“กัน จอมพลัง” ช่วยเหลือ ! เด็ก 4 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย แม่แท้ ๆ กลับนิ่งเฉย

736 ครั้ง

19 ก.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กัน จอมพลัง เข้าช่วยเหลือ หนูน้อยวัย 4 ขวบ ที่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายร่างกาย ภายในซอยพหลโยธิน 48 แยก 22-11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ ตรวจสอบร่างกายเด็ก พบเนื้อตัว ถูกทำร้ายจนเป็นรอยแนวยาวทั่วร่างกาย และที่ต้องตกใจไปมากกว่านั้น เพราะเด็กคนดังกล่าว กัน จอมพลัง ได้เคยเข้าช่วยเหลือจากการถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า มิหนำซ้ำแม่แท้ ๆ กับพ่อเลี้ยงยังไปรับตัวเด็กกลับมาเลี้ยง และทำร้ายเด็กอีก

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง และ เจ้าหน้าที่ พ.ม. เข้าช่วยเหลือ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่คาดว่าถูกพ่อเลี้ยงที่ติดยาเสพติดและติดการพนันทำร้ายร่างกาย แต่แม่แท้ ๆ กลับนิ่งเฉย และยังพาลูกหลบหนีตำรวจ เพื่อช่วยไม่ให้สามีถูกดำเนินคดี แต่ กัน จอมพลัง ก็สามารถตามตัวแม่เด็กกับเด็กจนเจอ และช่วยเหลือเด็กไว้ได้ และได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขนไว้ นี่ก็ผ่านมากว่า 7 เดือนแล้ว คดีความยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนอยู่เลย

ล่าสุดวันนี้ กัน จอมพลัง ได้พาเจ้าหน้าที่ได้บุกไปในบ้านหลังหนึ่ง ที่อยู่ในซอยพหลโยธิน 48 แยก 22-11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เพื่อช่วยเหลือเด็กหญิงคนดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อมีพลเมืองดีแจ้งมาว่า พบเด็กที่ตนเองเคยช่วยเหลือไว้เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว กลับมาอยู่อาศัยกับแม่และพ่อเลี้ยงดังเดิม แถมเด็กยังมีรอยขีดข่วนตามร่างกาย

โดยกัน จอมพลัง ระบุว่า มีพลเมืองดีส่งข่าวเก่ามาให้ตน พร้อมระบุว่า เด็กหญิงวัย 3 ขวบที่ตนเองเคยช่วยจากการที่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายเมื่อครั้งก่อน ปัจจุบันอายุ 4 ขวบแล้ว ได้กลับมาอยู่ที่บ้านพักซอยพหลโยธิน 48 กับแม่แท้ ๆ และพ่อเลี้ยงเช่นเดิม โดยทางพลเมืองดีได้มีการถ่ายภาพร่องรอยตามตัวของเด็กหญิงส่งมาให้ และเมื่อสอบถามก็ได้คำตอบว่า เด็กได้รับบาดเจ็บจากการโดนหม้อหุงข้าว แต่ตนไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากแต่เดิม เด็กหญิงคนนี้เคยถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว วันนี้จึงเดินทางเข้าช่วยเหลืออีกครั้ง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ พ.ม.

ต่อมา กัน จอมพลัง ได้เดินทางไปที่บ้านพักแห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 48 แยก 22-11 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะไปเคาะประตูห้องพัก กระทั่ง นายเอ อายุ 26 ปี และ นางสาวบี อายุ 31 ปี พ่อเลี้ยงและแม่แท้ ๆ ของ เด็กหญิงวัย 4 ขวบ จึงสอบถามถึงเรื่องบาดแผลของเด็กว่าใครทำน้อง นายเอ ที่เป็นพ่อเลี้ยง ได้บอกว่า ตนไม่ได้พักอาศัยอยู่กับแม่ของเด็ก แค่ไป ๆ มา ๆ ตนยืนยันว่าไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกายเด็กตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ที่เป็นข่าวมีการตีลูกเลี้ยง นั้นตนเองทำจริง โดยใช้ไม้แขวนเสื้อตีจนเกิดรอยฟกช้ำตามร่างกาย

ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเคยถูกตำรวจเรียกเข้าไปสอบปากคำในเรื่องทำร้ายร่างกายแล้ว แต่ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีในส่วนนี้ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ซึ่งตนก็เข้าสู่กระบวนการเสียค่าปรับในชั้นศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นมา แม่ของเด็กก็มักจะพาลูกสาวออกไปทำงานด้วย โดยจะไม่ให้อยู่กับตนเหมือนเช่นเดิม

ตนเองยอมรับด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ตั้งแต่ที่ลูกเลี้ยงกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งตนไม่เคยลงมือทุบตี แต่ยอมรับว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนยังข้องเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พาไปตรวจร่างกายก็จะพบสารเสพติดอย่างแน่นอน เนื่องจากเสพยาบ้าเข้าไป

ทางด้าน นางสาวบี แม่เด็ก 4 ขวบ กล่าวว่า ยอมรับว่าในครั้งก่อนตนพาลูกสาวไปพักที่บ้านญาติย่านบางบัวทองจริง เพื่อไม่ให้เป็นคดีความ พร้อมยอมรับว่า ตนเป็นคนตีลูกสาวในครั้งนั้น สาเหตุเพราะลูกสาวดื้อไม่ยอมฟังคำสั่ง และสามีก็เป็นคนตีด้วยไม้แขวนเสื้อเท่านั้น แต่พอเป็นคดีความและมีการช่วยเหลือลูกสาวไปแล้ว

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ พ.ม. ได้นำลูกสาวตนเองไปดูแล ต่อมาเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ พ.ม.ได้โทรศัพท์มาหาตน ขอให้มารับลูกสาวคืน โดยให้เหตุผลว่า ลูกสาวตนเอง ไม่สามารถที่จะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากมีการร้องไห้ตลอดเวลา ตนเองจึงรีบลูกสาวกลับมาอยู่ด้วย

หลังจากลูกกลับมาอยู่ด้วย เวลาลูกสาวดื้อ ก็ไม่เคยตีลูกอีกเลย แต่จะใช้วาจาเสียงดังในการสั่งสอนเท่านั้น ส่วนรอยฟกช้ำที่ปรากฏล่าสุด ตนยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากการทำร้ายร่างกาย แต่เกิดจากลูกสาววิ่งมาชนหม้อหุงข้าว จนเกิดบาดแผล ส่วนรอยอื่น ๆ เกิดจากการพาลูกสาวไปทำงานด้วย

เนื่องจากตนมีอาชีพแม่บ้าน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีสุนัขตัวใหญ่อยู่ด้วย ลูกสาวและลูกของเจ้าของบ้านก็ไปเล่นกับสุนัข แต่ว่าลูกสาวโดนสุนัขข่วนตามร่างกาย จนเกิดแผล ซึ่งเมื่อตนรู้เรื่องก็รีบพาลูกสาวไปหาหมอทำแผลทันที

ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่ได้ปกป้องสามีด้วยเช่นกัน แต่รอยแผลเกิดจากการที่ลูกสาวซุกซนตามประสาเด็กเท่านั้น ยืนยันมีชาวบ้านเป็นพยานได้ ซึ่งหาก พ.ม.จะขอนำลูกสาวไปดูแล ตนก็จะขอปรึกษากับสามีก่อน เพราะอยากจะขอทำหน้าที่ในการเลี้ยงดูลูกสาวเหมือนเดิม อยากทำหน้าที่ในความเป็นแม่ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตัวเองก็เสพยาเสพติดกับสามีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน

ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถาม ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า มีผู้ที่อยู่ในบ้านพักใกล้กลับห้องของเด็กได้ยินเสียงเด็กร้องบ่อยครั้งในช่วงประมาณ 04.00-05.00 น. ลักษณะเหมือน ถูกทำร้ายร่างกายแบบทรมาน ซึ่งพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็ก อ้างกับชาวบ้านว่าบาดแผลที่เกิดตามตัวลูกนั้นมาจากถูกสุนัขข่วน ชาวบ้านหลายคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะเกิดเพราะถูกพ่อเลี้ยงและแม่ทำร้ายร่างกายถึงได้ส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือดังกล่าว

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ พ.ม.จะพาตัวเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ไปตรวจร่างกาย ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อตรวจสอบบาดแผลการถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นจะพาไปดูแลในเบื้องต้น ส่วนพ่อเลี้ยงและแม่ จะถูกพาตัวเข้าสู่กระบวนการตรวจหาสารเสพติด หากพบสารในร่างกาย ก็จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35