ซื้อรถเงินสด vs ผ่อน ข้อดีข้อเสียต่างกันอย่างไร ? | เงินทองของจริง

เปิดซีรีย์เกี่ยวกับยานพาหนะ ที่เป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของเรา เมื่อพูดถึงการซื้อรถยนต์ ควรซื้อเงินสด หรือว่าขอสินเชื่อดีกว่า ?

 

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ตอบได้ยาก เพราะจะตอบในเชิงคณิตศาสตร์หรือตอบในเชิงต้นทุนอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องตอบในเรื่องของความรู้สึกด้วย บางคนเลือกไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องซื้อผ่อนเท่านั้น แต่ถ้าหากว่ามีเงินก้อนอยู่ ก็สามารถซื้อสดได้อย่างสบายใจ

 

ยกตัวอย่าง คนที่ใช้เงินสดซื้อรถยนต์เพราะไม่ชอบการเป็นหนี้ เมื่อรู้สึกว่ามีใครมาทวงถามหนี้ ก็จะไม่สบายใจ ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็มี นอกจากนั้นการซื้อรถยนต์ด้วยเงินสดยังมีข้อดีคือการไม่มีภาระหนี้ ทำให้เงินที่ได้จากรายได้ถูกนำไปจ่ายเพียงส่วนที่เหลือคือ น้ำมัน ประกันภัย และอื่น ๆ แทน แต่ว่าข้อเสียก็ยังมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ โดยต้องวางแผนการเงินให้ดี ความหมายคือหากนำเงินทั้งก้อนที่มีอยู่ไปซื้อรถยนต์ แล้วเงินสดหมดมือ หรือมีไม่เพียงพอสำหรับเผื่อสำรองฉุกเฉิน ซึ่งกรณีนี้ถือว่าไม่เหมาะสม เพราะหากซื้อรถยนต์ไปแล้ว เงินในมือเหลือเพียง 100,000 บาท หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น จะสามารถดูแลตัวเองได้นานถึง 6 เดือนหรือไม่ ?

 

หากเป็นการใช้สินเชื่อกู้ซื้อรถยนต์ ข้อดีคือใช้วิธีการทยอยจ่าย ซึ่งแล้วแต่การวางแผนการผ่อน โดยจำนวนปีที่มากขึ้นจะมีผลต่อดอกเบี้ยโดยรวมที่แพงขึ้น แต่สำหรับบางคนที่มองว่าการซื้อรถยนต์มาเพื่อใช้ในการดำรงชีวิต ซึ่งอาจจะมีเงินสำรองไม่มาก ฉะนั้นการจ่ายเงินก้อนใหญ่ไปทีเดียว ก็อาจจะเป็นทางเลือกที่ไม่เหมาะ จึงเก็บเงินก้อนไว้ดีกว่า เพื่อนำไปบริหารจัดการเรื่องอื่น ๆ แล้วค่อยทยอยผ่อนจ่ายไปเรื่อย ๆ แทน

 

การวางเงินดาวน์ โดยส่วนใหญ่แล้วตัวเลขที่มักได้ยินคือ 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยอดเงินดาวน์ที่มากขึ้น ย่อมส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาที่น้อยลง เพราะยอดจัดไฟแนนซ์ยิ่งน้อย ทำให้ค่างวดและดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายยิ่งต่ำลงด้วย นอกจากนั้นการวางเงินดาวน์ถึงระดับ 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้ไม่ต้องมีคนค้ำประกันด้วย และสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดีคือระยะเวลาและความสามารถในการผ่อน ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่สุด ว่าผ่อนไหวหรือไม่ ประเมินความตัวเองว่าพร้อมแค่ไหน

 

การเลือกสินเชื่อรถยนต์ เราสามารถเลือกไฟแนนซ์ได้เองหรือไม่ ? เหมือนต่างอย่างไรกับการเลือสินเชื่อประเภทอื่น ๆ สำหรับคำถามนี้ต้องบอกว่าในยุคปัจจุบันมีความยากขึ้น เหตุผลบางส่วนคือรถยนต์บางแบรนด์จะมีบริษัท Leasing เป็นของตัวเอง ฉะนั้นเขาจึงอยากให้ลูกค้าใช้บริการกับเขาไปในตัว หรือโชว์รูมหลาย ๆ แห่งที่มีการผูกสัญญา MOU ร่วมกับบริษัทไฟแนนซ์ ซึ่งเขาอาจจะเสนอให้ลูกค้าเลือกได้ 2-3 ราย ตามที่เขาผูกสัญญาเอาไว้ โดยะมีเงื่อนไขแตกต่างกันไป เช่น ดอกเบี้ย ระยะเวลา วงเงิน หรืออื่น ๆ ดังนั้น หากถามว่าสามารถเลือกไฟแนนซ์ได้เองหรือไม่ ? จริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องผิด เพราะคนขายรถย่อมอยากขายรถ เพียงแต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน การใช้ไฟแนนซ์จากโชว์รูมถือว่ามีความสะดวกมากกว่า เพราะการเป็น Partner กัน ให้ความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ทำให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น

 

นอกจากนั้น ความยากลำบากของการไปสำรวจแต่ละไฟแนนซ์ด้วยตัวเองคือต้องตรวจสอบประวัติของผู้กู้ ทั้งประวัติการชำระหนี้เดิม คะแนนเครดิต หรือ Credit Score และรายได้ต่าง ๆ ด้วย ซึ่งหากใช้บริการไฟแนนซ์ของทางผู้ขายรถยนต์ที่ผูกสัญญากันไว้ จะทำให้เอกสารมีความเข้มข้นน้อยลง แต่หากเป็นการยื่นเองก็ต้องเตรียมเอกสารที่วุ่นวายและต้องดำเนินการเองทั้งหมดทุกขั้นตอน