ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อวานนี้มีสองสามีภรรยาติดต่อมาในเพจของรายการถกไม่เถียง ขอความช่วยเหลือว่าโดนเจ้าหนี้ขู่ฆ่า และเจ้าหนี้กำลังจะไปบ้านของพวกเขาที่จังหวัดน่าน ยิ่งทำให้หวาดกลัวว่าพ่อแม่และลูกจะโดนทำร้าย ทางเราจึงส่งนักข่าวไปดูว่าเป็นอย่างไรกันแน่ ได้พบคนที่ถูกสองสามีภรรยากล่าวหาว่าเป็นเจ้าหนี้ด้วย ซึ่งให้ข้อมูลแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
2 ผัวเมียอ้างถูกยึดของชดใช้หนี้ ซ้ำโดนขู่ฆ่า
นางสาวณัฐทิตา และนายสุขุม สองสามีภรรยา เป็นชาวอำเภอปัว จังหวัดน่าน ร้องเข้ามาในรายการถกไม่เถียงว่า โดนกลุ่มคนบุกออฟฟิศของตน ที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เมื่อวันเสาร์ที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อไปยึดข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ในออฟฟิศ ชดใช้แทนหนี้
โดยสองสามีภรรยาเล่าที่มาที่ไปของเหตุการณ์ว่า ได้เปิดบริษัททำธุรกิจเสื้อผ้าและเครื่องเงินเมื่อปี 2563 ต่อมาต้นทุนไม่พอจึงเปิดระดมทุน ก็มีคนมาลงทุนด้วย แต่ต่อมาเริ่มขายของไม่ดี คนที่ร่วมลงทุนยอมรับการขาดทุนไม่ได้ ขอให้ตนทำสัญญาเงินกู้ ว่ากู้เงินจากผู้ร่วมลงทุน
2 สามีภรรยาเล่าต่อว่า จนมาถึงปีนี้บริษัทขาดทุน จึงได้เจรจากับผู้ลงทุนหลายคน หรือตอนนี้ก็คือเจ้าหนี้ โดยพวกตนขอทยอยใช้หนี้ แต่บรรดาเจ้าหนี้ไม่ยอม จึงไปฟ้องศาล ศาลไกล่เกลี่ยให้ผ่อนชำระได้ แต่ยังไม่ทันได้ผ่อนชำระงวดแรก ก็เกิดเรื่องเสียก่อน โดยวันเกิดเหตุพวกตนจ้างรถบรรทุกไปขนของเพื่อย้ายออฟฟิศไปจังหวัดน่าน แต่โดนกลุ่มเจ้าหนี้ตามมายึดของ มาไลฟ์ผ่านติ๊กต๊อก จนเกิดการตบตีกันตามภาพนี้
นางสาวณัฐทิตา บอกว่า นอกจากกลุ่มเจ้าหนี้ไปไลฟ์จนเกิดการตบตีกันแล้ว ยังยึดข้าวของเครื่องใช้บางอย่างไปด้วย อีกทั้งในระหว่างที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวอยู่ ก็บอกด้วยว่ากลุ่มเจ้าหนี้กำลังไปที่บ้านของเธอที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน เพื่อไปยึดของที่บ้าน และมีการขู่ฆ่าด้วย
คดีพลิก รุมโต้ 2 ผัวเมียอ้างถูกยึดของชดใช้หนี้-ขู่ฆ่า ที่แท้ต้มตุ๋น
ทันทีที่สัมภาษณ์ 2 สามีภรรยาเสร็จ ผู้สื่อข่าวข่าวเย็นประเด็นร้อน ได้ไปที่บ้านของ 2 สามีภรรยาในอำเภอปัว ไปเจอผู้ร่วมลงทุนหรือเจ้าหนี้ มาที่บ้านหลังดังกล่าวจริง แต่เมื่อสอบถามกลับได้ข้อมูลคนละมุม เรียกได้ว่าเป็นหนังคนละม้วน ที่แตกต่างจากข้อมูลของ 2 สามีภรรยาอย่างสิ้นเชิง
หนึ่งในผู้แทนกลุ่มที่มาตามทวงเงิน เป็นผู้หญิงที่อยู่ในคลิปตบตีกับนางสาวณัฐทิตา โดยเธอบอกว่า ตัวเธอเป็นดาราสาวชนเผ่าม้ง มีชื่อเสียงในแวดวงชนเผ่าม้ง เธอได้รับการชักชวนจาก 2 สามีภรรยาคู่นี้ ให้ไลฟ์ขายสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องเงินของชนเผ่าม้ง แต่ว่าทำไปทำมา เริ่มรู้ว่า 2 สามีภรรยาไปต้มตุ๋นชาวบ้าน หลอกให้มาร่วมลงทุน มีชาวบ้านเสียหายนับสิบล้านบาท ทำให้เธอเสียชื่อเสียงไปด้วย และเธอก็เป็นผู้ที่ร่วมลงทุนที่เสียหายด้วย ซึ่งเมื่อผู้ที่โดนหลอกก็มาตามทวงเงิน จึงรวมตัวกันเพื่อทวงเงินคืน ส่วนคลิปเหตุการณ์ตบตี เธอพาผู้เสียหายไปตามทวงเงิน เพราะรู้ว่าจะย้ายออฟฟิศหนี แต่กลับโดนนางสาวณัฐทิตา ใช้แม่กุญแจตบที่ใบหน้า จนเป็นแผลต้องเย็บ 4 เข็ม ส่วนการตามมาทวงเงินที่บ้าน ก็พาผู้เสียหายมาจริง แต่ติดต่อผู้นำชุมชนเพื่อให้พามาบ้านของนางสาวณัฐทิตา ไม่เคยมีใครขู่ฆ่าด้วย
ผู้สื่อข่าว ได้สอบถามคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเจ้าหนี้คนอื่น ๆ ว่าเป็นจริงเหมือนที่ดาราสาวชาวม้งพูดจริงหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่า พวกตนถูก 2 สามีภรรยาหลอกและต้มตุ๋นจริง เช่นนางสาวพร เป็นชาวเชียงรายได้ดูไลฟ์สดขายเสื้อผ้าม้งและเครื่องเงิน และมีการประกาศเชิญชวนลงทุนก็สนใจ แต่ว่าพอไปขอร่วมลงทุนจริง นางสาวณัฐทิตา ก็ให้เซ็นสัญญาเงินกู้ โดยให้เธอเป็นเจ้าหนี้ จะให้ผลประโยชน์ 3 เปอร์เซ็นต์ เธอจึงลงทุนไปด้วย 1.5 ล้านบาท 2-3 เดือนแรกจ่ายผลตอบแทนให้ แต่ต่อมาก็ไม่จ่ายเลย เอาไปทั้งเงินต้นด้วย เธอจึงไปฟ้องศาล ซึ่งศาลให้ชดใช้ แต่สองผัวเมียก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด
ส่วนนางสาวปิ่น เป็นชาวเชียงใหม่ ก็หลงไปร่วมลงทุนในลักษณะเดียวกัน ลงทุนไป 100,000 บาท ถูกให้ทำเป็นสัญญากู้เงินเหมือนกัน ได้เงินตอบแทนแค่ 2 เดือน ก็หายไปเลย
ยังมีนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่ง วัย 16 ปี ในจังหวัดพะเยา ถูกหลอกให้ร่วมลงทุนตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว 100,000 บาท ได้ผลตอบแทนเพียงสามเดือนก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย จนทำให้เด็กเกิดอาการซึมเศร้า ชอบขึ้นไปเหม่อลอยอยู่บนอาคารสูง ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายได้นำเด็กเข้าแจ้งความที่ สภ.เชียงคำ
นอกจากนี้ ยังมีข้าราชการครู ในจังหวัดเชียงใหม่ โดน 2 สามีภรรยาหลอกเป็นธุระจัดการวีซาไปต่างประเทศว่าสามารถทำได้แน่นอน โดยเรียกค่าดำเนินการกว่า 430,000 บาท แต่พอถึงเวลาทั้งสองสามีภรรยาได้หลบหน้า ติดต่อทวงถามก็ไม่ได้
ไปฟังเสียงบรรดาผู้ที่ถูก 2 สามีภรรยา กล่าวหาว่าเป็นเจ้าหน้าที่บุกทวงเงินกัน
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35