สาวไทยร้อง ! ถูกหลอกขายบริการที่อินเดีย บังคับรับแขกจนซิลิโคนแตก | เบื้องหลังข่าว กับ กาย สวิตต์

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กัน จอมพลัง พา 2 หญิงสาวถูกหลอกไปขายบริการทางเพศที่ประเทศอินเดียบังคับขายบริการทางเพศ บังคับให้รับแขกวันละ 14 คน จนซิลิโคนแตก สาวไทยพยายามหลบหนีออกมา แต่ถูกจับตัวได้ พอโดนจับตัวได้ก็ทำร้ายร่างกาย ถูกเอาไปขังในห้องมืด ไม่ให้เห็นแสงเห็นตะวัน หากต้องการกลับไทยให้หาเงินมา 75,000 บาท เพื่อนแลกกับการปล่อยตัว

 

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กัน จอมพลัง พานางสาวเอ นามสมมติ อายุ 30 ปี และ นางสาวพลอย นามสมมติ อายุ 29 ปี เหยื่อหญิงไทยถูกคนไทยหลอกไปทำงานที่อินเดีย แต่กลับถูกส่งไปค้าประเวณีโดยมีคนไทยเป็นคนคุม เหยื่อเคยหลบหนีแต่ถูกตามตัวเจอ และลากกลับมาทำร้ายจนซิลิโคนแตก ถูกขังอยู่ในห้อง 24 ชม. นาน 8 วัน และยังขู่ว่าถ้าหากหนีอีกจะเอาให้เสียชีวิตเลย วันนี้เหยื่อทั้ง 2 คน ได้นำหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอที่ถูกหลอกเข้าพบ พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ติดตามนายหน้าที่หลอกลวงมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

นางสาวเอ นามสมมติ เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ได้มีเพื่อนที่รู้จักมาชักชวน ให้ไปทำงานเป็นพนักงานนวดที่ประเทศอินเดีย อ้างว่าจะใช้วีซ่าอยู่ได้ประมาณ 1 ปี พร้อมกับระบุว่าหากอยู่ได้นานจะได้รับรายได้ประมาณเดือนละ 100,000 บาท ก่อนที่เพื่อนคนดังกล่าวจะส่งเบอร์โทรศัพท์ นายหน้าจัดหางานที่คือ นางสาวอารยา หรือ กุ้ง ตนเองจึงได้ทักทางแอพพลิเคชัน WhatsApp ไปพูดคุยกับ นางสาวกุ้ง บอกให้ตนเองส่งเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลส่วนตัวไปให้ ต่อมาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ตนเองก็ได้รับวีซ่า พร้อมกับตั๋วเครื่องบิน โดยที่ตัวเองไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ

 

จนกระทั่งวันที่ 21 สิงหาคม ตนเองได้นัดเจอกับ นางสาวกุ้ง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นได้เดินทางไปที่ประเทศอินเดีย กับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นคนแนะนำมาอีกคน เมื่อลงที่สนามบินมุมไบ เมื่อไปถึงได้มีทีมงานของนางสาวกุ้งมารับที่สนามบิน ได้พาพวกตนเองนั่งรถไปเมืองสุรัช ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากสนามบินไปประมาณ 6 ชั่วโมง เมื่อไปถึง พบว่าเป็นบ้าน ลักษณะคล้ายอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า ซึ่งตนเองสังเกตเห็นว่าจะมีคนไทย เป็นผู้หญิงชื่อหยก เป็นคนควบคุมดูแลสถานที่นี้อยู่ ก่อนที่จะยึดพาสปอร์ตตนเองกับรุ่นพี่ไว้

 

หลังจากนั้นก็พาตนเองและเพื่อนรุ่นพี่ ไปที่ร้านนวดแห่งหนึ่ง อ้างว่าจะพาไปดูงาน ซึ่งตนเองเห็นสถานที่แล้วก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะก็เป็นสถานนวดปกติ จากนั้นก็มีคนมาเรียกตนเองเข้าไปในห้อง และให้ไปบริการลูกค้า แต่ไม่ใช่การนวดอย่างที่ตกลงกันไว้ เพราะลูกค้าบอกว่าต้องการจะมีเซ็กส์กับตนเอง ทำให้ตนเองรู้สึกตกใจ พร้อมกับปฏิเสธทำให้ลูกค้าที่เป็นชาย ชาวอินเดียใช้มือตบหน้าตนเอง ก่อนที่ใช้กำลังบังคับข่มขืนตนเอง หลังจากนั้นตนเองก็ถูกกระทำอย่างนี้มาโดยตลอด 8 วัน ที่ตนเองทำงานอยู่ในร้านดังกล่าว จนกระทั่งตนเองต้องล้มป่วยลงเพราะ ซิลิโคนจากหน้าอกแตกทำให้เป็นไข้สูง แต่ทางร้านก็ไม่ได้พาตนเองไปโรงพยาบาล ให้กินแค่ยาพาราเซตามอล ก่อนจะบังคับให้ตนเองให้บริการลูกค้าตามปกติ แม้แต่ตนเองขอร้องว่าสภาพร่างกายไม่ไหวแล้ว แต่คนคุมไม่สนใจอะไรกับบังคับให้ตนเองให้บริการทางเพศกับลูกค้าต่อ

 

ตนเองจึงตัดสินใจทักหา นายหน้าซึ่งตนเองเรียกว่าแม่ พยายามคุยดีไปเกลี้ยกล่อมบอกว่าตนเองจะไม่ไหวแล้ว เนื่องจากมีไข้ ต้องการที่จะไปโรงพยาบาล ทางนายหน้าหรือแม่ บอกกับตนว่าหากไปหาหมอแล้วไม่เป็นความจริง ตนเองจะต้องถูกฆ่า หลังจากนั้นตนจึงถูกพาตัวส่งไปที่โรงพยาบาล ตรวจร่างกายพบว่า ซิลิโคนบริเวณหน้าออกแตก นายหน้าหรือแม่ จึงตัดภาระ ส่งตัวตนเองกลับประเทศไทย โดยสภาพปางตาย

 

ขณะที่ นางสาวพลอย นามสมมุติ ผู้เสียหายอีกคน เปิดเผยว่า ตนเอง บินตามไปวันที่ 28 สิงหาคม 2566 แต่เมื่อไปถึงก็ถูกกระทำเช่นเดียวกันกับนางสาวแอน จึงตัดสินใจชวนเพื่อนหลบหนี หลังจากหนีถูกตามตัวจับได้ จึงถูกนำไปขังไว้ในห้องแคบ ๆ มีเพียงแค่ช่องอากาศเล็กไว้ดูอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกนอนกับหนู นอนกับแมลงสาบ หลังจากถูกขังไว้นานถึง 8 วัน

 

ทางด้าน กัน จอมพลัง ระบุว่าวันนี้ตนเองพาน้องผู้เสียหาย มาพบท่านบิ๊กโจ๊กเนื่องจาก น้องผู้เสียหายสนใจสมัครงานไปร้านนวดแผนไทยที่อยู่ต่างแดน หลังจากไปถึงไม่เป็นอย่างที่ตนเองหวังไว้ กลุ่มคนไทยที่ดูแลอยู่ที่นั่นได้มีการยึดพาสปอร์ตไป ซึ่งทำตัวเป็นมาเฟียข่มเหงคนไทยด้วยกัน และบังคับให้ค้าประเวณี หากต้องการกลับประเทศให้จ่ายเงินค่าพาสสปอร์ตจำนวน 75,000 บาท หลังจากนั้นผู้เสียหาย พยายามหลบหนีออกมา แต่กลับถูกจับได้ และถูกข่มขู่กักขัง กลุ่มค้าประเวณียังอ้างว่ารู้จักกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดีย หากหลบหนีจะถูกตาม และขู่ฆ่าเอาชีวิต ตนเองรู้สึกแย่มาก ที่คนไทยในต่างแดนทำร้ายคนไทยด้วยกัน

 

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจาก กัน จอมพลัง หลังจากนี้จะสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ร่วมกับสหวิชาชีพในการสอบถามข้อมูลจากเหยื่อ และรวบรวมพยานหลักฐานในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในขบวนการดังกล่าว จนสามารถระบุตัวผู้ต้องหาได้ครบทั้งคนหลอกชักชวนเหยื่อ คนลักลอบพาข้ามแดน และคนไทยในประเทศอินเดีย ที่อยู่รับตัวเหยื่อปลายทาง โดยจะเร่งการสืบสวน ติดตาม จับกุมผู้ต้องหาให้ได้ทั้งหมด จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ช่วยกันดูแลบุตรหลานของท่าน รวมทั้งให้ระมัดระวังในการหางานผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย โดยหากพบเบาะแสเกี่ยวกับขบวนการหลอกลวงเหยื่อไปค้าประเวณี หรือค้ามนุษย์ สามารถแจ้งได้ทุกช่องทาง