ที่ผู้หญิงหลายคนอาจมองเป็นเรื่องปกติในครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้น และอาการทางจิตไม่ควรเป็นข้ออ้างในการทำร้ายใคร คุณกันจอมพลังเสริมว่า การอ้างว่ามีอาการทางจิต เมื่อดูจากพฤติกรรมการก่อเหตุแล้วเชื่อว่าไม่สามารถอ้างเรื่องนี้ได้

 

 

คุณเตือนใจ คงสมบัติ รองอธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ได้ประเมินเบื้องต้นว่าต้องนำเด็กออกมาจากพื้นที่ เพื่อมาดูแลเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายหรือจิตใจ โอกาสส่งคืนเด็กให้กับพ่อแม่ขึ้นอยู่กับการประเมินในอนาคต คุณกันจอมพลัง ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เด็กมีความประสงค์ว่าไม่อยากกลับบ้าน เพื่อความปลอดภัยจึงขอให้อย่าส่งเด็กกลับไปหาพ่อแม่อีก

 

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/lmzMz_BVNkU?si=_CuMVdyOCvweFoO6