ล้างบางอิทธิพล ! บุกค้น 15 จุด “กำนันนก” พบรถใช้หลบหนี หลังยิงสารวัตรแบงค์

401 ครั้ง

13 ก.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตำรวจภาค 7 สนธิกำลังกองปราบ บุกค้นเป้าหมายและอาณาจักร กำนันนก 15 เป้าหมายในนครปฐม เจอปืนนับสิบกระบอก รวมทั้งรถที่ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุยิงสารวัตรแบงค์

ล้างบางอิทธิพล! บุกค้น 15 จุดอาณาจักร กำนันนก จ.นครปฐม

ปฏิบัติการบุกค้นสายฟ้าแลบ เริ่มตั้งแต่ 06.00 น. ที่ผ่านมา หน่วยปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 7 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจกองบังคับการปราบปราม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นเป้าหมายบริษัท และกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่เชื่อมโยงกับคดี นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก กำนันตำบลตาก้อง ทั้งหมด 15 จุดในจังหวัดนครปฐม แบ่งเป็น อำเภอกำแพงแสน 2 จุด และอำเภอเมือง 13 จุด

โดยหนึ่งในเป้าหมายเป็นบ้านพักในซอยวัดทุ่งรี ตำบลทัพหลวง อำเภอเมืองนครปฐม ของนายศักรินทร์ หรือที่เรียกกันว่า กำนันเต้ง คนสนิทของกำนันนก เป็นบ้านทรงโมเดิร์น 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ติดตั้งกล้องวงจรปิด 2 ตัวหน้าบ้าน ชานบ้าน และหลังคาบ้านอีกจุดละ 1 ตัว รวมทั้งหมด 4 ตัว

ตำรวจไปถึงไม่มีใครออกมาเปิดประตู ต้องโทรหา กำนันเต้ง ปรากฏว่า กำนันเต้ง ไม่อยู่ อยู่แต่ภรรยา และให้ลูกน้องออกมาเปิดประตู ก่อนแสดงหมายเพื่อตรวจค้นภายในบ้าน

ในบ้านแบ่งพื้นที่เปิดเป็นร้านรับส่งพัสดุเอกชน มีรถยนต์ BMW สีขาว ป้ายแดง จอดอยู่ที่โรงรถ 1 คัน และรถจักรยานยนต์จอดอยู่อีก 1 คัน ค้นในบ้านพบปืนสั้นอัตโนมัติ 3 กระบอก มีทะเบียน และใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย

ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า บ้านหลังนี้พอตกค่ำก็ปิดเงียบ ไม่มีคนเข้าออก หรือ จัดปาร์ตีอะไร เจ้าของบ้านก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ต่างคนต่างอยู่ ช่วงเช้าก็ไปส่งลูกไปโรงเรียนตามปกติ ส่วนจะมีอาชีพอื่นนอกจากรับส่งพัสดุหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่เป็นครอบครัวที่มาฐานะดีกว่าชาวบ้านในพื้นที่เดียวกัน

ขณะที่ลูกพี่ลูกน้องของนายศักรินทร์ บอกกับทีมข่าว กำนันเต้ง ไม่ได้อยู่บ้านหลังนานแล้ว แต่ยืนยันได้ว่าเจ้าตัวไม่เกี่ยวข้อง และไม่รู้จักกับกำนันนก เพราะไม่ได้ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหรือเป็นนายหน้าที่ดิน แต่ทำธุรกิจรถสไลด์ และเคยเปิดให้บูชาไอ้ไข่จนร่ำรวย

ด้าน นายศักรินทร์ คุยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ ยืนยัน ไม่รู้จักกับกำนันนก ไม่เคยฮั้วประมูลงานใด ๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้ขายข้าวมันไก่อยู่ที่ประเทศกัมพูชา

ยอมรับเคยมีคดีฆ่าคนตายเมื่อ 10 ปีก่อน พ้นโทษมา 5 ปี ก่อนที่จะครอบครองปืนที่ตำรวจพบ ส่วนคำว่า กำนัน นั้น ตนเองไม่ได้รับราชการ แต่เคยติดคุกมาก่อน และคนในคุกก็เรียกกันเอง เพราะว่ามักจะดูแลช่วยเหลือผู้อื่นในคุก

ลุยค้นบริษัทกำนันนก รปภ. ไม่เปิดประตูให้เข้า

อีกจุด ตำรวจเข้าค้นที่บริษัท ป.พัฒนารุ่งโรจน์ หนึ่งในบริษัทที่มีชื่อ กำนันนก เป็นกรรมการ เป็นโรงปูน มีรถบรรทุก และรถแบ็กโฮจำนวนมาก มีพนักงานทำงานตามปกติ

โดยก่อนเข้าตรวจค้น พนักงานสอบสวนอ่านหมายค้นจากศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ต่อหน้าพนักงานของบริษัท แต่พนักงานบริษัท และ รปภ. ไม่ยอมเปิดประตูให้เข้า หัวหน้าชุดตรวจค้นต้องบอกให้ชุดปฏิบัติการพิเศษอินทรี 7 ปีนข้ามประตูรั้วบริษัทเข้าไปภายใน พร้อมเตือนว่าจะค้นตัว รปภ. ทุกคน หากยังไม่ยอมเปิดประตู จนท้ายสุด รปภ. ยอมเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้าไปด้านใน

พบ ฟอร์จูนเนอร์-กระบะ ใช้หลบหนีหลังยิงสารวัตรแบงค์

มีรายงานว่า ขณะที่ตำรวจเข้าตรวจค้นในบริษัท สังเกตเห็นว่าน้องชายของกำนันนก ค่อย ๆ เดินออกมาจากโรงงานแล้วมีรถตู้มารอรับ โดยเจ้าตัวสวมหน้ากากอนามัย มีสีหน้าเรียบเฉย ยังคงปิดปากเงียบ ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ก่อนขึ้นรถตู้ออกจากพื้นที่ไป

ตำรวจยังพบรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว และรถกระบะสีบรอนซ์เทา ลักษณะตรงกับรถของกำนันนก และ นายหน่อง มือปืนที่ยิง สารวัตรแบงค์ เสียชีวิต ที่ใช้หลบหนีในวันเกิดเหตุ จอดอยู่ในบริษัท เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในรถไปตรวจสอบแล้ว

นอกจากนี้ ตำรวจยังไปค้นอีก 1 จุด ที่บ้านของตำรวจนายหนึ่งที่อยู่ในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก พบปืนสั้นขนาด 9 มม. และปืนยาว รวมทั้งหมด 9 กระบอก ยึดมาทำการตรวจสอบที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7

มีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนคลี่คลายคดีธุรกิจของกำนันนก เปิดเผยความคืบหน้าปฏิบัติการตรวจค้นบริษัท และบ้านพักของบุคคลที่มีความเชื่อมโยงทางคดีว่า ตำรวจยึดอาวุธปืนได้นับ 10 กระบอก และเป้าหมายการตรวจค้นแห่งหนึ่ง เป็นบริษัทของอดีตนักการเมืองรายหนึ่ง คาดว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจของกำนันนก ที่ได้รับทำโครงการของจังหวัดนครปฐม จึงต้องตรวจสอบหาความเชื่อมโยงถึงกันอีกครั้ง

ส่วนรถกระบะฟอร์ด และโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ที่กำนันนก และ หน่อง ท่าผา มือปืน ใช้หลบหนี พบว่าเป็นรถของบริษัท

ผบ.ตร.สั่งทำคดีกำนันนกต้องรัดกุม เอาผิดให้ได้

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า การตรวจค้นเป้าหมายที่เป็นเครือข่ายของกำนันนก ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากคดีนี้เป็นที่จับตามอง และสนใจของสังคม

ซึ่งในการทำคดีจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การขยายผลตรวจค้นเครือข่ายของผู้มีอิทธิพล และอีกส่วนคือคดียิง สารวัตรศิวกร ที่จะต้องสืบสวนหาพยานหลักฐานเอาผิดกับกำนันนก และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งตำรวจ และพลเรือน รวมถึงความเกี่ยวเนื่องที่มีตำรวจเข้าไปพัวพันกับผู้มีอิทธิพล

ส่วนเรื่องการเยียวยา พันตำรวจตรีศิวกร เบื้องต้นทางต้นสังกัด คือ กองบังคับการตำรวจทางหลวง และเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจ ได้รวบรวมเงินเพื่อช่วยเหลือครอบครัวแล้ว รวมถึงกรณีของพันตำรวจเอกวชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผู้กำกับเบิ้ม ทางผู้บังคับบัญชาก็ได้รวบรวมเงินช่วยเหลือแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหลักเกณฑ์ในการเยียวยาสำหรับผู้ที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ แม้กรณีของพันตำรวจตรีศิวกร จะไม่เข้าข่าย แต่ก็จะมีสวัสดิการด้านอื่น ๆ ในการช่วยเหลือดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่

ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าตำรวจไปรับใช้ผู้มีอิทธิพล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เชื่ออย่างนั้น เชื่อว่าเป็นแค่ส่วนเดียว แค่บางพื้นที่ ตำรวจส่วนใหญ่ยังเป็นตำรวจที่ดี และไม่ได้อิงกับผู้มีอิทธิพล อยากให้ความเป็นธรรมกับตำรวจทั่วไปด้วยว่ายังมีตำรวจจำนวนมากที่ไม่ได้ไปเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล อาจจะมีบางส่วนในกลุ่มที่ไปก็ไม่ใช่ว่าจะมีความผิดอะไร ทุกอย่างอย่าเพิ่งรีบไปตัดสิน ขอให้ผลการสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน

กรมการปกครองออกหนังสือคุมเข้ม กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน

นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ หลังจากเกิดกรณีของกำนันนก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการเสียชีวิตของสารวัตรแบงค์ และขยายวงกว้างพัวพันเกี่ยวกับตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้หลายนาย

ใจความสำคัญของหนังสือเป็นมาตรการควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีเกียรติ และศักดิ์ศรี ขอให้ยึดมั่น และยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง มีความซื่อสัตย์ สุจริต และความรับผิดชอบ ต้องรักษาชื่อเสียง และรักษาเกียรติศักดิ์ของตำแหน่งหน้าที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มิให้เสื่อมเสีย เป็นแบบอย่างที่ดีของเจ้าหน้าที่รัฐ และบุคลากรภาครัฐที่ปฏิบัติราชการในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

แต่ปัจจุบันยังปรากฏข่าวการประพฤติปฏิบัติตนของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ไม่เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย นโยบายของรัฐบาล กระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล จึงขอให้จังหวัดแจ้งอำเภอกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในการประพฤติตน และการใช้อาวุธปืนในการปฏิบัติหน้าที่

หากปรากฏว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประพฤติปฏิบัติตนไม่ถูกต้อง ไม่เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย นโยบายของรัฐบาล หรือ กระทำตนเป็นผู้มีอิทธิพล ให้นายอำเภอพิจารณาตามมาตรการ

ชาดา ไม่หนักใจ ลุยปราบผู้มีอิทธิพล-มาเฟีย

ด้าน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีได้รับมอบหมายจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ทำหน้าที่ขึ้นทะเบียนกลุ่มผู้มีอิทธิพลหลังเกิดคดีกำนันนก ว่า ทางจังหวัดต้องทำรายงานเข้ามา ซึ่งมีขั้นตอนทางกฎหมายว่า เมื่อรายงานขึ้นมาแล้ว เข้าข่ายหรือไม่ จากนั้นก็ต้องว่ากันไป

เมื่อถามว่าสังคมคาดหวังในการแก้ปัญหาเรื่องนี้มาก หนักใจหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ไม่หนักใจ

เคลื่อนร่าง ผู้กำกับเบิ้ม กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด

ที่วัดตรีทศเทพ ครอบครัวยอดไทยสงค์ พร้อมผู้บังคับบัญชา และเพื่อนตำรวจ นำร่างของ พันตำรวจเอก วชิรา ยอดไทยสงค์ หรือ ผู้กำกับเบิ้ม กลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิด บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

ขณะที่น้องชายของผู้กำกับเบิ้ม เดินเข้าไปพูดกับร่างของพี่ชายที่นอนอยู่ในโลง มองไปที่รูปหน้าศพแล้วหอมไปที่รูป ก่อนจะหันไปกอดเพื่อนที่มาด้วยกัน

ทีมข่าวถามว่าพูดอะไรกับพี่ชาย น้องชายก็มีน้ำตาคลอเบ้า เอามือทุบที่หน้าอกซ้าย บอกว่า ผมรักพี่ชายผม ผมรู้เขาเป็นนักรบ ต้องรับผิดชอบ

จากนั้น ภรรยาและบุตรชายของผู้กำกับเบิ้ม มาถึงวัด ก่อนนำร่างผู้กำกับเบิ้ม ขึ้นรถตู้ ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดใหญ่ท่าเสา จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งทางวัดได้เตรียมสถานที่ไว้รอรับศพ คาดว่าจะถึงวัดช่วงเย็นวันนี้ และจะสวดพระอภิธรรมศพอีก 3 วัน ก่อนทำพิธีฌาปนกิจ วันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน เวลา 15.00 น.

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35