เช้านี้ที่หมอชิต - การแถลงนโยบายรัฐบาลในวันนี้ส่อเค้าดุเดือด เพราะมีทั้งฝ่ายค้านที่มากประสบการณ์อย่างพรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายค้านที่การอภิปรายแต่ละครั้งข้อมูลแน่นปึ้กอย่างพรรคก้าวไกล ที่ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คำแถลงนโยบายรัฐบาลของรัฐบาลเศรษฐา แย่กว่า เมื่อเทียบกับรัฐบาลทักษิณ ยิ่งลักษณ์ หรือ กระทั่งรัฐบาลบิ๊กตู่
ฝ่ายค้านซัดนโยบาย เศรษฐา แย่กว่าสมัย ทักษิณ-บิ๊กตู่
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำแถลงนโยบายของรัฐบาล ว่ามีมาตรฐานการทำนโยบายต่ำกว่าเดิม ต่ำกว่าสมัย คุณทักษิณ และ คุณยิ่งลักษณ์ ในสมัย คุณทักษิณ หลายนโยบายมีความชัดเจน เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ ในสมัย คุณยิ่งลักษณ์ ก็พูดชัดว่า ในหนึ่งปีจะมีนโยบายอะไรที่ทำบ้าง แต่นโยบายของรัฐบาลนี้แบ่งเป็นนโยบายระยะสั้น นโยบายระยะยาว โดยไม่รู้ว่าสั้นยาวกี่ปีกี่เดือนกี่วัน จึงควรชี้แจงในสภาเพื่อความชัดเจน
ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า หากประเมินจากคำแถลงนโยบายที่ได้รับมา พบว่าไม่ได้สะท้อนถึงความพร้อมของรัฐบาลเลย ลักษณะไม่แตกต่างจากการแถลงนโยบายในปี 2562 ของ พลเอก ประยุทธ์ ซึ่งตอนนั้น อาจารย์ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายด้วยคำ 3 คำ ได้แก่ โลเล หลอกลวง และเลื่อนลอย ที่สามารถนำมาใช้กับคำแถลงนโยบายของ นายเศรษฐา ในเวลานี้ได้ และดีไม่ดีเมื่อเทียบกับรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ เผลอ ๆ ยังแย่กว่าด้วยซ้ำ
โรม เผย ก้าวไกล พร้อมชำแหละนโยบายรัฐบาล
ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ ได้โหมโรงการอภิปรายด้วยภาพสองภาพนี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ภาพหนึ่งเป็นภาพ นายเศรษฐา เห็นหน้าตาชัด ๆ แต่อีกภาพพอลอกตาออกข้างในกลายเป็นดวงตาของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร เรามีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณโรม ในเรื่องนี้ว่า เหตุใดจึงเลือกใช้ภาพในการสื่อสารเพื่อเชิญชวนคนมาฟังการอภิปราย
อย่างไรก็ตาม คุณโรม ยืนยันว่า เราพร้อมที่จะให้โอกาสในการชี้แจงและอธิบาย สิ่งที่ คุณเศรษฐา พูดอาจจะดีก็ได้ ส่วนเป้าหมายในการอภิปรายของก้าวไกล คือการถามหาความชัดเจนในสิ่งที่รัฐบาลจะทำ อะไรคือคำสัญญาที่รัฐบาลนี้จะมอบให้พี่น้องประชาชน สำหรับผู้อภิปรายเตรียมไว้ 30 คน ในเวลา 10 ชั่วโมงที่มี มีครบทุกเรื่องทั้งประเด็นการเมืองเศรษฐกิจและสังคม ช่วงท้าย เราได้ถามถึงประเด็นร้อนของสังคมในขณะนี้ ซึ่งอาจกลายเป็นโจทย์ใหม่ท้าทายรัฐบาลเศรษฐา ยิ่งกว่าเรื่องเศรษฐกิจ นั่นก็คือปัญหาอย่างกรณี กำนันนก ที่สะท้อนหลายปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรม ไม่ว่า ส่วย ตั๋วอาวุธปืน บ้านใหญ่ มาเฟีย คำแถลงที่มีจะไปแก้เรื่องเหล่านี้ได้ไหม และก้าวไกลมีข้อเสนออะไรหรือเปล่า
เศรษฐา ลั่น ไม่นอนบ้านพิษณุโลก
ภารกิจ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีกันบ้าง แม้เป็นวันอาทิตย์ ท่านก็ทำงานไม่หยุด เมื่อวานเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นไปประชุมต่อที่บ้านพิษณุโลก เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด ใช้เวลาประชุมเกือบ 2 ชั่วโมง จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้นั่งรถยนต์ส่วนตัวออกจากบ้านพิษณุโลก สื่อก็เลยถามว่าจะนอนที่บ้านพิษณุโลกไหม เนื่องจากเป็นบ้านประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ท่านตอบว่า ได้เดินดูรอบบ้านพิษณุโลกซึ่งหลายอย่างดูเรียบร้อย และจะมาสลับใช้งานที่บ้านสำหรับการจัดเลี้ยง แต่คงไม่ได้มานอน พร้อมชมว่า มีการรักษาความสะอาดดี
คือที่สื่อถาม คงเป็นเพราะลือกันมาตลอดว่า บ้านพิษณุโลกเจ้าที่แรง ผีดุ เช่น หญิงสาวแต่งชุดโบราณท้าวหิรัญพนาสูร เสียงร้องและเสียงฝีเท้าของม้ากลางดึก ซึ่งเชื่อกันว่ามาจากรูปปั้นม้าทองแดงบริเวณสนามหญ้าภายในบ้าน ทำให้ที่ผ่านมามีนายกรัฐมนตรีนอนที่นี่แค่สองคน คนแรกคือ ป๋าเปรม นอนได้ 7 วัน ก็ย้ายกลับบ้านสี่เสาโดยไม่ทราบสาเหตุ อีกท่านหนึ่งคือ อดีตนายก ชวน นอนประมาณ 6 เดือน ช่วงที่มีการซ่อมใหญ่บ้านพักของท่านในซอยหมอเหล็ง โดยมีรายงานว่าก่อนที่จะอยู่อาศัยมีการนำพราหมณ์จากภาคใต้ขึ้นมาทำพิธีปัดรังควานและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก่อนเข้าพัก
ส่วนยุค ท่านทักษิณ ลือกันว่าช่วงที่ คุณหญิงอ้อ นำคนมาทำความสะอาด มีผีเข้าพนักงานหญิงคนหนึ่ง และท่านก็ไม่ได้มาอยู่ อย่างไรก็ตาม นายวิษณุ เครืองาม บอกว่า สาเหตุที่นายกรัฐมนตรีหลายท่านไม่ได้มาอยู่ ไม่เกี่ยวความเฮี้ยน ผีสางเทวดา หรือ เจ้าหน้าที่ใด ๆ แต่เป็นเรื่องเสียงที่ไม่ว่าคุยอะไรก็ได้ยินกันไปหมด ประชุมชั้นสาม คนชั้นหนึ่งก็ได้ยิน เสียงอึกทึกภายนอกก็เข้ามาในบ้านได้ ที่จริงไม่มีอะไร
พักเรื่องผีสางกลับมาเข้าประเด็นกันต่อ เพราะการประชุมที่บ้านพิษณุโลก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำลังเกาะติดคดีกำนันนก ได้เดินทางมาเข้าพบนายกฯ ด้วย คุยอะไรกันบ้างไหม
พบกับรายการ “เช้านี้ที่หมอชิต” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-7.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35