หลักฐานชัด ! ผบ.ตร.ยืนยัน “ผู้กำกับเบิ้ม” ยิงตัวเองดับ จากความเครียด จ.ปทุมธานี

608 ครั้ง

12 ก.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผบ.ตร.ยืนยัน ผู้กำกับเบิ้ม ลั่นไกฆ่าตัวตาย เชื่อเกิดจากความเครียดที่ช่วยลูกน้องตัวเองไม่ได้ เพราะไม่ได้เอาปืนติดตัวลงไปในงานเลี้ยง ขณะที่ตำรวจสอบนักดนตรี พยานปากคำสำคัญที่อยู่ในงานเลี้ยง กำนันนก

ผบ.ตร. ยืนยันหลักฐานชัด ผู้กำกับเบิ้ม ยิงตัวตาย จ.ปทุมธานี

จากกรณี พันตำรวจเอก วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผู้กำกับเบิ้ม ผู้กำกับ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตในบ้านพักย่านปทุมธานี สาเหตุน่าจะมาจากความเครียด เรื่องงานเลี้ยงที่บ้านกำนันนก รวมทั้งมีกระแสข่าวว่า ผู้กำกับเบิ้ม ชักชวน พันตำรวจตรี ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงค์ สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็นลูกน้องให้ไปร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน กระทั่ง สารวัตรแบงค์ ถูกลูกน้องกำนันนก ยิงเสียชีวิต

เปิดเวลา ผกก.เบิ้ม ปลิดชีพ เสียงปืนชัด 1 นัดลั่นมาจากในบ้าน

ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในหมู่บ้าน ช่วงเวลา 04.51 น. วันที่ 11 กันยายน ที่ผ่านมา พบภาพ พันตำรวจเอก วชิรา ลงจากรถแท็กซี่สีชมพูหน้าบ้านคนเดียว ก่อนปีนรั้วเข้าบ้าน จากนั้นไม่ถึง 5 นาที มีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากในบ้านของพันตำรวจเอกวชิรา ซึ่งเวลาจากวงจรปิด ระบุขณะเกิดเหตุ 04:55:47 น. แต่เวลาจริงคือ 04:54:32 น. ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนจากระบบการตั้งเวลาของกล้อง ก่อนที่เพื่อนตำรวจจะไปพบศพ พันตำรวจเอก วชิรา เสียชีวิตในบ้านช่วงบ่าย เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.)

จากการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบรอยกระสุนเข้าบริเวณขมับขวาของศีรษะ ทะลุขมับซ้าย พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมแมกกาซีนบรรจุในรังเพลิง ตกอยู่ด้านขวาห่าง จากศีรษะประมาณ 1 ฟุต มือขวาตั้งค้างอยู่ข้างลำตัว

ทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุ ซึ่ง ผู้กำกับเบิ้ม ไปทานข้าวกับเพื่อนย่านเมืองทองธานี ก่อนจะนอนพักในโรงแรมย่านเดียวกัน ซึ่งระหว่างทานข้าวเพื่อน ๆ ก็ได้พูดคุยให้กำลังใจอยู่ตลอด กรณีที่ไปเกี่ยวโยงกับการกินเลี้ยงโต๊ะจีนที่บ้านกำนันนก

จากนั้น เวลา 04.10 น. ผู้กำกับเบิ้ม เดินออกมาจากโรงแรม ไปขึ้นรถแท็กซี่สีชมพูกลับบ้านพัก ทั้ง ๆ ที่นัดกับเพื่อน ๆ ไว้แล้วว่าจะตื่นมาเจอกัน 09.00 น. (11 ก.ย.) และนัดให้พลขับขับรถมารับไปทำงาน

เจอแล้วมือถือ ผกก.เบิ้ม เก็บไว้กับลูกน้อง

ขณะที่ พลตำรวจโท จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของพันตำรวจตรี ศิวกร หรือ สารวัตรแบงค์ และ พันตำรวจเอกวชิรา หรือ ผู้กำกับเบิ้ม ระบุว่า หลังเกิดเหตุ สารวัตรแบงค์ ถูกยิงเสียชีวิต ผู้กำกับเบิ้ม ก็มีอาการเครียด บ่นให้ฟังในลักษณะพาน้องไปตาย ตนเองพยายามช่วยปลอบ แต่อาการไม่ดีขึ้น และไม่หลับไม่นอน

ก่อนเกิดเหตุ วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เรียก ผู้กำกับเบิ้ม มาพบที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง เวลา 15.00 น. พูดคุยทำความเข้าใจ และอาการดูดีขึ้น ดูผ่อนคลายไปเยอะ แต่ยังบ่นเสียใจที่ทำให้ น้องแบงค์ ตาย อีกส่วนหนึ่งก็ยังเป็นเรื่องที่อยู่ในกลุ่ม 28 ตำรวจที่ไปบ้านของกำนันนกด้วย

พลตำรวจโท จรูญเกียรติ บอกด้วยว่า อาการของผู้กำกับเบิ้ม ไม่ค่อยดี บอกให้พักผ่อน และนอนให้มาก และยังให้ไปกินยานอนหลับ และนัดกันมาพบตอนเช้าวันที่ 11 กันยายน ก่อนเพื่อนจะพาไปกินข้าว และพาไปนอนโรงแรมย่านเมืองธานี และเมื่อส่ง ผู้กำกับเบิ้ม เข้าโรงแรมก็ยังมีลูกน้องเฝ้าหน้าห้อง

รอจนกระทั่ง ผู้กำกับเบิ้ม นอนหลับ ก่อนลูกน้องจะกลับ กระทั่ง 08.00 น. วันที่ 11 กันยายน ลูกน้องไม่สามารถติดต่อ ผู้กำกับเบิ้ม ได้ ไปเปิดห้องก็ไม่เจอ ไปดูวงจรปิดโรงแรมถึงได้ทราบว่า ผู้กำกับเบิ้ม ออกจากโรงแรมไปทางบันไดหนีไฟ ตอน 04.00 น. ไปถึงบ้านเกือบ 05.00 น. ก่อนที่จะตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง

ส่วนเรื่องโทรศัพท์มือถือของผู้กำกับเบิ้ม ได้สั่งให้ลูกน้องผู้กำกับเบิ้มเก็บไว้ สั่งไม่ให้รับสายใคร เพื่อต้องการให้ ผู้กำกับเบิ้ม ได้พักผ่อนจริง ๆ

ผบ.ตร.ยืนยัน ผกก.เบิ้ม ยิงตัวตาย

พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แสดงความเสียใจในเหตุการณ์นี้ และสั่งการให้ทำข้อเท็จจริงให้ปรากฏ ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรมที่สุด เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับคดีที่เกิดขึ้นแล้วรายงานผลให้ทราบ

ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุทาง พันตำรวจ วชิรา บ่นว่า เสียใจที่ สารวัตรแบงค์ เสียชีวิต และขณะเกิดเหตุที่บ้านกำนันนก ก็ไม่ได้เอาปืนลงไปด้วยเพราะเป็นงานเลี้ยง แต่หลังมีการยิง สารวัตรแบงค์ แล้วก็เป็นคนพาคนบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุโดยหน่วยงานต่าง ๆ ไม่มีร่องรอยใด ๆ ไม่มีคนเข้าไปยุ่งเกี่ยวก่อนเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ พฐ. ใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ตรวจพบคราบเขม่าดินปืนในมือของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ข้าง จึงได้จำลองเหตุการณ์ได้ว่าผู้ตายใช้มือขวาถือปืนของตัวเองยิง โดยใช้มือซ้ายประคอง มีรอยกระสุนเข้าที่ศีรษะด้านขวา ทะลุศีรษะด้านซ้าย แนวเฉียงขึ้น

ส่วนหัวกระสุน พบอยู่ในหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ตั้งเวลาทำความสะอาดอัตโนมัติ ทำให้ดูดคราบเลือด และเศษเนื้อสมอง กระเด็นไปทั่วพื้น และติดผนังบ้าน

ครอบครัวรับศพ ผกก.เบิ้ม ทั้งน้ำตา

ที่แผนกนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วยญาติ ๆ ภรรยา เพื่อนร่วมรุ่น และลูกน้อง มารับศพ พันตำรวจเอก วชิรา ก่อนนำร่างไปที่ศาลา 5 วัดตรีทศเทพ เพื่อรดน้ำศพ ในเวลา 16.00 น. และสวด 1 คืน

จากนั้น วันพุธที่ 13 กันยายน จะนำร่างกลับบ้านเกิดที่จังหวัดอุตรดิตถ์ บำเพ็ญกุศลที่วัดใหญ่ท่าเสา สวดพระอภิธรรม 4 วัน และฌาปนกิจ ในวันอาทิตย์ที่ 17 กันยายน เวลา 15.00 น.

แม่ยายของผู้กำกับเบิ้ม กล่าวทั้งน้ำตา บอกว่า ผู้กำกับเบิ้ม ได้โทรศัพท์หาครอบครัวก่อนเกิดเหตุ เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากถึงผู้กำกับเบิ้มหรือไม่ แม่ยาย ตอบว่า เมื่อวานไปที่เกิดเหตุ และได้พูดกับเจ้าตัวไปหมดแล้ว และเมื่อถามว่าติดใจสาเหตุการเสียชีวิตหรือไม่ แม่ยายไม่ตอบอะไร

พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ระบุว่า หลังจาก สารวัตรแบงค์ ถูกยิงเสียชีวิต ก็ทราบว่า ผู้กำกับเบิ้ม มีอาการเครียด พูดจาตัดพ้ออยู่ตลอดเวลา บ่นว่าดูแลน้องไม่ได้ และอยากจะบวชเพื่อขออโหสิกรรม ให้กับ สารวัตรแบงค์ และก่อนหน้าที่จะปลิดชีพตัวเองก็โทรหาคนสนิทอยู่ตลอดเวลา จึงสั่งให้รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวงและเพื่อน นรต. รุ่น 55 เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง

เตรียมออกหมายจับเพิ่มทั้งตำรวจและพลเรือน

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าคดี สารวัตรแบงค์ ถูกยิงเสียชีวิตในงานเลี้ยงบ้านกำนันนก โดยระบุว่า ได้สอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม ส่วนจำนวนบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุ สรุปว่ามีตำรวจทั้งสิ้น 28 นาย พลเรือน 27 คน ในจำนวนนี้มีตำรวจ 6 นาย ถูกแจ้งข้อหาและฝากขังไปแล้ว และมีข้าราชการของกรมราชทัณฑ์ 1 คน ส่วนพลเรือนขณะนี้ถูกดำเนินคดีฐานทำลายหลักฐานรวม 4 คน

ส่วนจะแจ้งข้อหาหรือออกหมายจับใครเพิ่มเติมยังต้องรอการกู้ไฟล์เซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดให้ได้ก่อน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีถึงจะเห็นความชัดเจนว่ามีใครเกี่ยวข้อง หรือ ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ ยืนยันว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่ม ทั้งตำรวจ และพลเรือนอย่างแน่นอน น่าจะไม่เกินวันศุกร์นี้

ส่วนการขยายผลไปถึงเรื่องการประมูลงานจากหน่วยงานราชการ และเว็บฯ พนัน ขณะนี้กำลังดำเนินการสืบสวน รวมทั้งกระแสข่าวเส้นทางการเงินเครือข่ายกำนันนก ที่โอนให้กับตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงวันเกิดเหตุ และตำรวจที่ไม่ได้ไปงาน ตอนนี้ก็มีข้อมูลแล้วว่าอยู่หน่วยงานไหน แต่ยังขอไม่เปิดเผย เพราะรายละเอียดอยู่ในสำนวน

นอกจากนี้ รอง ผบ.ตร. ยังยืนยัน กำนันนก ที่จับกุมเป็นตัวจริง ไม่ใช่ตัวปลอมอย่างที่ชาวโซเชียลตั้งข้อสังเกต

เรียกสอบ นักดนตรี พยานปากเอกงานเลี้ยงกำนันนก จ.นครปฐม

ที่จังหวัดนครปฐม มีรายงานเข้ามาว่า พนักงานสอบสวน ได้เชิญตัวพยาน 5-6 ราย ซึ่งเป็นนักดนตรีที่อยู่ในงานเลี้ยงที่บ้านกำนันนก มาสอบปากคำ และมีการจัดทีมสอบสวนเข้ามาอีกจำนวนหนึ่ง เนื่องจากมีพยานในเหตุการณ์เพิ่มเติมหลายราย จึงต้องเร่งดำเนินการสอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำนานหลายชั่วโมง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ

พบเส้นทางการเงิน กำนันนก โอนรายเดือนให้ ตร.

มีรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของ กำนันนก และนายหน่อง มือปืนที่ถูกวิสามัญฆาตกรรม และตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ พบว่า 5 ใน 6 นายตำรวจที่ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ มีเส้นทางการเงินที่สัมผัสกัน คือ มีเส้นทางการเงินจาก นายหน่อง ถูกโอนไปยังนายตำรวจ 5 นายดังกล่าว อย่างต่อเนื่องครั้งละหลายพันบาท

สอดคล้องกับแนวทางการสืบสวนที่ชุดสืบสวนกองปราบพบว่า นายหน่อง จะทำหน้าที่ถือเงินแทน กำนันนก เพื่อใช้จ่ายต่าง ๆ แทน กำนันนก หรือจ่ายเงินตามที่ กำนันนก สั่งการ ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่า กำนันนก มีส่วนพัวพันกับแก๊งพนันออนไลน์นั้น ขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด อยู่ระหว่างตรวจสอบ

เผาศพ หน่อง ท่าผา มือปืนยิงสารวัตรแบงค์ จ.ราชบุรี

ที่จังหวัดราชบุรี ครอบครัวและญาติ ๆ ทำพิธีฌาปนกิจศพ นายธนัญชัย หมั่นมาก หรือ หน่อง ท่าผา มือปืนที่ยิง พันตำรวจตรี ศิวกร หรือ สารวัตรแบงค์ เสียชีวิต ในงานมีคนมาร่วมงานจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่มีแต่ญาติที่ช่วยกันนำศพมาเวียนหน้าเมรุ 3 รอบ ก่อนทำพิธีเผา มีการบวชเณรหน้าศพ 4 รูป เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ สารวัตรแบงค์

ลูกสาว นายธนัญชัย บอกว่า จนถึงตอนนี้ไม่ได้ติดใจที่พ่อถูกวิสามัญ ส่วนกระแสสังคมที่มาต่อว่าครอบครัว ตอนนี้ก็จะมีฝ่ายที่เป็นห่วงและให้กำลังใจ

ส่งกำลัง ตร.คุ้มกัน นักข่าว ถูก ตร.ข่มขู่

ส่วนกรณีผู้สื่อข่าวช่องดัง โทรไปสัมภาษณ์ 1 ใน 28 ตำรวจ ร่วมงานเลี้ยง บ้านกำนันนก แต่กลับถูกตำรวจนายดังกล่าวที่มีตำแหน่งระดับ ผู้กำกับการ พูดจาลักษณะข่มขู่ว่า ไม่สะดวกให้ข้อมูล พอหรือยัง จะให้ตายเพิ่มอีกกี่คน ถ้าเจอที่ภาค 7 ก็ไม่ต้องสัมภาษณ์แล้ว เดี๋ยวปืนมันจะลั่นใส่พวกเอ็งนะ

ล่าสุด วันนี้ พบว่ามีการจัดชุดปฏิบัติการพิเศษฯ และชุดสายตรวจ มาดูแลความปลอดภัยของผู้สื่อข่าว บริเวณโดยรอบพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 และจุดสำคัญในสถานที่เกิดเหตุ พื้นที่ตำบลตาก้อง จังหวัดนครปฐม จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ ยืนยันว่า ได้รับคำสั่งให้มาดูแลความปลอดภัยของนักข่าว และสังเกตการณ์พื้นที่รอบ ๆ

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35