“เศรษฐา” นำคณะ รมต.ทำบัตรประจำตัว ด้าน “สุทิน” ยัน พลเรือนคุมกระทรวงกลาโหมได้

260 ครั้ง

05 ก.ย. 2566

แชร์ข่าวไปที่

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เศรษฐา นำคณะรัฐมนตรี เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ พร้อมร่วมถ่ายภาพหมู่ โดยยืนยันเป็นรัฐบาลของประชาชน

เศรษฐา นำคณะรัฐมนตรีทำบัตรประจำตัว

ความเคลื่อนไหวการเมืองวันนี้ (5 ส.ค.) เริ่มกันที่บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคึกคักมาตั้งแต่ช่วงเช้า หลังคณะรัฐมนตรี เตรียมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ โดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมาถึงเป็นคนแรก เมื่อเวลา 09.35 น.

ส่วน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 10.37 น. จากนั้นบรรดารัฐมนตรีทั้งป้ายแดง และหน้าเก่า จะทยอยเดินทางเข้าตึกสันติไมตรี เพื่อถ่ายภาพติดบัตรประจำตัว

แต่ที่กลายเป็นไฮไลต์ และได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน คงเป็นรถที่ นายเศรษฐา ใช้ปฏิบัติภารกิจ ซึ่งไม่ใช่รถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่างรถ Mercedes-Benz S 600 Guard sedan long แต่เป็นรถยนต์หรูยี่ห้อ Lexus LM 350h Executive 4 ที่นั่ง

ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าว เป็นรุ่นท็อป มีราคาอยู่ที่ 7,590,000 บาท ที่ นายเศรษฐา ใช้เงินส่วนตัวซื้อมา และเป็นรถล็อตแรกของประเทศ ที่มีการนำเข้ามาจำหน่ายเพียง 40 คันเท่านั้น รถยนต์หรูคันนี้ มีคุณสมบัติพิเศษ ห้องโดยสารระดับเฟิสต์คลาส และตอนหลังออกแบบ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากที่นั่งเครื่องบินโดยสารชั้นเฟิสต์คลาส มีผนังกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว กระจกปรับความเข้มแสงอัจฉริยะ หน้าจอใหญ่ 48 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นเลิศ เป็นต้น

นอกจากความเฟิสต์คลาสของรถแล้ว ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า บริเวณคอนโซลหน้ารถ มีการแขวนหลวงพ่อโต วัดบวรนิเวศวิหาร และสายสิญจน์ลูกประคำของ ครูบาบุญชุ่ม ซึ่งจากตรวจสอบพบว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 อย่าง เป็นของคนขับรถประจำตัว นายเศรษฐา ที่ย้ายมาจากรถคันเก่า เพื่อนำมาบูชาในรถคันใหม่

เศรษฐา นำ ครม.ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ถ่ายภาพหมู่

กระทั่งเวลา 14.00 น. นายเศรษฐา พร้อมคณะรัฐมนตรี 34 คน เดินทางด้วยรถตู้ VIP ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังพระที่นั่งอัมพรสถาน เพื่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

จากนั้น นายเศรษฐา และคณะรัฐมนตรีทั้งหมด จะร่วมกันถ่ายภาพหมู่ ที่สนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดย นายเศรษฐา นั่งเก้าอี้อยู่แถวหน้า ร่วมกับรัฐมนตรีบางคน เช่น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นต้น

เศรษฐา ยันแถลงนโยบายต่อรัฐสภา 11 ก.ย.นี้

นายเศรษฐา แถลงอย่างเป็นทางการว่า หลังเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว ตนเองและคณะรัฐมนตรี จะน้อมพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการ และขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นของประชาชน ฉะนั้นจะต้องทำงานแบบลืมความเหน็ดเหนื่อย ซึ่งจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 11 กันยายนนี้

สุทิน ยันพลเรือนคุมกระทรวงกลาโหมได้

นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จะเข้าปฎิบัติงานวันแรก ที่กระทรวงกลาโหม ในวันที่ 13 กันยายน 2566 เวลา 09.00 น. โดยตอนนี้มีที่ปรึกษา ทั้งทหารที่อยู่ในราชการ และเกษียณอายุไปแล้ว โดยส่วนตัวขอย้ำว่า พลเรือนสามารถบริหารงานกระทรวงกลาโหมได้ และจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ที่ประชาชนต้องการให้เกิดความโปร่งใส และคุ้มค่าที่สุดนั้น นายสุทิน ระบุว่า เป็นความตั้งใจของตนเองอยู่แล้ว ทั้งเรื่องการทุจริต และความเคลือบแคลงสงสัยของสังคม หากมีตรงจุดไหน ก็ต้องเข้าไปดูแล

พัชรวาท ปัดคุมพลังประชารัฐแทน ประวิตร

ขณะที่ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกระแสข่าวเข้าไปดูแลพรรคพลังประชารัฐ แทน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่ใช่ เพราะพรรคพลังประชารัฐมี พลเอก ประวิตร เป็นคนดูอยู่แล้ว

เมื่อถูกถามว่า พลเอก ประวิตร บอกเรื่องจะลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ เมื่อไหร่ พลตำรวจเอก พัชรวาท กล่าวสั้น ๆ ว่า ไม่ได้พูดอะไร

ติดตาม รายการ “ข่าวเย็นประเด็นร้อน” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 15.45-17.30 น. ทางช่อง 7HD กด 35