แม่ช้ำใจ ! ลูกถูกรถชนเสียชีวิต คู่กรณีถูกปรับ 5 พันบาท | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม่ต้องช้ำใจ เมื่อลูกชายคนเดียววัย 13 ปี ขอออกไปตัดผม จากนั้นก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย เพราะน้องเสียชีวิตจากการที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปชนท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่ริมถนน จนร่างกระเด็นไปถูกรถเทรลเลอร์เหยียบซ้ำ ทำให้น้องเสียชีวิตคาที่ และผู้เป็นแม่ต้องมาเสียใจซ้ำสอง เมื่อรอความยุติธรรมในคดีมา 10 เดือน แต่คู่กรณีกลับถูกสั่งปรับแค่ 5,000 บาท และไม่มีการดำเนินอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด

 

เป็นกล้องวงจรปิดของรถเทรลเลอร์ เห็นว่ารถจักรยานยนต์น้องที่เสียชีวิตพยายามขี่แซงทางด้านซ้ายของรถเทรลเลอร์ขึ้นไป แต่แซงไม่พ้น ไปชนท้ายกับรถกระบะที่จอดอยู่ไหล่ทางด้านซ้าย เป็นเหตุให้ร่างน้องกระเด็นเข้าไปในใต้ท้องรถเทรลเลอร์ และถูกเหยียบจนเสียชีวิต จากนั้นคนขับรถเทรลเลอร์ได้ขับรถหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เดือนพฤศจิกายน 2565

 

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุ ตำบลกุ่มหัก อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ไปพบกับ นางสาวมลิวัลย์ พิมพิพัฒน์ อายุ 50 ปี (แม่ผู้เสียชีวิต) ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ลูกชายตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์จะไปตัดผม ระหว่างทางบริเวณถนนเลียบคลองระพีพัฒน์ฝั่งซ้ายเขตเทศบาลหนองแค อำเภอหนองแค ลูกชายได้ถูกรถทับเสียชีวิตตามที่เห็นในคลิป จากนั้นตนเองได้นำศพลูกมาประกอบพิธีทางศาสนา ทั้งเนื้อทั้งตัวตนเองมีเงินอยู่ 1,000 บาท ที่จัดงานศพลูก และมีบริษัทของรถเทรลเลอร์นำเงินมาช่วยงาน 10,000 บาท

 

หลังเสร็จจากงานศพลูก 5 วัน พ่อตนเองก็มาตรอมใจเสียชีวิตตามลูกตนเองไปอีก เนื่องจากพ่อตนเองได้เลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เกิด เขารักหลานคนนี้มาก หลานเป็นเด็กดี เป็นนักกีฬา เล่นฟุตบอลเก่งมาก เคยติดทีมเยาวชนชื่อดังในจังหวัดมาแล้ว หลังจากพ่อตนเองเสียชีวิตไปไม่นาน แม่ตนเองก็มาเสียชีวิตอีก ทำให้ตอนนี้ครอบครัวของตนเองลำบากมาก

 

ส่วนเรื่องคดีความ ตนเองไม่รู้เรื่องกฎหมาย ตนเองจึงได้แต่โทรศัพท์สอบถามพนักงานสอบสวนที่ทำคดีว่าเรื่องคดีความไปถึงไหนแล้ว แต่พนักงานสอบสวนปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลอะไร เพียงแต่บอกว่าอยู่ในสำนวน เดี๋ยวส่งฟ้องศาลให้ จากนั้นตนเองก็ได้แต่รอ ต่อมาเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ตนเองมารู้ว่าศาลแขวงสระบุรี มีคำพิพากษาออกมาว่า ให้ปรับคนขับรถเทรลเลอร์ 5,000 บาท ไม่มีการดำเนินคดีกับใคร ทำให้ตนเองเกิดข้อสงสัยว่าทำไมเจ้าที่ตำรวจไม่สั่งฟ้องรถกระบะที่จอดอยู่ข้างทางด้านซ้ายที่เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์ของลูกชายไปชน และทำไมตำรวจไม่ส่งฟ้องคดีไปที่ศาลจังหวัดสระบุรี เพราะเป็นคดีอาญามีผู้เสียชีวิต แต่กลับฟ้องไปที่ศาลแขวง ตนเองได้ไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดี ตำรวจเลยบอกว่าให้ตนเองหาทนายไปฟ้องแพ่งเอาเองเลย ทางเจ้าที่ตำรวจหมดหน้าที่เท่านี้แล้ว ตนเองจึงรู้สึกท้อ หลังจากที่รอกระบวนการยุติธรรมมา 10 เดือน แต่กลับต้องผิดหวัง เพราะตนเองเป็นคนจน

 

ส่วนเรื่องทนายความตนเองไม่มีปัญญาจะไปจ้างมาสู้คดีหรอก ถ้าตนเองมีเงินตนเองคนจ้างทนายมาสู้คดีตั้งแต่ลูกเสียชีวิตวันแรกแล้ว