logo ข่าวเย็นประเด็นร้อน

“เศรษฐา” ถือฤกษ์สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำทำเนียบฯ พร้อมจี้ ครม.เร่งผลิตผลงาน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน : ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เศรษฐา ร่วมประชุม ครม.นัดพิเศษ พร้อมจี้บรรดารัฐมนตรี ต้องเร่งผลิตผลงานทันที โดยยืนยันมีอิสระในการทำงา ช่อง7,ช่อง7HD,CH7,CH7HD,7HD,CH7HDNEWS,ข่าว,ข่าว7,ข่าวช่อง7,ข่าววันนี้,ข่าวใหม่,ข่าวล่าสุด,ข่าวสด,ข่าวเด็ด,ข่าวด่วน,ข่าวร้อน,ข่าวไทย,ข่าวออนไลน์,ข่าวโซเชียล,ข่าวสังคม,ข่าวภูมิภาค,ข่าวเศรษฐกิจ,ข่าวการเมือง,ดูทีวีย้อนหลัง,ดูรายการย้อนหลัง,ดูย้อนหลัง,ถกไม่เถียง,ทินถกไม่เถียง,TERODigital,ข่าวเย็นประเด็นร้อน,สวิตต์ ลีละพงศ์วัฒนา,สงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์,เปรมสุดา สันติวัฒนา,ฝนฟ้าอากาศ,ทิน โชคกมลกิจ

628 ครั้ง
|
06 ก.ย. 2566
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เศรษฐา ร่วมประชุม ครม.นัดพิเศษ พร้อมจี้บรรดารัฐมนตรี ต้องเร่งผลิตผลงานทันที โดยยืนยันมีอิสระในการทำงาน หลังถูกโยงเรื่องความใกล้ชิดตระกูล ชินวัตร
 
เศรษฐา ถือฤกษ์สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ
 
ความเคลื่อนไหวการเมืองวันนี้ เริ่มกันที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีท่านอื่น ๆ เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้า โดยใช้ฤกษ์เวลา 08.00 น. เพื่อทำการสักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิเจ้าที่ และศาลตา-ศาลยาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล
 
โดยนายเศรษฐา กล่าวภายหลังสักการะ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า รู้สึกสบายใจ และขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปกป้องบ้านเมืองให้ปลอดภัยในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภัยเศรษฐกิจ ภัยสังคม หรือความแตกแยก
 
เศรษฐา จี้ ครม.เร่งผลิตผลงานทันที
 
จากนั้นเวลา 09.00 น. นายเศรษฐา นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี นัดพิเศษ ซึ่งเป็นนัดแรก มีวาระการพิจารณาหลัก ๆ เช่น เรื่องการจัดทำคำแถลงนโยบายคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 กันยายน โดยนายเศรษฐา พูดย้ำก่อนเริ่มประชุมว่า จะยึดมั่นการทำงานแบบรวดเร็ว อะไรที่สามารถทำได้ และไม่ติดข้อกฎหมาย อยากให้รีบผลิตผลงานทันที
 
เศรษฐา ตอบชัดมีอิสระในการทำงาน
 
ภายหลังจบการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ นายเศรษฐา แถลงข่าวว่า เมื่อเป็นรัฐบาลของประชาชนแล้ว ต้องทำงานแบบลืมความเหน็ดเหนื่อย ต้องดูเรื่องการจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม และต้องให้เกียรติข้าราชการ
 
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นดรามา ไม่มีนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย อยู่ในร่างนโยบายที่จะแถลงนั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า คำแถลงจะเป็นกว้าง ๆ และดูเรื่องการขนส่งทั้งหมด เช่น ทางน้ำ ทางอากาศ ทางบก และราง พร้อมดูว่า ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมควรจะเป็นเท่าไหร่
 
เมื่อถามว่า มีอิสระในการทำงานมากน้อยเพียงใด เนื่องจากถูกมองว่ามาจากพรรคเพื่อไทย ที่มีความใกล้ชิดตระกูล ชินวัตร นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนเองมีอิสระในการทำงาน ไม่ใช่แค่ครอบครัวชินวัตร แต่รัฐบาลนี้ต้องการทำงานเพื่อประชาชน
 
เศรษฐา ทดลองนั่งรถเบนซ์กันกระสุน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายเศรษฐา กำลังจะเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล ด้วยรถยนต์ส่วนตัว Lexus LM 350h Executive นายเศรษฐา ได้มีการทดลองนั่งรถยนต์ ยี่ห้อเมอร์เซเดส-เบนซ์ S600 Guard Sedan Long สีดำ ทะเบียน 4 กค 29 ซึ่งเป็นรถซีดาน หุ้มเกราะที่จัดซื้อพร้อมกัน 4 คัน เพื่อใช้เป็นรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรับรองแขกคนสำคัญของรัฐบาล แต่รถคันดังกล่าว เป็นคนละคันกับรถที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้ระหว่างดำรงตำแหน่ง ซึ่งเป็นทะเบียน 4 กต 29 
 
แต่เมื่อทดลองนั่งแล้ว นายเศรษฐา ที่มีความสูง 192 เซนติเมตร ไม่สามารถนั่งได้ เนื่องจากศรีษะติดเพดานรถ และนั่งไม่สบาย จึงกลับไปใช้รถยนต์ส่วนตัวตามเดิม
 
ดันเป็น รัฐบาลดิจิทัล แก้ปัญหาทุจริต
 
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังร่วมงานกิจกรรมวันต่อต้านคอร์รัปชันแห่งประเทศไทย ที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โซนประตู 4 พร้อมระบุว่า ไทยได้รับการจัดอันดับดัชนีความโปร่งใส เป็นอันดับ 101 ของโลก และเป็นอันดับ 4 ของอาเซียน ต่ำกว่าสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม ฉะนั้นหมายความว่า มีเรื่องต้องพัฒนาอีกเยอะ
 
โดยรัฐบาลมีนโยบายเอาเทคโนโลยีเข้ามา เพื่อช่วยให้เกิดความโปร่งใส และตรวจสอบได้ในกระบวนการต่าง ๆ ทำให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล เมื่อหลักนิติธรรมมั่นคงแข็งแรง การออกกฎหมาย จะยึดประโยชน์ประชาชนเป็นหัวใจสำคัญ
 
เบื้องต้นตัวอย่างนโยบายที่จะนำมาใช้ในอนาคต เช่น ระบบการจ่ายเงินภาครัฐ ผ่านอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสด เปิดให้ขอใบอนุญาตผ่านอิเล็กทรอนิกส์ปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้ง่าย และโปร่งใส รวมถึงเปิดข้อมูลให้ตรวจสอบได้เป็นต้น
 
แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปฯ เป๋าตัง
 
ไปต่อกันที่ประเด็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งเมื่อวานนี้ นายเศรษฐา บอกว่า จะทำได้ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 นั้น มีรายงานข่าวว่า เบื้องต้นรัฐบาลวางแนวทางว่า จะดำเนินการผ่านแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ 40 ล้านคน โดยจะเพิ่มฟังก์ชันของโครงการแจกเงินดิจิทัล เข้าไปในแอปฯ คล้ายกับโครงการ คนละครึ่ง ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
 
ยันนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทำได้แน่
 
ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล ตั้งข้อสังเกตเรื่องคำแถลงนโยบายรัฐบาล ที่อ้างว่าหลุดออกมา ไม่มีการบรรจุนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ตามที่หาเสียงไว้ว่า พรรคเพื่อไทยจะทำนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสาย ให้เกิดขึ้นภายใน 2 ปี
 
ส่วนที่ไม่ได้ระบุนโยบายดังกล่าว ในคำแถลงนโยบายรัฐบาล เพราะเป็นเพียงนโยบายย่อย ในนโยบายใหญ่ด้านโลจิสติกส์ และการขนย้ายประชาชน ซึ่งสามารถชี้แจงเพิ่มเติมต่อรัฐสภาได้
 
แต่งตั้ง นพ.พรหมินทร์ เป็นเลขาฯ นายกรัฐมนตรี
 
ส่วนผลการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ ที่มีนายเศรษฐา เป็นประธาน มีมติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอการแต่งตั้ง นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีผลตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน เป็นต้นไป
 
แฉปลัดกระทรวงอุดมศึกษาฯ จัดทริปต่างประเทศ 32 ครั้ง
 
ปิดท้ายที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กแฉพฤติกรรมปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมว่า ปลัดท่านดังกล่าว มีการเดินทางไปต่างประเทศมากถึง 32 ทริป จริงหรือไม่ โดยส่วนตัวได้รับข้อมูลว่า หลังการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2565 ถึง สิงหาคม 2566 ปลัดท่านนี้ มีภารกิจไปต่างประเทศ 32 ทริป
 
และในเดือน กันยายน 2566 ก่อนเกษียณอายุ ก็ยังมีแผนจะเดินทางไปต่างประเทศอีก 3 ทริป ซึ่งใช้งบประมาณมหาศาล เบื้องต้นมีการประเมินว่า บางทริปใช้งบประมาณถึง 5 ล้านบาท และเดินทางด้วยที่นั่ง First class หรือ Business class และการเดินทางในต่างประเทศ มักจะใช้รถรับรองแยกต่างหาก จากคณะเดินทางท่านอื่น ๆ
 
ทั้งนี้จะมีการตั้งกระทู้ถึงรัฐมนตรี กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม คนปัจจุบัน เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบพฤติกรรมส่อไปในทางที่ไม่เหมาะสม จะส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. พิจารณาดำเนินการต่อไป
 
ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35
 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง