ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจลุยค้น บริษัทบัญชี-บ้านพนักงานบัญชี รวม 3 เป้าหมายในพื้นที่เมืองนครปฐม หาหลักฐานเชื่อมโยงว่าอาจมีส่วนร่วมในการตกแต่งบัญชีให้กับบริษัทในเครือ กำนันนก ในการฮั้วประมูล
บุกค้นบริษัทบัญชีหาหลักฐาน กำนันนก ฮั้วประมูล จ.นครปฐม
ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 7, ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจกองบังคับการปราบปราม เข้าตรวจค้นบริษัทบัญชีและบ้านพนักงานทำบัญชี รวม 3 เป้าหมาย ในพื้นที่อำเภอเมืองนครปฐม
สำหรับการตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจสอบสวนกลาง ได้สืบสวนเกี่ยวกับการทำธุรกรรมบัญชีรายรับ-รายจ่าย การส่งงบดุล รวมทั้งการเสียภาษี ของบริษัท นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก จนพบเบาะแสว่า มีการจ้างให้บริษัทบัญชีและพนักงานบัญชีอีก 2 คน ที่นครปฐม จัดทำรายการบัญชีดังกล่าวให้ โดยทำมานานกว่า 20 ปี
เบื้องต้น ได้ยึดเอกสารบางส่วนไปตรวจสอบเพิ่มเติมตามกระบวนการ ซึ่งยังตอบไม่ได้ว่ามีความผิดปกติหรือผิดกฎหมายหรือไม่ โดยเอกสารส่วนใหญ่ที่มีการทำบัญชีมากกว่า 20 ปีย้อนหลัง ทางบริษัทได้ส่งคืนให้กับเจ้าของไปแล้ว เหลือแค่เพียงเอกสารบัญชีภายในปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม
เชิญตัวเจ้าของบริษัทคู่เทียบ กำนันนก ให้ปากคำ จ.นครปฐม
ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ทีมสอบสวน คลี่คลายปมคดียิงสารวัตรแบงค์ ได้เชิญตัวเจ้าของบริษัท สิงห์ชัย เค.พี.เอส. จำกัด ซึ่งเมื่อวานนี้ ถูกตำรวจบุกเข้าตรวจค้น หลังมีข้อมูลว่าเป็นบริษัทคู่เทียบที่ยื่นประมูลงานแข่งกับกำนันนก โดยถูกตั้งข้อสังเกต อาจมีการฮั้วประมูลกันหรือไม่ เชิญตัวเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
หลังให้ปากคำเสร็จ เจ้าของบริษัท สิงห์ชัย ระบุว่า เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม และไม่ได้มีความกังวลใจอะไร ยืนยัน ไม่ได้เป็นเครือข่ายเดียวกับกำนันนก
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าของบริษัทสิงห์ชัย เป็นหนึ่งในคนสนิทของกำนันนก และอาจจะมีรายชื่อที่อยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุ
บิ๊กโจ๊ก หารือ สตง.ตั้งคณะทำงานร่วมสอบฮั้วประมูล
พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังเข้าพบผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อหารือเรื่องฮั้วประมูลโครงการของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก หลังตรวจสอบพบว่ากำนันนก มีเครือข่ายธุรกิจที่เข้าไปรับงานจัดซื้อจัดจ้าง จากหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุปันรวม 1,544 โครงการ ในวงเงินงบประมาณกว่า 7.5 พันล้านบาท
โดยจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกัน ประกอบด้วย ตำรวจ, สำนักงานตรวจเงินแผ่น กรมสรรพยากร, กรมบัญชีกลาง, สำนักงานป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ปปท.
จะประชุมร่วมกันวันอังคารที่ 19 กันยายน เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เพื่อแบ่งหน้าที่ว่าใครจะตรวจสอบประเด็นไหนบ้าง เช่น ตรวจเรื่องฮั้วประมูล และการประมูลโดยผิดกฎหมาย เรื่องการเลี่ยงภาษี และเงินที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย
รวมทั้งเส้นทางการเงิน และข้อมูลในสารบบของกรมบัญชีกลาง ซึ่งงานที่ประมูลทั้งหมดมีมากกว่า 1,500 งาน ที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบว่าการดำเนินงานทุกอย่างถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าผิดก็จะต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน
หากพบว่า มีการฮั้วประมูล ก็จะต้องตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ พร้อมระบุว่าโครงการของกำนันนก ที่ผ่านมายังไม่พบว่ามีการร้องเรียน เพราะไม่มีใครกล้าร้องเรียน แต่หากตรวจสอบก็จะพบหมดว่าใครเสียผลประโยชน์ ใครถูกข่มขู่ทำร้ายก็จะทราบหมดเช่นกัน
ส่วนภาพจากวงจรปิดบ้านกำนันนก ทราบว่าทางสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้กู้ไฟล์หมดแล้ว และได้หลักฐานครบชัดเจนร้อยเปอร์เซนต์ โดยในเวลา 19.00 น. วันนี้ จะเดินทางไปประชุมที่ ภาค 7 และแถลงข่าวในเวลา 20.00 น.
ตำรวจดูวงจรปิด เห็นแล้วนาทียิง สารวัตรแบงค์ จ.นครปฐม
ช่วงเที่ยงครึ่งของวันนี้ พลตำรวจโท อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ นำเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิด เหตุการณ์ภายในสำนักงานบ้านกำนันนก วันเกิดเหตุยิงสารวัตรทางหลวง ไปส่งมอบให้คณะทำงานชุดคลี่คลายคดี ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดยได้เปิดดูพร้อมกันกับตำรวจชุดคลี่คลายคดี ที่มุงดูและวิเคราะห์ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีรายงานว่า กล้องวงจรบริเวณสำนักงานกำนันนก มี 15 ตัว ติดตั้งบริเวณจัดงาน 13 ตัว โดยมี 2 ตัว บันทึกภาพภาพที่เห็นนาทียิง และพฤติการณ์ของคนที่อยู่ภายในงานหลังเกิดเหตุ มีการวิ่งหนีแตกกระเจิง
มีรายงานด้วยว่า การกู้ไฟล์จากเซิฟเวอร์ดังกล่าว กองบัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สามารถกู้ไฟล์จากเซิร์ฟเวอร์ได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น ส่วนเซิร์ฟอีก 1 ตัว อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อกู้อีกครั้ง โดยวิธีการนั้น ได้โคลนนิ่งไฟล์จากเซิฟเวอร์บ้านกำนันนก มาไว้ในเซิฟเวอร์ลูกใหม่ที่สมบูรณ์ จากนั้นจึงเปิดไฟล์ดู เพราะว่าหากเปิดไฟล์จากเซิฟเวอร์บ้านกำนันนก อาจจะทำให้ไฟล์หรือภาพบางช่วงหายไป ดังนั้นขั้นตอนสำคัญในตอนนี้ จึงเป็นการโคลนนิ่งไฟล์จากเซิฟเวอร์บ้านกำนันนก มาไว้ในเซิฟเวอร์ลูกใหม่ที่สมบูรณ์ คาดว่าเย็นนี้ จะได้เห็นภาพในวันเกิดเหตุครบถ้วน
ผกก.ขอโทษขู่ปืนลั่นใส่นักข่าว ลืมกินยาระงับประสาท
จากกรณีที่มีตำรวจยศ พันตำรวจเอก ซึ่งร่วมงานเลี้ยงกำนันนก ขู่นักข่าวที่โทรศัพท์ไปสัมภาษณ์ว่า ไม่ต้องโทรแล้วน้อง ตายไปอีกคนแล้ว จะโทรอะไรอีกอะ จะให้ตายเพิ่มอีกอ่อ พอหรือยังลูกพี่ จะให้ตายเพิ่มอีกกี่คน ถ้าเจอพี่ที่ภาค 7 ก็ไม่ต้องสัมภาษณ์นะ เดี๋ยวปืนมันจะลั่นใส่พวกเอ็งอะนะ
วันนี้ มีรายงานผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี โทรศัพท์พูดคุยกับ พันตำรวจเอก กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท อีก ซึ่ง พันตำรวจเอก กฤษฎาพร ได้กล่าวขอโทษ บอกว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะข่มขู่นักข่าว แต่ช่วงเวลาวันที่เกิดเหตุ มีเพื่อนพี่น้องตำรวจเสียชีวิตถึง 2 คน ส่วนตัวยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่พูดไปในวันนั้นเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ขาดสติ โดยผู้กำกับ สน.พญาไท ยังบอกอีกว่า ปัญหาครั้งนี้เหมือนสึนามิถาโถม จนต้องกินยาระงับประสาท และในวันดังกล่าวก็ไม่ได้กินยาระงับประสาท ทำให้เกิดอารมณ์ พร้อมยืนยันว่า นักข่าวไม่ต้องกลัว ไม่มีการขู่ยิง หรือจะก่อเหตุยิงนักข่าวอย่างแน่นอน เรื่องที่เกิดขึ้นต้องขออภัยทีมข่าวด้วย
หิ้ว รปภ.บ้านกำนันนกสอบเข้ม เค้นเหตุการณ์คืนเกิดเหตุ
ตำรวจนำตัวพนักงานรักษาความปลอดภัยบ้านกำนันนก ที่อยู่ในงานเลี้ยงที่สำนักงานของกำนันนกในคืนเกิดเหตุ ไปสอบสวนภายในห้องสอบปากคำ กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งต่อมาในช่วงบ่าย ตำรวจนำตัว รปภ. คนดังกล่าว ออกจากห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุ แต่ รปภ. คนดังกล่าว เดินก้มหน้าตลอด ไม่ตอบคำถามใด ๆ จากนั้น ผู้สื่อข่าวพยายามถามตำรวจว่า จะคุมตัว รปภ. ไปที่ไหน พาไปชี้จุดหรือไปที่ใด เจ้าหน้าที่ตอบสั้น ๆ ว่า จะนำตัวไปสอบสวนที่อื่น จากนั้นก็คุมตัวขึ้นรถกระบะขับออกไป
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35