“หนุ่ม 11 นิ้ว” เดือดร้อนหนัก สมัครงานไม่ได้ หลังถูกคนร้าย สวมบัตรประชาชนโบ้ยคดียาเสพติด ! : ช็อตเด็ด ถกไม่เถียง

เรื่องของการ สวมบัตรประชาชน โบ้ยคดี ยังมีมาให้เห็นเรื่อย ๆ หลังกรณีล่าสุดของ "หนุ่ม 11 นิ้ว" ที่ถูกคนร้ายสวมชื่อ ใช้สำเนาบัตรประชาชนไปก่อคดี ทำให้มีคดียาเสพติด ติดตัว 2 คดี เดือดร้อนหนักจนสมัครงานไม่ได้ ! 

 

 

            วันที่ 6 ก.ย. 2566 ธวัชชัย เถาชาลี (แบงค์) ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อ 2554 ตนถูกกรมคุมประพฤติเรียกไปรายงานตัว ในคดียาเสพติด เมื่อไปพบจึงทราบว่า สภ.เมืองพัทยา จับคนร้ายคดียาเสพติดได้ และผู้ต้องหาใช้สำเนาบัตรประชนของตนสวมรอย ตนจึงปฏิเสธความเกี่ยวข้องของเรื่องนี้ไป และมีอีกครั้งเมื่อปี 2557 ที่สภ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นผู้ต้องหารายเดิม และใช้สำเนาบัตรประชาชนของตนยืนยันตัวตนเหมือนเดิม ทำให้ตนมีชื่อติดคดียาเสพติด 2 คดี 

 

            เรื่องนี้ทำให้ตอนปี 2555 ตนถูกบริษัทให้ลาออก เนื่องจากเขาไปพบว่าตนมีชื่อก่อคดี จนตนต้องไปยืนยันความบริสุทธิ์ จึงได้ไปตรวจสอบก็พบว่า ลายนิ้วมือของตนไม่ตรงกับผู้ต้องหา เนื่องจากตนมี 11 นิ้ว แต่ผู้ต้องหามี 10 นิ้ว จึงได้รับใบยืนยันจากกองประวัติอาชญากร และสามารถกลับไปทำงานได้ ทว่าตนได้กลับมาทำงาน แต่ตนไม่สามารถไปสมัครงานที่ใหม่ได้เลย เรื่องนี้ยืนยันได้ว่าตนไม่เคยทำบัตรประชาชนหาย และไม่รู้จักเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา ตนคิดว่า สำเนาบัตรประชาชนตนหลุดไปในช่วงปี 2550 - 2557 ที่ตนมีการยื่นสมัครงานหลายที่ แล้วไม่ได้ขีดคร่อมสำเนาบัตรประชาชน

 

 

            ด้าน กนกวรรณ (แหม่ม) แฟนของผู้เสียหาย เล่าต่อว่า เรื่องนี้ทำให้แฟนตน เสียเวลาต้องเดินทางไปเคลียร์ประวัติเอง ลางานไป เสียเงินจ้างรถ จ้างทนายไปด้วย พร้อมกันนี้ก็เสียโอกาสหลาย ๆ อย่าง ไม่สามารถสมัครงานใหม่ได้ เคยไปที่กรมแรงงานก็ไม่ผ่าน ทำใบขับขี่ก็ไม่ได้ เสียโอกาสการหารายได้ไปเยอะ สิ่งที่อยากได้ตอนนี้คืออยากให้ลบประวัติอย่างเร็วที่สุด เพราะมีแพลนจะไปทำงานต่างประเทศกัน 

 

            ฟาก อาชาน โอภาสธนากูล (ตี๋) ทีมงานสายไหมต้องรอด กล่าวว่า ตนได้พาตัวผู้เสียหายไป ร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อขอความเป็นธรรม และลบประวัติของผู้เสียหาย ขณะเดียวกัน บิ๊กโจ๊กก็ได้ทราบเรื่อง และประสานงานต่อให้ไปยัง ผู้บังคับการจังหวัดชลบุรี ซึ่งดูแล้วว่าเคสนี้ไม่ยาก ต้องส่งเรื่องให้ สภ.พัทยา ให้รื้อฟื้นคดีกลับมาทำใหม่ 

 

            ขณะที่ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้ความเห็นว่า เคสนี้ ชื่อคุณธวัชชัย กับลายนิ้วมืออาชญากร มันไม่ตรงกันเลยตัวผู้เสียหายมี 11 นิ้ว มากกว่าผู้ต้องหา 1 นิ้ว ตำรวจควรเร่งแก้ไข การแก้ปัญหามันง่ายมาก แค่เอาลายนิ้วไปมือไปแสดงต่อหน้ากองประวัติอาชญากร ก็สามารถลบประวัติได้เลย เดี๋ยวตนจะช่วยประสานงานให้อีกแรง

 

 

            ด้าน เกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า สำหรับเคสของคุณธวัชชัย ตนยังไม่เคยเจอ ส่วนมากจะเป็นในกรณีที่มีคำสั่งศาลสั่งให้ลบประวัติอาชญากรแล้ว ส่วนเคสนี้จะต้องเป็นทางสำนักงานตำรวจต้นทางเป็นคนทำ เท่าที่ตนดูตามหลักฐานแล้ว ก็น่าจะไม่ยากในการลบประวัติ เดี๋ยวตำรวจก็จะทำการดำเนินการให้ ส่วนเรื่องเงินเยียวยาจากกระทรวงยุติธรรม เคสนี้ยังไม่เข้าข่ายได้รับเงิน 

 

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/zBxyLH3OA-U?si=B-rLx0Y6nkufDQ0O