เช้านี้ที่หมอชิต - การเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA ของ นายเศรษฐา ทวีสิน และคณะ ด้วยการเช่าเหมาลำการบินไทย งบประมาณ 30 ล้านบาท ยังเป็นประเด็นร้อนแรงที่หลายฝ่ายตั้งคำถามอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรื่องราคาสูงไปหรือไม่ หรือผู้โดยสารเครื่องบินดังนี้มีใครบ้าง มีผู้ที่นอกเหนือภารกิจไปด้วยหรือเปล่า
หนึ่งในผู้ที่ออกมาส่งเสียงดังในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องก็คือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง ล่าสุด ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กอีกครั้ง โดยเปิดเผยรายชื่อคณะบุคคลที่ร่วมเดินทาง 19 รายชื่อ จากทั้งหมดที่แจ้งไว้ 50 คน บนเที่ยวบินนี้ ระบุว่าปรากฏชื่อบุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการ และไม่เป็นข้าราชการการเมือง อย่างน้อย 2 ราย คือ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นักธุรกิจเอกชน และ นางสาวชนัญดา ทวีสิน บุตรสาวนายกรัฐมนตรี ส่วนภรรยานายกรัฐมนตรี คุณพักตร์พิไล ทวีสิน สามารถเดินทางร่วมด้วยในฐานะ First Lady ที่สามารถไปได้เมื่อนายกรัฐมนตรีไปต่างประเทศในงานที่สำคัญ
ประเด็นเอกชน และบุตรสาว คงเป็นประเด็นที่สังคมต้องตั้งคำถามว่า สามารถทำได้หรือไม่ ที่ใช้งบราชการและที่สำคัญ ซึ่งเมื่อวาน นายกรัฐมนตรี ตอบสื่อว่า ไม่มี (เสียงต่ำ)
ต่อมา มีผู้เข้ามาตั้งคำถามว่า นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ตีความว่าเป็นนักธุรกิจได้อย่างไร เนื่องจากมีบทบาทในพรรคเพื่อไทย เป็นผู้อำนวยการโครงการ The Change Maker และทีมคิดเพื่อไทย รวมถึงเป็นเพื่อนสนิทของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ทำให้ อดีต กกต. สมชัย ออกมาตอบแบบเน้น ๆ ว่า ไม่มีตำแหน่งข้าราชการ หรือข้าราชการการเมือง
ต้องยอมรับว่า เรื่องนี้ส่งผลสะเทือนต่อนายกรัฐมนตรีไม่น้อย ทำให้มีการชี้แจงออกมาจาก นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายบริหาร ว่าในฐานะที่ตนรับผิดชอบด้านการนำเสนอและจัดหาพาหนะสำหรับการเดินทางไปภารกิจราชการต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี การเช่าเหมาลำเครื่องบินสายการบินไทยในครั้งนี้ ได้เปรียบเทียบปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ระหว่าง การใช้เครื่องของกองทัพอากาศ หรือการใช้บริการเช่าเหมาลำ เปรียบเทียบแล้ว เครื่องของกองทัพอากาศแอร์บัส 350 ที่ข้างในเป็น First Class 6 ที่นั่ง และ Business Class 30 ที่นั่ง แต่เก้าอี้ใช้ได้เพียงครึ่งเดียวคือ 15 ที่นั่ง ขณะที่ด้านหลังเป็น Economy Class สภาพภายในตามสภาพ ซึ่งนายกฯ จะนั่งในส่วนของ First Class และท่านอื่น ๆ รวม 5-6 ท่าน ส่วนวีไอพีท่านที่เหลือต้องไปนั่ง Business Class และ Economy Class กองทัพอากาศเสนอราคามา 32 ล้านบาท โดยยังไม่ได้คิดค่าน้ำมันที่สูงขึ้น ขณะที่เดิมการบินไทยเสนอมา 25 ล้านบาท แต่ต้องเพิ่มเป็น 30 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันสูงขึ้น เพราะฉะนั้นหากใช้เครื่องบินกองทัพอากาศอาจราคาถึง 40 ล้านบาท ก็เป็นได้ ซึ่งแพงกว่าราคาของการบินไทย ส่วนค่าอาหารที่มองว่าราคาสูงถึง 1.4 ล้านบาท การบินไทยคิดตามราคาปกติที่บินพาณิชย์แบบทั่วไป เหมาะสมกับราคาที่เสนอมา
ส่วนประเด็นของผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางไปด้วย เช่น บุตรสาวของนายกฯ นางสาวนัทรียา ยืนยันว่า ชำระค่าบริการทุกอย่างเอง ใช้เงินส่วนตัวไม่ได้ใช้เงินของราชการแม้แต่บาทเดียว ส่วนที่ตั้งคำถามว่า มีภาคเอกชนมาด้วยหรือไม่นั้น ก็ได้ยืนยันเช่นกันว่า ไม่มีนั่งเครื่องมาด้วย เอกชนจะเดินทางมาของเขาเอง
ไปดูภาพท่านนายกฯ ขณะอยู่บนเครื่องกันหน่อย การเดินทางครั้งนี้ ท่านนั่งชั้นธุรกิจไม่ใช่ที่นั่งเดี่ยว First Class อย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ ซึ่งน่าจะนั่งสบายกว่า เพราะท่านตัวสูง ขายาว แต่ นายกเศรษฐา กล่าวว่า สบาย ๆ ไม่อยากให้คิดว่าเป็นนายกฯ แล้วต้องเลือกสิ่งที่สบายที่สุดให้ตัวเอง แต่อยากให้คิดว่าใช้งบประมาณอย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพที่สุด
สำหรับในวันนี้ นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ Climate Ambition Summit และในนามของอาเซียน ท่านจะเป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมคู่ขนาน ในฐานะประเทศผู้ประสานงานของอาเซียนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่สำนักงานสหประชาชาติ
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
+ อ่านเพิ่มเติม